จุรินทร์สั่งกยศ.ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้เสร็จในสัปดาห์เน้นยากจนมาก่อน

จุรินทร์สั่งกยศ.ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้เสร็จในสัปดาห์เน้นยากจนมาก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร5องค์กรหลักของกระทรวงพร้อมด้วยนพ.ธาดามาร์ตินผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)เพื่อหารือเรื่องการปรับหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินกยศ.ว่าจะมีการปรับปรุงเงื่อนไขการปล่อยกู้เงินของกองทุนกยศ.ใหม่เพื่อให้นักเรียนยากจนเข้าถึงการกู้เงินมากขึ้นโดยให้แยกกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ยื่นขอกู้เงินกยศ.ออกเป็น3กลุ่มตามรายได้ครอบครัวผู้ขอกู้เงินแล้วปล่อยกู้โดยพิจารณาที่รายได้ของครอบครัวผู้ขอกู้

นายจุรินทร์กล่าวว่าการปล่อยกู้เงินจะให้สิทธิ์กลุ่มแรกก่อนคือนักเรียนนักศึกษาที่ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน2แสนบาทต่อปีตามเกณฑ์การกู้เงินของกยศ.เมื่อมีเงินเหลือจึงปล่อยกู้กลุ่มที่2และ3ต่อไปตามลำดับแต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าเพดานรายได้ของกลุ่มที่2และ3จะอยู่ที่เท่าใดน่าจะระหว่าง2-3แสนบาทต่อปีอย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาสาขาของผู้ขอกู้ด้วยเน้นให้กู้ในสาขาที่ขาดแคลนเพราะไม่ต้องการให้เด็กกู้เงินไปเรียนแต่สุดท้ายจบออกมาไม่มีงานทำและต้องการจูงใจให้นักเรียนนักศึกษาเรียนต่อสายอาชีพเพิ่มขึ้นปัจจุบันสัดส่วนผู้เรียนสายสามัญ-อาชีพอยู่ที่60:40แต่ต้องการปรับเป็น50:50โดยใช้วิธีจูงใจเด็กให้เลือกเรียนสายอาชีพผ่านกระบวนการแนะแนวของโรงเรียน

นอกจากนี้จะให้กยศ.เพิ่มปริมาณการปล่อยกู้เงินด้วยปี2551รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้2.8หมื่นล้านบาทแต่มีการจัดสรรเงินกู้ให้นักเรียนแค่2.6หมื่นล้านบาทถือเป็นตัวเลขปล่อยกู้ที่ต่ำแค่งบประมาณก็ยังใช้ไม่หมดสหลืออยู่2.2หมื่นล้านบาทหักค่าบริหารจัดการ1,000ล้านบาทจะเหลือเงินทั้งหมดประมาณ4.9หมื่นล้านบาทในจำนวนนี้ต้องกันเงินไว้รองรับลูกหนี้เก่า3.6หมื่นล้านบาทยังเหลืออีก1.3หมื่นล้านบาท

ผมได้ให้นโยบายไปว่าจะต้องเพิ่มจำนวนการปล่อยกู้เงินเพื่อให้เด็กยากจนมีโอกาสกู้ไปเรียนต่อแต่ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะปล่อยกู้รายใหม่ในปี2552ได้กี่รายจะต้องไปศึกษารายละเอียดก่อนนอกจากนั้นจะให้มีการปรับเกณฑ์ให้นักเรียนนักศึกษาทุกชั้นปีมีสิทธิ์ยื่นกู้เงินจากเดิมที่อนุญาตให้เฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4และนักศึกษาปี1เท่านั้นที่มีสิทธิ์ยื่นกู้เงินทำให้เด็กที่ไม่สามารถกู้เงินได้ตั้งแต่ปี1หรือม.4บางรายต้องออกกลางคันเพราะไม่มีเงินเรียนนายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่าจะให้รวมกองทุนกยศ.และกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.)ด้วยแต่สำหรับลูกหนี้กรอ.เดิมที่มีการปล่อยกู้ไปแค่1รุ่นจะดูแลจนจบการศึกษารวมทั้งให้กยศ.และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ไปหาทางปรับปรุงกระบวนการปล่อยกู้เงินและจัดสรรเงินด้วยไม่ให้เกิดความล่าช้าในการจัดสรรเงินเช่นในอดีต

ผมได้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกยศ.และตัวแทนสกอ.สพฐ.และสอศ.เพื่อไปศึกษาการบ้านในวันนี้ทั้งหมดและนำกลับมาประชุมใหม่กันซึ่งผมจะพยายามเร่งเรื่องนี้ให้เสร็จภายใน3สัปดาห์เพราะต้องการให้ทันการปล่อยกู้เงินประจำปีการศึกษา2552ส่วนจะต้องมีการแก้กฎหมายหรือหลักเกณฑ์ใดๆรองรับหรือไม่นั้นให้เป็นไปตามขั้นตอนนายจุรินทร์กล่าว

ด้านรศ.นพ.ธาดามาร์ตินผู้จัดการกองทุนกยศ.กล่าวว่าจำนวนนักเรียายได้ครอบครัวขั้นต่ำ2แสนบาทต่อปีและกู้กยศ.อยู่ในขณะนี้มีทั้งหมด8แสนกว่าคนหากนายจุรินทร์ต้องการปรับเกณฑ์ขั้นต่ำเป็น2.5-3แสนบาทจริงนั้นกยศ.ยังไม่สามารถวิเคราะห์จำนวนเด็กที่จะขอกู้ได้ว่ามีทั้งหมดกี่คน

ตรงนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้กู้และงบประมาณที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้กองทุนกยศ.มีเงินเหลืออยู่1.3หมื่นล้านบาทก็จริงแต่ไม่ได้ให้เด็กกู้เพียงปีเดียวหรือจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวหากให้เด็ก1คนกู้ยืมแล้วจะต้องดูแลไปจนกระทั่งจบการศึกษาหรือ8ภาคเรียนดังนั้นการเปิดโอกาสให้สามารถกู้ได้ครบทุกชั้นนั้นต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่นำมาใช้ในการจัดสรรให้แก่เด็กเพราะกยศ.เป็นเพียงหน่วยงานปฏิบัติรศ.นพ.ธาดากล่าว

รายการคม-ชัด-ลึกตอน-เมื่อโลกได้ โอบามา เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

Change หรือ เปลี่ยน คือ สโลแกนสั้นๆ เพียงคำเดียวของ บารัก โอบามา ซึ่งส่งให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ท่ามกลางความคาดหวังของทั้งคนอเมริกา และคนทั้งโลกว่า โอบามาจะก้าวเข้ามาเปลี่ยนสหรัฐ และโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook