โจรใต้เอ็ม16บุกถล่ม อบต.กะพ้อ-ดับ1เจ็บ3

โจรใต้ใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงบ้านนายกอบต.กะพ้อ เผยขณะนั่งคุยกับอบจ.ปัตตานีและชาวบ้าน โดนกระสุนดับไป 1 บาดเจ็บอีก 3 นายกฯ อภิสิทธิ์ ยืนยันหลังลงใต้จะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่นายกอบต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดหน้าบ้านพักเลขที่ 6/13 ม.4 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี

ผู้เสียชีวิตคือนายมูอำหมัดรุสลัน สะแลแม อายุ 34 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บประกอบด้วย 1.นายอับดุลการิม ยูโซะ อายุ 33 ปี ส.อบจ.กะพ้อ บาดเจ็บถูกยิงที่ด้านหลัง 1 นัด และขา 2 นัด, นายอับดุลรอนิง เซ็ง นายกอบต.ตะโละดือรามัน อายุ 39 ปี ถูกยิงที่บริเวณขา 1 นัด และด.ญ.ยามีละ สะแลแม อายุ 12 ปี ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลกะพ้อ

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่นายกอบต.พร้อมพวก 5 คน นั่งคุยอยู่ในศาลาที่พักหน้าบ้านซึ่งมักจะนั่งคุยกับเพื่อนบ้านเป็นประจำ ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าสี่ประตู เข้ามาจอดที่เกิดเหตุพร้อมกับใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 กราดยิงใส่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ในตอนท้ายว่า 1 วันที่ผ่านมาไม่ได้มีแต่เรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลเร่งแก้ไข ปัญหาภาคใต้เราก็ให้ความสำคัญ วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ผมได้พาคณะกรรมการรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลงไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ พบปะประชาชน ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังภายหลัง เพราะกำลังจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในที่นั่น และก็ยังมีปัญหาที่ยังค้างอยู่เหมือนกัน แต่การแก้ปัญหาที่สุดแล้วก็คือต้องนำความสันติสุขแบบยั่งยืนกลับคืนมาให้ได้ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกคน ที่ตรึงสถานการณ์และใช้กฎหมายพิเศษ บางครั้งอาจจะกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ก็ได้กำชับว่าการแก้ปัญหาทั้งหมดต้องเคารพสิทธิมนุษยชน ใครที่มีความคลางแคลงใจก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้

นายกฯกล่าวต่อว่า ในวันที่ 19 ม.ค. เรียกหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนเข้าหารือเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน สุดท้ายแล้วปัญหาชายแดนภาคใต้ หัวใจไม่ได้อยู่ที่ความมั่งคงเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การพัฒนา การสร้างโอกาส การให้ความเป็นธรรม จึงเป็นงานที่รัฐมนตรีชุดพิเศษทุกกระทรวงต้องช่วยกันศึกษาและแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมโนโวเทล เซ็นทารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ จัดเวทีคลังสมองเครือข่ายแก้ไขปัญหาภาคใต้ ภายใต้หัวข้อ 5 ปีไฟใต้ สงคราม ความรู้ ความสับสน แล้วไงต่อ โดยมีนักวิชาการ นักการเมือง ผู้นำศาสนา และสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า 200 คน

โดยศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ได้สรุปเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 5 ปี คือตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547-31 ธันวาคม 2551 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรวม 8,633 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บจำนวน 6,034 คน และเสียชีวิตจำนวน 2,262 คน ซึ่งสถานการณ์โดยรวมเริ่มลดระดับความรุนแรงลงนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา

จากการประเมินแนวโน้มสถานการณ์ในปี 2552 สิ่งที่นักวิชาการเป็นห่วงและเตือนให้ฝ่ายรัฐจับตาอย่างใกล้ชิดคือ การปรับยุทธศาสตร์ของฝ่ายขบวนการฯ โดยเฉพาะการส่งกองกำลังเข้าร่วมรบในสงครามยิว-ปาเลสไตน์ เพื่อผูกมิตรกับกองกำลังติดอาวุธในฉนวนกาซ่าตะวันออกกลาง ซึ่งจะเป็นช่องทางในการชักนำกองกำลังต่างชาติกลุ่มต่างๆ ให้มาช่วยสนับสนุนต่อสู้กับรัฐไทยในอนาคต และเปลี่ยนประเด็นจากเรื่องชาตินิยมเป็นความศรัทธาในศาสนา ในขณะที่แนวทางการแก้ปัญหาของภาครัฐ จะต้องยึดหลักการเมืองนำการทหารจริงๆ และเน้นปฏิบัติการด้านข่าวสารที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น ควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้งการเมืองการปกครอง การศึกษา กีฬา สังคม จิตวิทยา และด้านเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ที่สำคัญต้องเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนที่มองเจ้าหน้าที่รัฐในทางที่เข้าใจให้มากขึ้น

(กรอบบ่าย)