เพื่อไทยตั้ง เชษฐา ปธ.ที่ปรึกษาพรรค พผ.เชื่อศึกงัดข้อใกล้สงบ มอบเฉลิมชัยนำทีมแจง กกต.

เพื่อไทยตั้ง เชษฐา ปธ.ที่ปรึกษาพรรค พผ.เชื่อศึกงัดข้อใกล้สงบ มอบเฉลิมชัยนำทีมแจง กกต.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เพื่อไทยตั้ง เชษฐา ปธ.ที่ปรึกษาพรรค - เฉลิม นั่งปธ.ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ต้น ก.พ.จัดสัมมนาเตรียมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน กำหนดยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ด้านพรรคเพื่อแผ่นดินเชื่อศึกงัดข้อใกล้สงบ ประชุม กก.บห. มอบเฉลิมชัยนำทีมแจงกกต. กรณีไม่ยื่นแจ้งเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ไร้เงา ประชา ร่วมด้วย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 20 มกราคมว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งในโครงสร้างชุดใหม่เพื่อทำหน้าที่ร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นหัวหน้าพรรค ดังนี้ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายคณวัฒน์ วศินสังวร รับผิดชอบสำนักโฆษกและประชาสัมพันธ์ น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค รับผิดชอบศูนย์รับฟังความเดือดร้อนของประชาชน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คณะกรรมการอำนวยการพรรค แยกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ สำนักบริหาร ผอ.พรรค มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้ดูแล สำนักกิจกรรมทางการเมือง นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปรัฐบาล) เป็นผู้ดูแล สำนักกฎหมาย นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นผู้ดูแล สำนักนโยบายและวิชาการ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้ดูแล และสำนักส.ส. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน รับผิดชอบ โดยระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ จะจัดสัมมนา ส.ส.พรรค ที่โรงแรมโกลเด้น วัลเลย์และกรีนวัลเลย์ รีสอร์ท จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมพร้อมการทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านและกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง

ด้านนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) นัดประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) และส.ส.พรรคที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสะพานหัวช้าง เมื่อบ่ายวันเดียวกัน โดยส.ส.กลุ่ม 12 ภายใต้การนำของพล.ต.อ.ประชา รหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย

จากนั้นนพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส. นครพนม กลุ่มวังพญานาค กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายเฉลิมชัย ตันติวงศ์ อดีตอัยการ เป็นผู้อำนวยการพรรคแทนนายชาญชัย พร้อมมอบหมายให้นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของพรรค เพื่อไปชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังกกต. เตรียมแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี พผ. ไม่ยอมยื่นรายงานผลการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคและกก.บห. ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

นพ.อลงกต กล่าวว่า เชื่อว่าความขัดแย้งภายในพรรคน่าจะจางลงไปในเร็วๆ นี้ เพราะขณะนี้ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันอยู่ ขณะนี้รอเพียงคำชี้ขาดจากกกต. เท่านั้น หากกกต. ชี้ว่ากระบวนการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกก.บห.พผ. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2551 ไม่เป็นโมฆะ สมาชิกพผ. ทุกคนก็พร้อมยอมรับการทำหน้าที่ของพล.ต.อ. ประชา แต่ถ้ากกต. บอกว่ามีปัญหาก็ต้องจัดการประชุมกันใหม่

ที่ประชุม พท. ที่มีนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน โดยมีนายพายัพ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องชายและน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอีกคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ฝากข้อความผ่านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สมาชิกพรรคถึงนายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ คนใกล้ชิดนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนกรรมการบริหาร พท. จนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มของนายยงยุทธ และนางเยาวภาว่า หากมีปัญหาอะไรให้มาพูดกันภายในพรรค อย่านำเรื่องไปพูดต่อสาธารณะ เพราะทำให้พรรคเสียหาย

ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งต่อที่ประชุมว่า พรรคจะเปิดแคมเปญใหม่ ภายใต้ชื่อ เพื่อไทยพบประชาชน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยเปิดศูนย์ประสานงานของพรรคพร้อมกันทั่วประเทศ 182 แห่ง ตามจำนวน ส.ส.ของพรรค ใช้ชื่อว่า ศูนย์เพื่อไทยพบประชาชน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนานโยบาย และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวในที่ประชุมถึงเป้าหมายของพรรคว่า จะขยายจำนวนสมาชิกจาก 2-3 ล้านคน เป็น 10 ล้านคนในอนาคต ดังนั้น ขอให้สมาชิกทุกคนลงพื้นที่หาสมาชิกให้ได้อย่างน้อยคนละ 1,200 คนต่อ 1 เขตเลือกตั้ง เพื่อร่วมงานทางการเมืองกับพรรค โดยในจำนวนดังกล่าวจะต้องเป็นสมาชิกเกรดเอ คือ เมื่อพรรคส่งสัญญาณไปยังสมาชิกเมื่อใดสมาชิกเหล่านั้นจะต้องมีความพร้อมในทันที โดยพรรคจะเดินหน้าสู้อย่างเต็มร้อย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังประเมินการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เพื่อให้สมาชิกติดตามและรวบรวมข้อมูลอย่างใกล้ชิด ดังนี้ 1.เรื่องการแจกที่ดิน ส.ป.ก. ที่ขณะนี้กำลังจับตาดูว่ารัฐบาลจะทำตามระเบียบของ ส.ป.ก.หรือไม่ 2.ท่าทีของรัฐบาลต่อการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ 3.ท่าทีของรัฐบาลต่อการทวงคืนประสาทพระวิหาร และ 4.การผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โดยตั้งสังเกตว่าน่าจะมีสิ่งผิดปกติซ่อนเงื่อนอยู่ ที่ประชุมยังหยิบยกการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดย ร.ต.อ.เฉลิมบอกกับที่ประชุมว่า ไม่ควรที่จะเปิดอภิปรายในเร็ววันนี้ ให้รอเอกสารชิ้นเด็ดก่อน เพราะหากมีจริง รัฐบาลก็อาจต้องกลับบ้านเก่าทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook