ประชุมสภานัดแรกป่วน ฝ่ายค้านสับเละชัยขู่เอารองเท้าปา มาร์ควุ่นวิ่งเข้าประชุม นับองค์ประชุม 2รอบ

ประชุมสภานัดแรกป่วน ฝ่ายค้านสับเละชัยขู่เอารองเท้าปา มาร์ควุ่นวิ่งเข้าประชุม นับองค์ประชุม 2รอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เปิดประชุมสภาสมัยแรกป่วน ส.ส.เพื่อไทยอารมณ์ค้าง รุมถล่มชัย จี้แจงย้ายที่ประชุมไปบัวแก้ว ไล่ลาออก อ้างมี ส.ส.อารมณ์ร้อนสมัยแรกคิดเอา รองเท้าปา แต่โชคดีแกนนำห้าม ตีรวนเสนอนับองค์ประชุม 2 ครั้งในเวลาห่างกันไม่ถึง ชม. อภิสิทธิ์ต้องวิ่งกระหืดกระหอบเข้าห้องประชุม พร้อมเรียกแกนนำหารือ หวั่นงานสภาไม่ราบรื่น ปธ.วิปฝ่ายค้านจ้องรื้อโควต้า กมธ.ใหม่ อ้างจำนวนเปลี่ยน พท.อารมณ์ค้างชักแถวสับปธ.ชัย

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปนัดแรก ภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ห้องประชุมรัฐสภา โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 80 คน จากศูนย์กลางประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศ.ป.ป.ท.) กลุ่มรักประชาธิปไตยสนามหลวง (กปส.) และเครือข่ายผู้รักประชาธิปไตย 4 ภาคชุมนุมอยู่หน้ารัฐสภา พร้อมตั้งเวทีขนาดเล็กติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีรัฐบาลว่ามีทหารอยู่เบื้องหลัง และในอดีตมีปัญหาเรื่อง ส.ป.ก.4-01 ซึ่งเป็นการนำที่ดินไปแจกให้คนรวย พร้อมกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา

ขณะที่การประชุมสภาภายหลังที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯประกาศ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไป พ.ศ.2552 แล้วนั้น นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ลุกขึ้นขอหารือก่อนเข้าสู่วาระประชุม โดยเรียกร้องนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงกรณีมีคำสั่งย้ายที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไปที่กระทรวงการต่างประเทศ จากนั้น ส.ส.พท.หลายราย อาทิ นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ลุกขึ้นอภิปรายโจมตีนายชัยในประเด็นเดียวกันว่าเป็นการทำผิดข้อบังคับการประชุมสภา ที่พยายามไม่ให้มีการหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม และการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง และยังตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยมีความเห็นว่ารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่รัฐสภาเท่านั้น แต่คราวหลังกลับเปลี่ยนสถานที่ จึงอยากทราบความชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้นายชัยลาออกจากตำแหน่ง

ขู่ ปารองเท้า ใส่เลียนแบบอิรัก

ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พท.กล่าวว่า คนที่เลือกประธานให้มาทำหน้าที่คือพวกตน ไม่ใช่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ ในการประชุม ส.ส.พท. เมื่อวันที่ 20 มกราคม บรรดา ส.ส.สมัยแรกต่างบอกรู้สึกเจ็บปวดกับการทำหน้าที่ของประธาน ถึงขนาดบอกว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจทนไม่ไหวจะทำให้เกิดเหตุการณ์ปารองเท้าใส่ เหมือนกับที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ถูกกระทำที่ประเทศอิรัก แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธาน ส.ส.พท. ห้ามปราม บอกว่า ที่นี่ประเทศไทยไม่ใช่ไต้หวัน หรือเกาหลี สมาชิกยังต้องทำงานร่วมกันอีก 3 ปี การเมืองก็เป็นอย่างนี้ เหมือนที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยบอกไว้ว่าผลัดกันเป็นฝ่ายค้าน และรัฐบาล

วันนี้ ส.ส.สมัยแรกอาจอารมณ์ร้อนเข้าชื่อยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อถอดถอนประธานออกจากตำแหน่ง แต่ขอยืนยันผมจะไม่ร่วมเซ็นชื่อด้วย ขอให้ประธานสบายใจได้ และทำหน้าที่ประธานต่อไป ผมลือกท่านมาทำหน้าที่ จะไม่เขียนด้วยมือ แล้วลบด้วยเท้า แต่ต่อไปนี้ขอให้ช่วยกันทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่าบี้กันจนไม่มีที่ยืน เพราะหากถึงวันนั้นพวกผมอาจยุให้คนลุกขึ้นมาจับอาวุธต่อสู้ก็ได้ แต่วันนี้ต้องเข้าใจว่า ส.ส.ใหม่ยังทำใจไม่ได้ วันนี้ประธานไม่สังเกตเห็นหรือว่าไม่มีใครมานั่งอยู่ข้างหน้าผม เพราะกลัวเกิดเหตุการณ์แบบที่อิรัก ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว

เพื่อไทยลองของเสนอนับองค์

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกขึ้นกล่าวชื่นชมสการทำหน้าที่ของนายชัย โดยเฉพาะการสั่งย้ายสถานที่ประชุมวันแถลงนโยบายรัฐบาล เพราะนายกฯก็โหวตมาถูกต้อง ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จากนั้นก็ตั้ง ครม. และเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ และต้องแถลงนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด การประชุมที่อื่น ก็เหมือนกับการประชุม ครม.ที่ประชุมนอกสถานที่ ความสำคัญอยู่ที่สาระและความพร้อมมากกว่า

จากนั้น 2 ฝ่ายโต้เถียงกวลากว่า 2 ชั่วโมง ทำให้นายชัยต้องสั่งระงับการโต้เถียงเพื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เนื่องจากมีวาระสำคัญจำนวนมาก แต่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พท. ลุกขึ้นเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตร ทำให้นายชัยกดออดเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมอยู่หลายครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ปชป.ยื้อรอสำเร็จ-นับครบองค์

ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร นายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พยายามลุกขึ้นอภิปรายเพื่อถ่วงเวลารอ ส.ส.พรรครัฐบาลเข้ามายังห้องประชุม โดยระบุว่าขณะนี้มีการประชุมคณะกรรมาธิการหลายคณะ ขอให้รออีก 20 นาที การจะให้เลิกประชุมคณะกรรมาธิการกะทันหันต้องใช้เวลา ทำให้นายชัยได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังว่า ไม่รอแล้ว เรื่องนี้เป็นกงกรรมกำเกวียน สิ้นเสียงนายชัย ส.ส.พท.ต่างหัวเราะด้วยความชอบใจ ในที่สุดผลการแสดงตนด้วยการเสียบบัตร ปรากฏว่ามี ส.ส.ในห้องประชุม 235 คน จาก ส.ส.ทั้งหมด 455 คน ถือว่าเกินองค์ประชุมที่ 228 คน นายชัยจึงสั่งให้ดำเนินการประชุมต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการประชุม ส.ส.พท. เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มีมาตรการทางสภา โดยจะไม่เซ็นชื่อเข้าประชุมจนกว่า ส.ส.ในพรรครัฐบาลจะเซ็นชื่อครบองค์ประชุม เพื่อเป็นเกมย้อนศรเช่นที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำกับรัฐบาลพรรคพลังประชาชนมาก่อน

ไม่ทันข้ามชั่วโมงขอนับองค์อีกรอบ

ภายหลังจากการนับองค์ประชุม นายชัยได้นำเข้าสู่วาระรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ประจำปีงบประมาณ 2551 โดยนายสุนัย จุลพงศธร ลุกขึ้นอภิปรายโจมตีรัฐบาลอย่างเผ็ดร้อน กล่าวหาว่ารัฐบาลได้อำนาจมาจากการจลาจล ทำลายประชาธิปไตย และพวกที่ยึดสนามบิน นายกรัฐมนตรีถึงกล้าพูดได้ว่าจะไม่มีการยึดสนามบินอีก รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศ แถมยังตั้งแกนนำพันธมิตรมาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก นายสุนัยกล่าว

นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง พร้อมให้มีการถอนคำพูด ทำให้นายสุนัยตอบโต้กลับว่า ควรฝึกความอดทนรับฟัง คนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลมานานแล้วหิวโหยยิ่งต้องอดทน เรื่องเล็กน้อย ทำให้นายเจะอามิงลุกขึ้นโต้ว่า ขอให้ทำใจยอมรับกับการเป็นฝ่ายค้านบ้าง

หลังจากมีการโต้ตอบกันไปมา นายสุนัยเสนอนับองค์ประชุมอีกครั้ง หลังจากการนับครั้งแรกไป 30 นาที ซึ่งนายชัยพยายามอธิบายว่าองค์ประชุมครบแล้ว และให้นายสุนัยถอนคำพูด แต่นายสุนัยไม่ยอม โดยระบุว่าให้ประธานเลือกระหว่างเสนอให้นับองค์ประชุมหรือจะให้ตนออกจากห้องประชุม เพราะจะไม่ถอนคำพูดที่ระบุว่ารัฐบาลหิวโหยแน่

เกินครึ่งแค่5ไม่พอใจขอให้ขานชื่อ

นายชัยสั่งให้มีการนับองค์ประชุมอีกครั้ง และขอให้นายสุนัยออกจากห้องประชุม โดยผลการนับองค์ประชุมรอบสองมีผู้แสดงตน 233 คน เกินกึ่งหนึ่ 5 เสียง ทำให้นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พท. เสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ขณะที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงขอให้นายสุนัยออกนอกห้องประชุมตามที่ได้พูดไว้ ทำให้นายสุนัยโต้กลับว่า จะออกต่อเมื่อมีการนับองค์ประชุมเสร็จเรียบร้อย และไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผู้ที่ไม่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย เพราะในช่วงที่มีการรัฐประหารคนที่ประท้วงตนอยู่ ยังไปยืนเชียร์คนที่รัฐประหาร อย่างไรก็ดี นายชัยได้ประกาศตัดบท และดำเนินการประชุมต่อไป

มาร์คคุยแกนปชป.หวั่นไม่ราบรื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชัยเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุม เพื่อนับองค์ประชุม เป็นเวลาเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเตรียมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคง อยู่ที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี เมื่อได้ยินเสียงกดออดเรียกสมาชิกถึง 3 ครั้งทำให้นายอภิสิทธิ์ได้สั่งปิดประชุมในเวลา 15.00 น. หลังประชุมไปได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นนายอภิสิทธิ์และรัฐมนตรีที่นั่งประชุมได้รีบเข้าประชุมสภา เพื่อแสดงตนต่อที่ประชุมด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ

ต่อมานายอภิสิทธิ์หารือร่วมกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ที่ห้องรับรองนายกฯ ั้น 2 อาคารรัฐสภา ประมาณ 20 นาที โดยขอให้กำชับให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต้องมาประชุมให้ครบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก เพราะได้ประเมินแล้วเห็นว่าฝ่ายค้านคงใช้วิธีการนี้อีก ทำให้การประชุมสภาเป็นไปด้วยความไม่ราบรื่น

เฉลิม ยังไม่คิดซักฟอก-แขวะมาร์ค

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ ก่อนการประชุมสภา ถึงการวางตัวผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า เรื่องนี้ต้องรอเวลาสักระยะ ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พท.ไม่มีผู้นำฝ่ายค้านทำให้ไม่สามารถยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องดำเนินการบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ที่ระบุว่าถ้ามีเสียง ส.ส.1 ใน 5 ของ ส.ส.สามารถที่จะยื่นอภิปรายโดยที่ไม่ต้องระบุชื่อผู้นำฝ่ายค้านได้ จึงอยากให้สื่อสนใจขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายมากกว่า ส่วนกระบวนการภาย พท.ถือเป็นเรื่องภายใน

ขอฝากไปถึงรัฐบาลว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีความคิดที่จะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจและยังไม่กำหนดวันเวลาว่าจะยื่นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนก็ยื่นอภิปรายทันทีโดยจะไม่ทำเหมือนเมื่อครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่ยื่นอภิปรายอย่างสะเปะสะปะ โหลยโท่ย ไร้สาระแน่นอน นายเฉลิมกล่าวและว่า ถ้ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิดจะอยู่ยาวแค่ไหนก็อยู่ไป เพราะรัฐธรรมนูญให้อยู่ครบ 4 ปี พท.ไม่อิจฉา ไม่รังเกียจ และขอชื่นชมนายอภิสิทธิ์ที่กล้าลอกข้อสอบของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยังนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเป็นพวกได้ก็เก่งเล่นการเมืองง่ายอย่างนี้ถือว่าเยี่ยม

ปธ.วิปรบ.จ้องรื้อโควต้ากมธ.ใหม่

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประธานวิปรัฐบาล กล่าวท้าทายว่า หากฝ่ายค้านมีข้อมูลที่เหมาะสมจะเปิดอภิปรายวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ แต่ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานสักระยะหนึ่งก่อน

นายชิณวรณ์กล่าวว่า ในช่วงปลายสมัยประชุมที่ผ่านมามีการยุบพรรคการเมืองถึง 3 พรรค (พลังประชาชน-ชาติไทย-มัชฌิมาธิปไตย) ทำให้สัดส่วนของกรรมาธิการสามัญ ประจำสภาผู้แทนราษฎรมีการเปลี่ยนแปลง แม้วิปรัฐบาลไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในกรรมาธิการแบบล้างไพ่ แต่เมื่อพิจารณาโดยยึดหลักรัฐธรรมนูญตนจึงเข้าปรึกษากับนายชัย แต่นายชัยได้แจ้งว่าต้องรอความชัดเจนในการสังกัดพรรคการเมืองครบ 60 วันของ ส.ส.ที่จะครบในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จากนั้นประธานสภาผู้แทนราษฎรจะทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในกรรมาธิการแต่ละคณะใหม่

ประชุมถกกรอบอาเซียน26-27ม.ค.

ทางด้านสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกหนังสือเชิญ ส.ส.และ ส.ว. เข้าประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 26-27 มกราคม ทั้งนี้ระเบียบวาระการประชุม เรื่องด่วนที่ 1 คือ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. ... ที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 71,543 คน เป็นผู้เสนอ เรื่องด่วนที่ 2-20 เป็นการพิจารณากรอบความร่วมมืออาเซียน ส่วนวาระเรื่องที่เสนอใหม่คือ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและกระทรวงแรงงานไทย ว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปเกาหลีภายใต้ระบบการจ้างแรงงานแห่งชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook