′สุเทพ′ ซ้อมแนวร่วม หากถูกใช้กำลังเข้าสลาย ให้นั่งลงแล้วสวดมนต์ สั่งยึดกระทรวงแต่ไม่ค้างคืน

′สุเทพ′ ซ้อมแนวร่วม หากถูกใช้กำลังเข้าสลาย ให้นั่งลงแล้วสวดมนต์ สั่งยึดกระทรวงแต่ไม่ค้างคืน

′สุเทพ′ ซ้อมแนวร่วม หากถูกใช้กำลังเข้าสลาย ให้นั่งลงแล้วสวดมนต์ สั่งยึดกระทรวงแต่ไม่ค้างคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 8 มกราคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่า เมื่อถูกปิดบัญชี ก็ทำให้พี่น้องโอนเงินมาช่วยเหลือเราไม่ได้ จำเป็นต้องลำบากมามอบให้เราด้วยตัวเอง วันนี้มาขึ้นเร็วหน่อยเพราะพรุ่งนี้จะเดินไกล โดยจะออกจากราชดำเนิน 9.00 น. เดินไปตามถ.ดินสอ ตรงไปเรื่อยข้ามสะพานพุทธ ไปสี่แยกบ้านแขก เลี้ยวซ้ายไปจนถึงสามแยกลาดหญ้า เลี้ยวขวาเดินไปวงเวียนใหญ่ ไหว้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ และพระเจ้าตาก จากวงเวียนใหญ่ก็มาที่สี่แยกบ้านแขก แล้วเราจะไปสี่แยกพรานนกผ่าน รพ.ศิริราช ข้ามสะพานปิ่นเกล้าฯ กลับมาที่ราชดำเนิน ใช้เวลามาก แต่เป็นการเดินขบวนนัดสำคัญเชิญให้ประชาชนมาร่วมกับเรา ขับไล่ระบอบทักษิณ ในวันที่ 13 มกราคม

ในส่วนที่จะเปิดถนนเลยมี 7 แห่ง เริ่มจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มีมวลชน กปปส.นนทบุรี ราชบุรี นครปฐม มี กปปส.นนทบุรีเป็นผู้ประสานงาน ปิดถนนแจ้งวัฒนะไม่ให้ศูนย์ราชการทำงานได้ มีนายราเชนท์ กรรมการ กปปส.และหลวงพ่อพุทธอิสระอยู่ที่นั่นด้วย มาที่ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่สอง มีพี่น้องจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน มาสมทบ มีนายอิสสระ สมชัย อยู่ที่นั่น ถัดมาเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่าจะมีคนไปรวมตัวมากที่นี่ มีนายถาวร เสนเนียม รับผิดชอบบริหารจัดการเวทีตรงนั้น

ถัดมาเป็นที่สี่แยกปทุมวัน กำลังหลักที่นี่คือพี่น้องชาวจุฬาฯ และมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ร่วมกันดูแล โดยใช้เวทีสี่แยกปทุมวันเป็นจุดถ่ายทอดสดทางบลูสกาย ซึ่งจะดำเนินรายการสด 24 ชั่วโมง ถัดไปมีเวทีที่ลุมพินีตัดกับถนนสีลมมีนายวิทยา แก้วภราดัย ดูแล ส่วนสี่แยกราชประสงค์ มีนายชุมพล จุลใส ร่วมกับ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ซึ่งคึกครื้นที่สุด ต่อไปคือเวทีที่อโศก โดยมีพี่น้องจากชลบุรี มีนายสกลธี ภัททิยกุล รับผิดชอบอยู่ ส่วนตนและกรรมการ กปปส.จะตระเวณหมุนเวียนไปทุกเวที โดยทุกเวทีก็จะจัดเหมือนกันทุกวันคือไปยึดตามกระทรวงต่างๆ ไปแต่เช้ามืดและกลับค่ำ เพราะไม่ต้องการไปนอนที่กระทรวงต่างๆ ป้องกันไม่ให้คนร้ายมาทำอันตราย โดยจะใช้วิธีเช้าไปเย็นกลับ และไม่มีการไปนอนเฝ้ากระทรวงต่างๆ เหมือนเช่นที่กระทรวงการคลัง

สำหรับตนนั้นจะชวนพี่น้องเดินร่วมกันปิดกรุงเทพฯ ในทุกๆ สาย ฉะนั้นปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯครั้งนี้คึกคักแน่นอน ฝ่ายรัฐบาลพอรู้ข่าวก็คิดที่จะขัดขวางพวกเรา คิดที่จะสลายพวกเราด้วยวิธีการต่างๆ นานา รายงานข่าวแจ้งว่าฝ่ายรัฐบาลต้องเดินเกมรุกมากกว่าเดิมให้พวกเราทำงานไม่สำเร็จ และยังนัดหมายกันว่า 10 ม.ค.นี้ ให้ตำรวจและประชาชนออกมาร่วมกันจุดเทียนต่อต้านพวกเรา แล้วมาบอกว่าจะเกิดเหตุรุนแรง ตนบอกเลยว่าถ้าตำรวจไม่ทำไม่เกิดเหตุรุนแรงแน่ แล้วมีการสุมหัวกันเอาตำรวจปลอมมาก่อเหตุการณ์ร้ายป้ายสีใส่พวกเรา หวังจะเผาศูนย์การค้าใกล้เวทีชุมนุม ตอนนี้เรารู้แผนการแล้ว ขอให้พี่น้องช่วยกันสังเกตพฤติกรรมคนที่มาชุมนุมให้ดี และยืนยันว่าเราไม่มีการคบคิดกันเผาบ้านเผาเมือง เผาอะไรทั้งสิ้น ใครจะอ้างพวกเราไปเผาอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่พลเมืองดีของเรา

เราซักซ้อมกันก่อนทุกเวที เมื่อไหร่ยกกำลังมาให้นั่งให้หมดแล้วสวดมนต์พร้อมกัน แล้วก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ยกกำลังมากี่หมื่นเราก็นั่งสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลให้มันไป เราจะสู้แบบนี้ สันติ สงบ อหิงสา เราอยู่กันให้แน่นทุกเวทีอยู่เสมอ พอจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ถูกกองทัพปฏิเสธทั้งสามเหล่าทัพ ไม่มีใครเอาเลย

อยากจะเรียนว่า เมื่อปี 2552 ที่ตนเคยเป็นรองนายกฯนั้น ที่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะบริวาณทักษิณ ที่ลุกมาก่อการร้ายไม่ได้ชุมนุมโดยสงบกันอย่างนี้ แต่ทำกันแบบคนร้ายจึงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ ซึ่งมะรืนนี้ตนจะนำวิดีโอมาฉายให้ดู แต่ยืนยันว่าในวันที่ 13 ม.ค. เราไม่มีพังร้านเผาห้าง พร้อมกับติดต่อกับห้างร้านเรียบร้อย พวกเราคนชุมนุมมีเงินซื้อ มาชุมนุมแล้วยังไปซื้อของด้วย

วันที่ 13 มกราคมเป็นต้นไป ที่พวกเราจะหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เอาพวกคนชั่วออกจากประเทศไทยให้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook