กกร.ชงอีกมาตรการเร่งด่วน จี้ช่วยสภาพคล่องเอสเอ็มอี

กกร.ชงอีกมาตรการเร่งด่วน จี้ช่วยสภาพคล่องเอสเอ็มอี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะร่วมหารือและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อนายกรัฐมนตรี วันที่ 21 มกราคมนี้ ซึ่งมีทั้งเรื่องเร่งด่วนและระยะกลาง-ระยะยาว โดยมาตรการเร่งด่วน คือ 1.การสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและเศรษฐกิจ 2.การเสริมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจและเอสเอ็มอี 3.การแก้ปัญหาการว่างงาน ส่วนมาตรการระยะกลางและยาว จะเสนอการเสริมสร้างความสามารถของประเทศเป็นหลัก

สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นนั้น กกร.เสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ดังนี้ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการโลจิสติกส์แห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการอีสเทิร์นซีบอร์ด ตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ส่วนการเสริมสภาพคล่อง จะขอให้รัฐบาลเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีจาก 1.5 แสนบาท เป็น 2 แสนบาท สำหรับบุคคลธรรมดา พร้อมเสนอขอลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือ 20-25% และขอขยายเวลาการนำผลขาดทุนสะสมมาหักภาษีจาก 5 ปี เป็น 8 ปี เพื่อจูงใจให้ลงทุน ขณะเดียวกันจะขอให้รัฐช่วยเหลือด้านสภาพคล่องโดยจัดสรรงบเพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 66,737 ล้านบาท ให้ธนาคารพาณิชย์ผ่านช่องทางสถาบันการเงินของรัฐ และจะเสนอให้ตั้งกองทุนเอสเอ็มอีดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเอสเอ็มอีกว่า 2 หมื่นราย

สำหรับมาตรการระยะปานกลาง-ยาว จะเน้นการเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจกท์ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมทั้งจะเสนอให้รัฐจัดงบ 5,000-10,000 ล้านบาท ไว้เป็นกองทุนค้ำประกันการส่งออก เพราะเพื่อช่วยให้มีเงินหมุนเวียนประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยผู้ได้รับผลกระทบ

รายการคม-ชัด-ลึกตอน-เมื่อโลกได้ โอบามา เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

Change หรือ เปลี่ยน คือ สโลแกนสั้นๆ เพียงคำเดียวของ บารัก โอบามา ซึ่งส่งให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ท่ามกลางความคาดหวังของทั้งคนอเมริกา และคนทั้งโลกว่า โอบามาจะก้าวเข้ามาเปลี่ยนสหรัฐ และโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook