สุเทพเผยพรุ่งนี้9โมงไปฝั่งธนฯอ้างตร.8หมื่นจ้องสลายม็อบ

เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวที แจงกำหนดการเดินรณรงค์พรุ่งนี้ 9โมงเข้าไปฝั่งธนบุรี ย้ำ 13 ม.ค. ปิดถนน 7 จุด อ้าง ตร.ระดมกำลัง 8 หมื่นคน เพื่อสลายการชุมนุม

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือ เวทีราชดำเนิน ล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า วันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.จะเดินเชิญชวนประชาชนย่านฝั่งธนบุรีร่วมปิดกรุงเทพมหานคร วันที่ 13 ม.ค.นี้ พร้อมย้ำว่าวันดังกล่าวจะปิดถนนทั้งหมด 7 จุด อาทิ ถนนแจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกปทุมวัน โดยที่เวทีแยกปทุมวัน จะเป็นเวทีหลักในการชุมนุม โดยจะมีการปิดสถานที่ราชการในช่วงเช้าถึงเย็น และตนเองจะเดินตระเวนไปทุกเวทีและถนนทุกสายในกรุงเทพมหานครทุกวันแต่ยืนยันว่าจะชุมนุมอย่างสงบไม่รุนแรง

ขณะเดียวกัน นายสุเทพ อ้างว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศกว่า 8 หมื่นคนเพื่อสลายการชุมนุมด้วย และยังอ้างว่าทางกลุ่ม นปช.มีแผนจะแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อสร้างสถานการณ์วันดังกล่าวด้วย

เลขาธิการ กปปส. ยังกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดุเดือด โดยเฉพาะ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ซึ่งได้รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อย ม็อบ นปช.ป่วนเมือง 3 ปีก่อน สมัยที่ นายสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง แต่ทั้ง 2 นายตำรวจกลับละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่สามารถจับใครได้เลย ในเหตุป่วนต่างๆ ของม็อบ นปช. รวมถึงเหตุป่วนล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา 

ในทางตรงกันข้ามกลับพยายามทำหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อเอาใจนายใหญ่ ในการจัดการกับมวลมหาประชาชน กปปส. โดยพยายามทำทุกวิถีทาง เช่น ใส่ร้ายป้ายสีผู้ชุมนุมด้วยการส่งตำรวจพกอาวุธและยาเสพติดเข้ามาปะปนกับมวลชน หวังสร้างความปั่นป่วนในการขับเคลื่อนของมวลชน เพื่อให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อจัดการปราบปรามประชาชน

ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวทิ้งท้าย ขอต่อมวลชนให้เชื่อฟังแกนนำ ชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ทำผิดกฎหมาย หากมีกำลังเข้ามาปราบ ก็ให้นั่งลงสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามเข้ามาทำร้ายประชาชนด้วย

 

 

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง:::

'เอกนัฏ'ปัดกปปส.ขโมยอาวุธ-9มค.9โมงไปฝั่งธนฯ

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=507158