ศาลอาญาไม่เพิกถอนหมายจับ 18 แกนนำ กปปส.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ศาลอาญาไม่เพิกถอนหมายจับ 18 แกนนำ กปปส.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ศาลอาญาไม่เพิกถอนหมายจับ 18 แกนนำ กปปส.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(27 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำสั่ง ที่นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนาย กปปส. ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาเพิกถอนหมายจับแกนนำ กปปส. 19 ราย ที่ถูกศาลออกหมายจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 11 (1) และมาตรา 12 วันที่ 5 กุมภาพันธ์

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะที่ศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องสงสัยทั้ง 19 รายนั้น ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯนั้นการออกหมายจับดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายทุกประการ แม้ต่อมาศาลแพ่งจะมีคำพิพากษาในคดีที่ นายถาวร เสนเนียม ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกรวม 3 คน ให้เพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้วก็ตาม แต่ศาลแพ่งก็ไม่ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงแต่อย่างใด

ส่วนที่คำพิพากษาศาลแพ่งดังกล่าวจะสั่งห้ามมิให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกห้ามนำประกาศและข้อกำหนดรวม 9 ข้อ ซึ่งรวมถึงการให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือผู้ใช้ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุน การกระทำเช่นว่านั้น อันเป็นที่มาของการที่ผู้ร้องขอออกหมายจับดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อปรากฏคำพิพากษาศาลแพ่งดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด คู่ความสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ และฎีกาได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์ หรือฎีกา อาจพิพากษายืนกลับ แก้ไขคำพิพากษาได้ หรือหากไม่มีการอุทธรณ์คดีก็จะถึงที่สุดเมื่อระยะเวลาแห่งการอุทธรณ์ได้ล่วงพ้นไป

ส่วนที่ศาลอาญามีคำสั่งที่ ฉฉ.11/2557 ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ. 2557 ให้ยกคำร้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีที่ขอหมายจับแกนนำ กปปส. โดยกล่าวถึงการที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงว่าเป็นพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นเพียงเหตุผลประกอบดุลพินิจที่เห็นสมควรยังไม่ออกหมายจับเท่านั้น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุเพิกถอนหมายจับนายสุเทพกับพวกดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ภายหลังฟังคำสั่ง นายวิโรจน์ ทนายความ กปปส. กล่าวว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่เพิกถอนหมายจับครั้งนี้ เพราะว่าเมื่อศาลแพ่งมีคำวินิจฉัยห้ามใช้ประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงต้องส่งคำร้องเพื่อให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย แต่คำวินิจฉัยที่ออกมาครั้งนี้พวกตนก็น้อมรับ

อย่างไรก็ตาม นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว หมายจับของนายสนธิญาณจึงสิ้นสุดลง เหลือเพียงหมายจับของแกนนำอีก 18 คนเท่านั้น ประกอบด้วย

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.

2.นายสาธิต วงศ์หนองเตย

3. นายชุมพล จุลใส

4.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

5.นายอิสสระ สมชัย

6.นายวิทยา แก้วภราดัย

7.นายถาวร เสนเนียม

8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก

11.นายนิติธร ล้ำเหลือ

12.นายอุทัย ยอดมณี

13.เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์

14.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ

15.นายรัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิรโยธินภักดี

16. นายกิตติชัย ใสสะอาด

17.นายสำราญ รอดเพชร

18.นายพานสุวรรณ ณ แก้ว

 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook