หัวอกแม่ "ยุ้ย รจนา" อยากเจอหน้าลูก ถูกจับแยกตั้งแต่แรกคลอด

หวนคืนสู่วงการได้อย่างสง่างามอีกครั้ง สำหรับอดีตท็อปโมเดลระดับโลก "ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา" เพราะหลังจากที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิตจนกลายเป็นสาวเสียสติเข้าออกโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง!! ล่าสุด ยุ้ย รจนา ก็ขอคืนชีวิตใหม่ด้วยการเขียนพ็อคเก็ตบุ๊คแฉตัวเองภายใต้ชื่อ "ขุดเรื่องลับ สับเรื่องจริง Real Life Yui Rojjana" ซึ่งงานนี้นอกจากเจ้าตัวจะเปิดเผยเรื่องราวสุดโต่งจนทำให้ตัวเองต้องกลายมาเป็นสาวเสียสติและใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วนั้น อดีตท็อปโมเดลคนดังก็ยังขอออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของ ลูกสาว วัย12 ปี ที่เจ้าตัวไม่เคยแม้แต่ที่จะเจอหน้า เพราะพ่อของเด็กเชื่อว่าเธอเป็นบ้าไม่สามารถดูแลลูกได้ ให้บรรดาสื่อมวลชนฟังกันแบบจัดเต็มอีกด้วย...

วันนี้เปิดตัวหนังสืออย่างเป็นทางการแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
"ดีใจแล้วก็ภูมิใจมากค่ะ ที่มีโอกาสได้เห็นทุกคน โดยเฉพาะสื่อมวลชนวันนี้มากันเต็มเลย พี่ยุ้ยต้องขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณมากจริง ๆ เพราะอย่างน้อยพี่ยุ้ยก็มีโอกาสทำอะไรที่ดี ๆ บ้าง"

ก่อนอื่นเลยต้องขอถามถึงเรื่องลูกทำไมพี่ยุ้ยถึงปิดไว้นานขนาดนี้ ?
"จริง ๆ เรื่องลูกเคยมีคนถามพี่บ่อยมากเลยนะ ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลรอบแรก ซึ่งพี่ยุ้ยเองก็ไม่เคยบอกใครจนกระทั่งวันนี้ ส่วนเหตุผลที่ต้องออกมาพูดมันก็เป็นเพราะพี่ยุ้ยมองว่าชีวิตคนเราก็มีอยู่แค่นี้ ถ้าวันนี้ไม่รู้ สักวันหนึ่งก็ต้องรู้ อีกอย่างลูกพี่ก็โตแล้ว อายุ 12 ปีแล้ว ถ้าจะให้พี่มานั่งปิดบัง ตัวพี่เองก็จะเครียดเปล่า ๆ แล้วพอมาวันนี้เราได้ระบายออกมามันโล่งอกดีเหมือนกันค่ะ"

ส่วนตัวพี่ยุ้ยอยากจะเจอหน้าลูกไหม ?
"อยากเจอค่ะ อยากเจอ คือช่วงแรกตอนที่พี่ยุ้ยคลอดใหม่ ๆ พี่ยุ้ยคิดถึงเขามาก แต่คุณพ่อเขาจับแยกไปเลี้ยงต่างหากแล้วเราก็เลยไม่มีโอกาสได้เจอกันค่ะ"

ตั้งแต่มีข่าวออกไปพ่อของเด็กเขาได้ติดต่อมาทางพี่ยุ้ยบ้างหรือเปล่า ?
"ไม่ได้ติดต่อกันเลยค่ะ เพราะว่าทางฝ่ายพ่อเขามีภรรยาแล้ว แต่ส่วนตัวพี่ตอนนี้พี่แค่อยากจะทราบว่าลูกยังสบายดีหรือเปล่า เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณพ่อเขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงเอง"

ส่วนตัวเราคิดไหมว่าลูกทราบว่าพี่ยุ้ยคือแม่ของเขา ?
"คิดว่าอาจจะไม่ทราบค่ะ เพราะมีคนเอาเขาไปเลี้ยงอีกทีหนึ่ง"

เจอหน้าเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
"ตอนเพิ่งคลอดใหม่ ๆ เลยค่ะ เพราะหลังจากนั้นคุณพ่อเขาก็พาไปให้คนอื่นเลี้ยง แล้วพี่ก็ไม่ได้เจอลูกอีกเลย"

วันนี้เราพร้อมจะเปิดเผยไหมว่าพ่อของลูกเป็นใคร เพราะหลายคนเขาก็ยังสงสัยกันอยู่ ?
"ไม่เปิดเผยดีกว่าค่ะ เรื่องนี้พี่ขอไม่เปิดเผยนะ (ยิ้ม)"

พี่ยุ้ยพอจะรู้ไหมว่าตอนนี้ใครเป็นคนดูแลลูกเราอยู่ ?
"พี่ยุ้ยก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง เป็นพี่เลี้ยงอะไรทำนองนั้นค่ะ"

ยังหวังว่าอยากจะเจอลูกอยู่ไหม ?
"ยังหวังอยู่เสมอค่ะ แต่อีกใจหนึ่งพี่ก็คิดนะว่าเขายังอยากจะเจอเราหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากสุดท้ายเขาไม่ยอมรับว่าพี่เป็นแม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็ได้แต่อวยพรให้เขามีความสุขก็พอ"

พี่ยุ้ยคิดว่าสักวันหนึ่งจะออกตามหาน้องแบบจริงจังเลยหรือเปล่า ?
"พี่ยุ้ยกลัวเขาจะลำบากถ้าต้องมาใช้ชีวิตกับพี่ เพราะถ้าหากตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่ดีแล้ว และคนที่ดูแลเขาเลี้ยงเขาได้ดีกว่าพี่ แค่นั้นพี่ก็สบายใจแล้วค่ะ"

ช่วยอัพเดทอาการสักหน่อยตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ?
"เดี๋ยววันที่ 14 นี้ พี่ก็จะเข้าไปรับการบำบัดที่เชียงใหม่ค่ะ ซึ่งได้บริษัทเอเจนซี่ที่เคยร่วมงานในอังกฤษเขาช่วยเรื่องค่ารักษา แต่ว่าตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงตกลงกันอยู่ ยังไม่ฟันธงอะไรอาจมีการเปลี่ยนแปลง"

ตอนนี้นอกจากงานหนังสือพี่ยุ้ยมีงานอื่น ๆ อีกบ้างไหม ?
"ก็มีไปนู่นไปนี่อยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งมันก็โอเคดี เพราะพี่ยุ้ยจะได้ไม่เหงา ยังไงก็ฝากบอกทุกคนต่อ ๆ ไปนะคะว่าตอนนี้พี่ยุ้ยยังทำงานได้อยู่รับงานได้อยู่เหมือนเดิม ซึ่งในอนาคตพี่ยุ้ยก็อาจจะมีโครงการสอนนักเรียนเดินแบบเพิ่มเข้ามาด้วย ยังไงก็ช่วยพี่ยุ้ยด้วยนะคะ"

บ้านที่เราอยู่ตอนนี้คือยังเช่าอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ?
"ยังเช่าอยู่เหมือนเดิม อยู่คนเดียว แต่ยังไงก็สู้ ๆ ค่ะ สิ่งเดียงที่พี่ยุ้ยต้องการมากตอนนี้คือกำลังใจค่ะ"

เรื่องหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง มีคนมาจีบแล้วหรือยัง ?
"ตอนนี้ยังค่ะ พี่ยุ้ยขอโฟกัสเรื่องงานก่อน คือถึงแม้พี่อาจจะดูเป็นสาวสมัยใหม่ แต่จริง ๆ แล้วพี่ก็ค่อนข้างหัวโบราณอยู่เหมือนกัน"