อธิบดีกรมชลยันสถานการณ์น้ำยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

อธิบดีกรมชลฯ เผย สถานการณ์น้ำล่าสุด ยังถือว่าในเกณฑ์ปกติ พื้นที่ชลประทานไม่ขาดแคลนน้ำ ยัน ไม่ทำนาปรังเพิ่ม เจ้าพระยาไม่วิกฤติ

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ชลประทานโดยภาพรวมของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ปกติตามแผนที่วางไว้ โดยพื้นที่ชลประทานส่วนมาก ไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากมีคณะกรรมการคอยควบคุมดูแลการปล่อยน้ำในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีเพียงพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาที่มีปัญหา เนื่องจากในฤดูฝนที่ผ่านมา มีฝนตกลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เขื่อนภูมิพล และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ มีการใช้น้ำไปแล้วกว่า 4,839 ล้านลูกบากศ์เมตร จากแผนที่จัดสรรไว้
5,300 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 91 ของแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเหลือน้ำสำหรับใช้ตลอดหน้าแล้งที่ประมาณ 460 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของแผน โดยเป็นผลมาจากการปลูกข้าวนาปรังเกินกว่าแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งมีการปลูกทั้งหมด 8.7 ล้านไร่ จากแผนที่กำหนดไว้ 4.7 ล้านไร่ โดยกรมชลประทาน ได้นำน้ำจากแผนที่กันไว้สำหรับใช้ในช่วงต้นฤดูฝนมาบริหารจัดการให้สามารถเพาะปลูกได้จนสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวนาปรังรอบแรกได้อีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้มีน้ำสำหรับใช้ใน
ช่วงต้นฤดูฝน 2,900 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการส่งน้ำในช่วงต้นฤดูฝนที่อาจไม่เพียงพอหากฝนตกช้า

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือให้ชาวนางดการทำนาปรังรอบที่ 2 และให้เริ่มปลูกข้าวนาปีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมแทน โดยยืนยันว่า หากไม่มีการเพาะปลูกข้าวเพิ่มเติม พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะไม่ประสบปัญหาภัยแล้ง แต่หากมีการนำน้ำไปใช้เพาะปลูกอีกอาจเกิดปัญหาต่อภาคส่วนอื่น ๆ ตามมา

สำหรับการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง ทั้ง 13 จังหวัดนั้น อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พื้นที่ที่ประสบปัญหาทั้งหมดอยู่นอกเขตชลประทาน กรมชลประทาน จึงสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ และรถน้ำเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภาวะขาดน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคแล้ว