คลังเฉือน4หมื่นล้านไขลานศก.ก๊อกสอง มั่นใจหนุนจีดีพีโต2.5-3%-อัดยาอสังหาฯแรงรอบ30ปี

คลังเฉือน4หมื่นล้านไขลานศก.ก๊อกสอง มั่นใจหนุนจีดีพีโต2.5-3%-อัดยาอสังหาฯแรงรอบ30ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ผ่านครม.เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า เชื่อว่าหลายฝ่ายเห็นด้วย เพราะส่วนใหญ่จะเน้นโครงสร้างภาษีปรับปรุงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) วิสาหกิจชุมชน ภาคการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกจะติดลบ โดยถือเป็นมาตรการระยะปานกลางที่จะเสริมสร้างภาคธุรกิจให้มีการปรับตัวและเป็นมาตรการทางจิตวิทยา

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะสูญเสียรายได้กว่า 40,000 ล้านบาท จากมาตรการดังกล่าว แต่หากมาตรการเหล่านี้ชัดเจนและเข้าสู่ระบบภาคธุรกิจโดยเร็ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 และ 3 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะขยายตัวเป็นบวก 0.5-1% และมีโอกาสที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้น่าจะขยายตัว 2.5-3%

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ว่า เป็นมาตรการที่ดีที่สุดที่รัฐบาลจะทำได้ภายใต้ขอบเขตที่จำกัด ดังนั้น จึงจะต้องให้ยาแรง เพื่อกระตุ้นให้ได้ผล คงต้องติดตามว่าการปฏิบัติของรัฐบาลจะทำได้รวดเร็วและจริงจังมากน้อยแค่ไหน

ด้านนายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลหวังผล 2 เรื่อง คือ แบ่งเบาภาระให้ประชาชน และกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ซึ่งประชาชนจะมีกำลังซื้อกลับมาต่อเมื่อมีความเชื่อมั่นไม่เช่นนั้นประชาชนจะเก็บออม เพราะไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนเป็นจำนวนเท่ากับมูลค่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3 แสนบาท และต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายในปีนี้ อีกทั้งยังคงให้ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างที่อยู่อาศัย ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี เป็นผลดีทำให้ประชาชนที่ลังเลใจ สามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งเท่ากับรัฐบาลได้ช่วยเหลือรับภาระประมาณ 4-5 แสนบาท สำหรับผู้ซื้อบ้านราคาประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป และประชาชนจะประหยัดทั้งค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ที่เหลือเพียง 0.01% ไปถึงสิ้นเดือนมี.ค.53 อีกด้วย

มาตรการของรัฐบาลถือว่า มากกว่าที่คาดไว้ ตั้งแต่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 ปี ถือว่าปีนี้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด ทำให้เชื่อว่า ปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะเติบโตได้ใกล้เคียงปีที่แล้ว คือ มียอดขายประมาณ 70,000 หน่วย ซึ่งหากเศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีขึ้น ยอดขายก็จะแซงหน้าปี51 ได้นายอธิป กล่าว

รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จะสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.นี้ ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมัน จะเพิ่มขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.52 ตามประกาศราคาขายปลีกของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือ ณ คลังน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการทุกรายทั่วประเทศอีกครั้งเพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากส่วนต่างของราคาน้ำมันขายปลีกที่เพิ่มขึ้น และขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมัน เจ้าของสถานีบริการทุกแห่งอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของทางราชการที่จะเข้าไปตรวจวัด ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 31 ม.ค.นี้ โดยหยุดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่เวลา 24.00 น. จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจวัด ตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองผลการตรวจวัดเสร็จเรียบร้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook