เช็กดีเอ็นเอ2กิ๊ก คลี่ฆ่านศ.สาว

เช็กดีเอ็นเอ2กิ๊ก คลี่ฆ่านศ.สาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พบห้องต้องสงสัย พิรุธแจ้งย้ายออก

คลี่คดีฆ่าข่มขืนน.ศ.สาว ตร.คลองตันส่งตัวจ.อ.แฟนหนุ่มกับน.ศ.หนุ่มเพื่อนผู้ตายไปตรวจดีเอ็นเอ แล้วเอาไปเทียบกับอสุจิของคนร้ายที่ศพ ต้องรอผลอีก 2-3 วัน ขณะเดียวกันก็สกรีนผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนในอพาร์ตเมนต์ เน้นผู้ชายที่พักอยู่คนเดียว แฉมีอยู่ห้องหนึ่งขอย้ายออกอ้างว่ากลัว ตร.กำลังตามตัวมาสอบสวน พ่อประกาศไม่เผาศพลูกสาวจนกว่าจะจับฆาตกรหื่นได้

จากกรณีน.ส.ศศิวิมล หรือหนิง เพชรศรี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/6 ม.1 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการขนส่งระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถูกข่มขืนแล้วฆ่าปาดคอชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เหตุเกิดภายในห้องพักเลขที่ 810 สยามเฮ้าส์ อพาร์ตเม้นต์ เลขที่ 179 ซอยพัฒนาการ 20 แยก 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ตำรวจชี้ปมหึงหวง สอบพบมีชาย 2 คนพัวพันกับผู้ตาย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ม.ค. ที่ห้องสืบสวนสน.คลองตัน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.คลองตัน เรียกชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ประกอบด้วยพ.ต.ท.สมเกษม จารักษ์ รองผกก.(สส.) สน.คลองตัน พ.ต.ต.ชัยพันธ์ เพชรสดศิลป์ สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าร่วมประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนร้ายโดยใช้เวลาชั่วโมงเศษจึงแยกย้ายกันไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนเบื้องต้นสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยในสยามเฮ้าส์อพาร์ตเม้นต์ รวมทั้งตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ที่ย้ายออกช่วง 4-5 วัน ก่อนจะมีการพบศพ และบัญชีรายชื่อผู้ที่พักอาศัยในอาคารทั้งหมดด้วย โดยให้น้ำหนักไปที่ผู้ชายที่พักอาศัยอยู่เพียงลำพัง อีกทั้งสอบปากคำนายบัญชา โรจน์วิเชียรรัตน์ อายุ 21 ปี ชาวจ.สุราษฎ์ธานี เพื่อนผู้ตายที่เป็นคนเปิดห้องเข้าไปพบศพ รวมทั้งจ.อ.ภาคภูมิ พุฒิติภูมิ อายุ 25 ปี ทหารเรือสังกัดเรือหลวงนเรศวร สัตหีบ จ.ชลบุรี แฟนหนุ่มของผู้ตายด้วย เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนนำตัวทั้ง 2 คนไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในการตรวจสอบว่าตรงกับอสุจิที่พบในช่องคลอดของผู้ตายหรือไม่

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบในสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าภายในห้องไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ จึงเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่คุ้นเคยกับผู้ตายเป็นอย่างดี โดยมีดที่พบจำนวน 3 เล่มในห้องผู้ตาย แม้จะไม่มีรอยเลือด แต่ได้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบร่องรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย อีกทั้งแนวทางการสืบสวนยังเชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกลงมือข่มขืนฆ่าในวันศุกร์ที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดหลังจากเวลา 12.00 น. เพราะวันดังกล่าวในช่วงเวลา 10.00 น.นั้น ผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับเพื่อน แต่หลังจากเที่ยง เพื่อนๆไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ทั้ง 2 เบอร์ จนมาพบศพดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 กล่าวว่า วันนี้ได้นำชุดสืบสวนไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุและห้องต้องสงสัยที่บริเวณชั้น 7 ของอาคารเดียวกัน และจากการตรวจสอบพบว่ามีห้องพักต้องสงสัย มักมีเพื่อนร่วมห้องมารวมกลุ่มกันเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นชาย ซึ่งจะตรวจสอบว่าเป็นใคร และห้องดังกล่าวนี้เนื่องจากได้ติดต่อกับเจ้าของอาคารว่าต้องการย้ายห้องพักโดยให้เหตุผลอ้างว่ากลัว แต่ทั้งนี้ทางเจ้าของอาคารระบุว่าหากจะย้ายออกต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน นอกจากนี้ยังพบห้องต้องสงสัยอีกห้องหนึ่ง อยู่บริเวณชั้นเดียวกับผู้ตาย ซึ่งผู้พักอาศัยห้องดังกล่าวเคยแอบมาหาผู้ตาย โดยเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นบุคคลภายในอาคารดังกล่าวแน่นอน

ทางด้านนายประพันธ์ เพชรศรี อายุ 43 ปี บิดาผู้ตาย กล่าวว่า เบื้องต้นตนและครอบครัวจะไปรับศพลูกสาวที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะเสือ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยบุตรสาวตนเองเดินทางมาเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วเช่าห้องพักอยู่ที่ห้องดังกล่าวเนื่องจากใกล้มหาวิทยาลัย แต่เรื่องส่วนตัวลูกสาวไม่ค่อยรู้อะไรมาก รู้เพียงว่าลูกสาวเล่าให้แม่ตัวเองฟังว่า มีผู้ชายซึ่งพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันมาชอบ แต่เรื่องดังกล่าวนี้จะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ต้องปล่อยไปตามกระบวนการสืบสวนสอบสวน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย โดยญาติพี่น้องของผู้ตายยืนยันว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้จะไม่เผาศพลูกสาวอย่างแน่นอน

นายอมรเทพ รุ่งสุวรรณ อาจารย์ที่ปรึกษาประจำคณะบริหาร สาขาขนส่งระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปกติแล้วผู้ตายเป็นคนเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่า และเป็นคนนิสัยร่าเริง ที่สำคัญผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี จึงคิดว่าคงจะมีผู้ชายมาจีบบ้าง โดยก่อนที่จะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ช่วงที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมพาณิชยการหาดใหญ่ ชั้นปวช. 3 ได้รับรางวัลเด็กดีศรีเขต 1 ในการประกวดเรียงความเกี่ยวกับครอบครัว อีกทั้งเมื่อเข้ามาศึกษาในชั้นปีที่ 1 ผู้ตายทำงานหาเงินช่วยทางบ้านด้วย โดยทำงานที่แฟมิลี่มาร์ท และในช่วงภาคฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ตนได้ส่งเรื่องเพื่อส่งตัวผู้ตายไปฝึกงานที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่มาเกิดเหตุสลดขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook