ดีเอสไอสรุปสำนวนฆ่าทูตซาอุฯขัดแย้งศาสนา พท.แฉผู้ดีจี้ลอบยิงสามีรองอธิการฯจริง แต่มาร์คจัดให้อีก3

ดีเอสไอสรุปสำนวนฆ่าทูตซาอุฯขัดแย้งศาสนา พท.แฉผู้ดีจี้ลอบยิงสามีรองอธิการฯจริง แต่มาร์คจัดให้อีก3

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีสังหารทูตซาอุดีอาระเบีย เหตุขัดแย้งทางศาสนา เร่งสอบพยานนักธุรกิจซาอุฯหายตัวก่อนสรุปว่าเสียชีวิต เพื่อไทยแฉอังกฤษจี้สางคดีสังหารสามีรองอธิการบดีม.สแตมฟอร์ดฯ แต่นายกฯ ให้เพิ่มอีก 3 คดี

กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าพบเมื่อวันที่ 21 มกราคม และเร่งรัด 4 คดีสำคัญคือ คือ 1.คดีฆ่านักการทูตชาวซาอุดีอาระเบีย (และการหายตัวของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย) 2.คดีฆ่าชิปปิ้งหมู หรือนายกรเทพ วิริยะ พยานปากเอกในคดีเลี่ยงภาษีการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ที่ จ.เชียงราย 3.คดีอุ้มฆ่านายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความ ผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4.คดีลอบยิงสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ดที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งว่า ที่นายกฯเรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เข้าพบนายกฯ เพื่อไปรายงานความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่านายสมชาย ซึ่ง พล.ต.อ.ธานีได้รับการทาบทามจากนายสุนัย มโนมัยอุดม สมัยเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มาช่วยทำสำนวนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้ลงนามแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย ว่า ขั้นตอนสำคัญในคดีนี้คือ การหาพยานหลักฐาน ซึ่งดีเอสไอ กำลังดำเนินการอยู่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายกฯสั่งการให้ตำรวจเร่งสะสางคดีสำคัญ 4 คดี ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของนายกฯมาตั้งแต่ต้น เพราะต้องการทำให้คดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดความชัดเจน ซึ่งทั้ง 4 คดีทำมานานแล้ว แต่ติดอุปสรรคบางอย่าง บางเรื่องระดับปฏิบัติไม่สามารถแก้ไขเองได้ ดังนั้น รัฐบาลจะพยายามกำจัดอุปสรรคเหล่านั้นให้หมดไป เพื่อให้สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะความยุติธรรมต้องการผลสรุปอย่างรวดเร็วตามสมควร ถ้าล่าช้าอาจเสียหายได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ไม่สามารถปิดคดีได้ เพราะฝ่ายนโยบายในอดีตไม่ให้ความสำคัญหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ไปตำหนิใครในอดีต ขอพูดถึงเฉพาะเรื่องวันนี้ เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลก็เป็นหน้าที่ ต้องทำงาน จะไปนั่งตำหนิคนในอดีตคงไม่ได้

วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อให้เร่งสืบสวนจับกุม 4 คดีใหญ่ดังกล่าวว่า ไม่หนักใจเพราะเป็นคดีที่ยังค้าง ยังไม่ทราบตัวคนร้าย การดำเนินการของนายกฯ ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า คดีเพชรซาอุฯ ปีหน้าจะหมดอายุความ ซึ่งคดีฆ่าเจ้าหน้าที่ทูตซาอุฯ ดีเอสไอกำลังดำเนินการ ซึ่งนายกฯมอบให้ พล.ต.อ.ธานี และพล.ต.ท.อัศวิน ดำเนินการ โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายต้องไปดูต้นเรื่องก่อน และจะต้องวางแนวทางดำเนินการต่อไป ทำเฉพาะเรื่องคิดว่าน่าจะได้ผลดี เป็นคดีเก่า คนที่ทำต้องมีความสามารถและต้องพยายาม ตนมั่นใจว่าจะได้ผลคืบหน้า

รายงานข่าวจากดีเอสไอ แจ้งถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีสังหารนักการทูต และการหายตัวของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอเดินทางไปประสานกับหลายประเทศเพื่อขอสอบปากคำพยานในคดีนี้ รวมถึงพยานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายอัลลู ไวรี่ นักธุรกิจซาอุฯ เพราะที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลปากใดให้การอ้างอิงได้ว่า นายอัลลู ไวรี่ เสียชีวิตหรือไม่ ดังนั้น ดีเอสไอจำเป็นต้องสอบพยานที่เป็นญาติ พี่น้อง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนจะนำมาสรุปสำนวนว่า นายอัลลู ไวรี่ เสียชีวิตจริง เพราะทางการประเทศซาอุฯ ต้องการความชัดเจนทางคดีจากประเทศไทยก่อนที่คดีครบอายุความ 20 ปี ลงในปี 2553

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ 4 คน ดีเอสไอสรุปสำนวนว่าเป็นปัญหาของความขัดแย้งทางศาสนา ระหว่างกลุ่มซุนนีกับซีอะห์ ซึ่งในคดีนี้ประเทศซาอุฯไม่ได้ติดใจ แต่มีบางประเด็นในคดีฆ่านักการทูตที่เชื่อมโยงกับคดีอุ้มฆ่านายอัลลู ไวรี่ นักธุรกิจ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทย ที่ได้รับมอบหมายให้สืบคดีฆ่านักการทูตและคดีเพชรซาอุฯ ทั้งนี้ เมื่อคดีที่เกี่ยวกับประเทศซาอุฯไม่มีความชัดเจน การสืบสวนไม่สามารถปิดสำนวนคดีได้ จนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา คดีสังหารนักการทูตและคดีอุ้มนักธุรกิจชาวซาอุฯ ถูกรัฐบาลหยิบยกขึ้นมาเร่งรัดหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นปี 2547 พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ต่อมาสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้เร่งรัดคดีอีกครั้ง โดยตั้งคณะทำงาน ซึ่งมีนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา และบุคคลสำคัญทางศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาคดีพิเศษ นอกจากนี้ยังประสานข้อมูลจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งการเดินทางไปขอข้อมูลจาก พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จำเลยในคดีเพชรซาอุฯที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางคลองเปรมด้วย

นายประเกียรติ นาสิมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และทีมกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกฯเร่งรัดปิดคดีพิเศษ 4 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีที่อยู่ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า คดีดังกล่าวตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการจนกว่าจะนำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ หากคดีใดใกล้หมดอายุความ นายกฯก็จะต้องมีการเร่งรัดตามปกติ

ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯทำถือเป็นสิ่งที่กำลังสารภาพต่อประชาชนเรื่องหลักนิติรัฐในยุคนี้ การรื้อฟื้นคดีพิเศษทั้ง 4 คดีนั้น แท้จริงแล้วเกิดจากกรณีที่นายกฯได้รับคำร้องขอจากทางอังกฤษให้เร่งรัดคดีลอบยิงชาวอังกฤษ ที่เป็นสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด แต่นายกฯใส่คดีอื่นเพิ่มเข้าไปด้วย เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาที่ตัวนายอภิสิทธิ์ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคกับทุกฝ่าย

เป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนายอภิสิทธิ์ ถึงเร่งรัดคดีเหล่านี้ มากกว่าคดีกรือเซะ หรือฆ่าตัดตอนยาเสพติด ซึ่งเป็นคดีที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญมาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน แต่วันนี้ทำไมรัฐบาลกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย นายสงวนกล่าว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์ดีทีวี กล่าวถึงกรณีที่นายกฯเร่งรัดปิด 4 คดีพิเศษ ว่า การเอาคนผิดมาลงโทษถือเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว ฉะนั้น นายกฯควรจะรู้ว่ามีขั้นตอนอย่างไร หากอยากทราบความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนก็ควรสอบถามกับผบ.ตร.และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไป การที่นายกฯออกมาให้ข่าวเช่นนี้ดูเสมือนว่าจะมีการล้วงลูกในคดีหรือไม่

ัััั-

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook