ป.ป.ช.ฟัน 3 บิ๊ก ม.เกษตร ผิดวินัย พืชสวนโลก แต่อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตรพ้นข้อกล่าวหาทุจริต
ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องกล่าวหา นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และรองศาสตราจารย์วิโรจ อิ่มพิทักษ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับพวก ทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 ที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยนำงานที่ปรึกษา งานที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงาน และงานควบคุมงานไปให้เอกชนดำเนินการ โดยหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าว่ด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 รวมทั้งมีการลดเนื้องานและงบประมาณการก่อสร้าง หลังจากที่มีการเปิดซองเสนอราคาแล้ว ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย โดยมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ และนายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นอนุกรรมการไต่สวน นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2546 อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ดำเนินการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง เชียงใหม่ พื้นที่ 470 ไร่ กรมวิชาการเกษตร โดยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้จ้าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยรองศาสตราจารย์วิโรจ อิ่มพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในขณะนั้น เป็นที่ปรึกษาออกแบบผังแม่บทและสิ่งก่อสร้างงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 วงเงินค่าจ้าง 35 ล้านบาท จ้างควบคุมงาน 20 ล้านบาท และจ้างเป็นที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงาน (เพิ่มเติม) อีก 4,500,000 บาท
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างพร้อมสาธารณูปโภคและภูมิสถาปัตย์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 โดยมีกิจการร่วมค้า CKNNL เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน 1,259,650,000 บาท แต่ยังเป็นราคาที่สูงกว่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในวงเงิน 1,200,000,000 บาท จึงได้มีการปรับลดรายการก่อสร้างลง จำนวน 6 รายการ โดยไม่กระทบกับภาพรวมของโครงการฯ รวมเป็นเงิน 57,232,132.06 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 53 อีกทั้ง กิจการร่วมค้า CKNNL ได้ยินยอมลดราคาให้เป็นเงิน 2,650,000 บาท โดยได้เสนอราคาสุดท้ายเป็นเงิน 1,199,700,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมและอยู่ในวงเงินงบประมาณ
สำหรับกรณีที่ กรมวิชาการเกษตร ได้จ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาออกแบบผังแม่บทและสิ่งก่อสร้างงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 และที่ปรึกษาออกแบบ (เพิ่มเติม) นั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยรองศาสตราจารย์วิโรจ อิ่มพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แต่งตั้งศาสตราจารย์รังสิต สุวรรณมรรคา หรือสุวรรณเขตนิคม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาวิชาการออกแบบผังแม่บทและสิ่งก่อสร้างฯ และรองศาสตราจารย์มนตรี ค้ำชู เป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาวิชาการที่ปรึกษาควบคุมงานสิ่งก่อสร้างงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 ซึ่งปรากฏว่าได้มีการนำงานดังกล่าวไปจ้างบริษัทเอกชน 2 บริษัทเป็นผู้ดำเนินการเป็นส่วนใป็นการไม่ปฏิบัติตามประกาศสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง ระเบียบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่าด้วยเงินรายได้ พ.ศ. 2545 และมีลักษณะเป็นการจ้างช่วงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเป็นโครงการพัฒนาวิชาการ อีกทั้ง เป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ตกลงกับกรมวิชาการเกษตร
แต่เนื่องจากงานที่ได้รับจ้างจากกรมวิชาการเกษตรนี้ สามารถดำเนินการได้ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ภายในเวลาที่กำหนดในสัญญา ประกอบกับการจัดงานดังกล่าวประสบผลสำเร็จ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
โดยได้รับรางวัลเหรียญทองจากสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วจึงมีมติว่า การกระทำของ รองศาสตราจารย์วิโรจ อิ่มพิทักษ์ ศาสตราจารย์รังสิต สุวรรณมรรคา หรือสุวรรณเขตนิคม และรองศาสตราจารย์มนตรี ค้ำชู มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของทางราชการ ให้ส่งเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92
สำหรับนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป