เพื่อไทยฟุ้งข้อมูลส.ป.ก.เพียบ แฉใส่ชื่อลูกน้องตบตา3ทอด รบ.เล็งสอบเข้มการถือครองสิทธิหนีข้อครหา

เพื่อไทยฟุ้งข้อมูลส.ป.ก.เพียบ แฉใส่ชื่อลูกน้องตบตา3ทอด รบ.เล็งสอบเข้มการถือครองสิทธิหนีข้อครหา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์คคิดใช้ระบบประเมินผลสกัดสวมสิทธิส.ป.ก. ถาวรประสานธีระลดกระแสต้าน ให้ตั้งกก.ภาคประชาชนตรวจสอบ พร้อมเอกซเรย์ เศรษฐี บิ๊กขรก. นักการเมืองถือครอง เผยหากจัดสรรหมดในอีก2ปีข้างหน้า เล็งซื้อที่รกร้างมาให้ปชช.เช่าต่อ พท.ไม่เลิกคุยมีข้อมูลอื้อ อ้างใส่ชื่อลูกน้องตบตา3ทอด ใช้เกษตรกรถือแทนนายทุนก็มี

มาร์คยืนยันเดินหน้าแจกส.ป.ก.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการผลักดันการแจกเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.4-01 ตามนโยบายรัฐบาล ว่า วันนี้ยังไม่ได้ดูในรายละเอียด แต่ที่ยืนยันในเชิงนโยบายเพราะเป็นนโยบายที่ต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ และมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ซึ่งทุกฝ่ายได้เข้าใจถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จึงต้องมีการปรับแก้บรรทัดฐานที่เกิดขึ้นตามคำวินิจฉัยทางกฎหมาย แต่รายละเอียดพื้นที่ไหนอย่างไร และจำนวนเท่าไรนั้นยังไม่ได้มีการรายงานมา แต่โดยหลักการนั้นเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาที่ทำกินวิธีหนึ่ง ซึ่งนอกจากนั้นก็มีเรื่องธนาคารที่ดินและโฉลดชุมชนด้วย ทั้งนี้คงต้องไปตรวจสอบเรื่องพื้นที่อีกครั้ง เพราะตัวเลขหลายฝ่ายยังพูดไม่ตรงกัน แต่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้ดำเนินการ

นายกฯ กล่าวถึงวิธีการป้องกันไม่ให้ที่ดินส.ป.ก.ไปตกอยู่ในมือตัวแทนหรือนอมินีที่เข้ามาสวมสิทธิ ว่า คงต้องประเมินและติดตามว่าผู้ที่ได้รับไปนั้นเป็นใครและนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องไหน หากไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายก็ต้องเอาคืนมา ของเก่าที่เคยได้กันไปก็ได้ฟ้องร้องต่อศาล และหลายฝ่ายก็ทยอยมีคำพิพากษามา บางกรณีก็ได้ที่ดินคืน แต่บางกรณีก็ไม่ได้ แต่เรื่องนี้กระบวนการยุติธรรมคงดูตามข้อเท็จจริงของแต่ละกรณี

มท.3ให้ดึงภาคปปช.ร่วมฟอก

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้เปิดประเด็นการผลักดันแจกส.ป.ก.4-01ของฝ่ายนโยบาย นอกเหนือจากการดำเนินการตามปกติของสำนักงานคณะการรมการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งที่อยู่กระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นเพราะผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายด้านที่ดินว่ากรมที่ดินสามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้บ้าง จึงได้ชี้แจงไปว่ากรมที่ดินจะเข้าไปดูแลแนวเขตเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยขณะนี้เหลือที่ซึ่งกรมป่าไม้มอบให้กับส.ป.ก.เพียง 3-4 ล้านไร่ก็จะเสร็จสิ้นโครงการ

ซึ่งผมได้คุยกับ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วว่า ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรที่จะมารับที่ดินส.ป.ก.4-01 โดยต้องไม่ให้เอกสารสิทธิ์แก่คนที่อ้างตัวมาสวมสิทธิ และให้ตั้งคณะกรรมการภาคประชาชนเข้ามามีส่วนในการตรวจสอบ และผมยังขอให้มีการตรวจสอบว่าที่ดินส.ป.ก.ทั่วประเทศ มีนักการเมือง เศรษฐี ข้าราชการขั้นผู้ใหญ่ ที่ไม่ได้เป็นเกษตรกรเข้าไปครอบครองหรือไม่ ถ้าตรวจสอบพบก็อยากให้นำที่ดินนั้นกลับมาแจกจ่ายให้กับเกษตรกรนายถาวรกล่าว

ท้าเปิดชื่อ-เล็งซื้อที่รกร้างมาให้เช่า

นายถาวร กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุ นโยบายนี้อาจทำให้รัฐบาำรอยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในอดีตที่นำส.ป.ก.4-01 ไปแจกให้กับเศรษฐี คหบดี ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม รวมถึงนักการเมืองพรรคเดียวกันว่า คนเหล่านั้นคงกลัวว่ารัฐบาลจะได้รับคำชมเลยออกมาขัดขวาง หากค้านเพื่อประชาชนก็ยินดีรับฟัง แต่ถ้าค้านอย่างมีอคติกลัวว่ารัฐบาลจะได้รับความนิยมมากขึ้น ก็อยากให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบด้วย

ที่ฝ่ายค้านออกมาเปิดประเด็นเรื่องคนในรัฐบาลให้นอมินีถือครองที่ดินใน 4 จังหวัดอันดามันนั้น หากฝ่ายค้านมีข้อมูล ก็ขอให้เปิดชื่อมา อย่ามาพูดเพื่อเป็นประเด็นทางการเมืองเท่านั้น เช่นเดียวกับที่อ้างเรื่องถือครองที่ชายฝั่งโดยมิชอบด้วย ถ้าฝ่ายค้านแน่จริง ก็ขอให้เปิดชื่ออกมาว่านักการเมืองคนไหนครอบครองอยู่ นายถาวรกล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า สำหรับที่ดินส.ป.ก.นั้น อีกไม่เกิน 2 ปีจะนำไปจัดสรรหมดแล้ว ฉะนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการตามนโยบายอื่น เช่น ธนาคารที่ดิน ซึ่งรัฐจะเข้าไปซื้อที่รกร้างมาให้ประชาชนเช่าต่อไป

เฉลิมคุยข้อมูลเพียบแจกปุ๊บรู้ปั๊บ

ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า พรรคยังไม่มีมติแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมตรวจสอบนโยบายแจกที่ดิน สปก.4-01 แต่ถ้าพรรคมอบหมายก็ยินดี อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลนี้คงไม่กล้านำที่ดินส.ป.ก .4-01 ไปแจกเศรษฐีและส.ส.อีก

ส่วนการให้คนใกล้ชิดถือครองที่ดินแทน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า มีข้อมูลเยอะมาก ตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วโดนปิดล้อมที่จังหวัดกระบี่นั้น ความจริงแล้วมีคนกระบี่ไม่กี่คน ที่เหลือมาจาก สุราษฏ์ธานีและภูเก็ต เพราะเขารู้ว่าผมมีข้อมูลเรื่องนี้ จึงกลัวว่าจะไปตรวจสอบเจอเรื่องการถือครองที่ดินมิชอบ การถือครองที่ดินมิชอบกระจายอยู่ค่อนประเทศแต่ก็สามารถเจรจาอนุโลมกันได้ หากที่ดินนั้นไปตกอยู่กับเกษตรกรที่ยากจน

ส่วนข้อมูลที่อ้างว่ามีอยู่ในมือมีมากพอที่จะล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่แจก แต่ถ้ารัฐบาลแจก ก็จะรู้เส้นทางเพราะตรวจสอบไม่ยาก

ที่เอ่ยชื่ออีกคนว่าเป็นผู้นำข้อมูลมาอภิปรายล้มรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ไม่ใช่นายเนวิน ชิดชอบ เป็นแค่คนกล่าวสรุปข้อมูลตอนท้ายเท่านั้น แต่ผู้อภิปรายสามชั่วโมงเป็นผมนี่แหละ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

อ้างใส่ชื่อลูกน้องตบตา3ทอด

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพท. ผู้เปิดประเด็น มีตัวแทนคนในรัฐบาลถือครองที่ดินนับแสนไร่ใน 4 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ต้องสงสัยอาจเกี่ยวพันกับโครงการแจกส.ป.ก.4-01 และนโยบายที่ทำกินอื่นๆ เปิดเผยว่า ได้ข้อมูลจากการลงพื้นที่ว่ามีส.ป.ก.แปลงร่างในพื้นที่จังหวัดฝั่งอันดามันกว่า 1 แสนไร่ โดยเป็นการสวมสิทธิ์ เช่นนายทุนที่เป็นเจ้าของใส่ชื่อลูกน้องไว้ 2-3 ทอดเป็นเจ้าของเพื่อไม่ให้สืบหาได้ และยังมีความพยายามที่จะเปลี่ยนประเภทเอกสารสิทธิ์จากส.ป.ก. ให้เป็นเอกสารสิทธิ์ประเภทอื่นที่เปลี่ยนมือได้ นอกจากนี้ยังใช้พื้นที่ผิดประเภท เพราะที่ส.ป.ก.มีจุดประสงค์ให้ใช้เพื่อการเกษตร แต่กลับมีการปลูกบ้าน ปลูกรีสอร์ท ซึ่งเจ้าของนั้นเป็นคนครือข่ายของรัฐบาลนี้ทั้งสิ้น

ผมยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ทั้งหมด เพราะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองนอกสภา แต่จะเก็บข้อมูลเพื่อให้ส.ส.เป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา นอกจากพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน จะมีการตรวจสอบการออกส.ป.ก.ทั่วประเทศ ขณะนี้ทราบว่ามีหลายจังหวัดที่มีการสวมสิทธิ์และออกโดยมิชอบ เช่นที่กาญจนบุรีนายพร้อมพงศ์ กล่าว

โฆษกพท.กล่าวว่า จะเปิดตู้ ปณ.พรรคเพื่อไทย รับเรื่องร้องเรียนและข้อมูลเรื่องส.ป.ก.จากประชาชน และหากประชาชนคนใดมีข้อมูลจริงๆ ตัวแทนพรรคพร้อมจะเดินทางไปพบถึงบ้าน โดยพร้อมกับปกปิดรายละเอียดส่วนตัวเป็นความลับ

ใช้เกษตรกรถือแทนนายทุนก็มี

นายสฤษพงษ์ เกี่ยวข้องดำรง โฆษกคณะกรรมการประสานงานภาคใต้ พท. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานภาคใต้มีความเป็นห่วงกรณีที่รัฐบาลผลักดันนโยบายการแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดินส.ป.ก.4-01 ว่าจะเป็นการรื้อฟื้นของเก่า โดยมีเจตนาที่จะต่อยอดนโยบายเดิมที่เป็นนโยบายที่ผิดพลาด ที่ดินในพื้นที่ภาคใต้กว่า 4 แสนไร่ ล้วนแล้วแต่อยู่ในการถือครองของคนในซีกรัฐบาลทั้งสิ้น เป็นการถือครองที่มีความสลับซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อเกษตรกรเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าของตัวจริงคือกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้

นายสฤษพงษ์ยังกล่าวหานายทุนและบุคคลใกล้ชิดส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า การถือครองที่ดินในกระบี่ ปัจจุบันมีผู้ถือครองที่ดินไว้หมดแล้ว โดยบุคคลที่เข้าไปถือครองส่วนใหญ่เป็นของตระกูลใหญ่ในจังหวัด ที่เป็นนายทุนของพรรคประชาธิปัตย์ และมีความใกล้ชิดกับนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้น้องชายคนหนึ่งในตระกูลดังกล่าวยังเป็นหัวหน้าสาขาพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย

นายสฤษพงษ์กล่าวว่า หากจะมีการตรวจสอบการถือครองที่ดินครั้งนี้จะทำได้ยากขึ้นเพราะรัฐบาลมีบทเรียนจากอดีตที่ผ่านมาทำให้ต้องระมัดระวังอย่างมาก การเข้าไปถือครองอาจจะใช้วิธีการแนบเนียน อาจจะให้คนสนิทของนักการเมืองหรือนายทุนเข้าไปถือครองที่ดินอีกที ที่ดินส่วนนี้มูลค่ามหาศาลบางพื้นที่มูลค่านับ 10 ล้านบาทต่อไร่ นอกจากนี้พื้นที่ที่เป็นอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าสงวน ยังถูกบุกรุกแล้วเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook