รายงานสถานการณ์ร้อน:จาก''ปลากระป๋องเน่า''ถึง''ข้าวสารแจก''
คนหนึ่งคือ นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว. การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากกรณี ปลากระป๋องเน่า ที่ จ.พัทลุง ขณะที่อีกคนคือ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน จากกรณีใช้เงินประกันสังคม 1,000 ล้านบาท ซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตน
จะต่างกันก็ตรงที่นายวิฑูรย์ ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ขณะที่นายไพฑูรย์ ปัญหายังไม่เกิด
กรณีนายวิฑูรย์ แม้จะมีการออกมาแถลง ว่าเป็นเรื่องของผู้บริจาค ไม่ใช่เรื่องของการจัดซื้อ แต่สังคมก็ยังไม่หาย คลางแคลงใจ ด้วยเพราะว่ามีข้อพิรุธหลายประการ อาทิ ไม่มีรายชื่อผู้บริจาคที่นายวิฑูรย์อ้างในบัญชีผู้บริจาค ถุงยังชีพจำนวน 5,000 ถุง ซึ่งแต่ละถุงมีปลากระป๋องนั้น รู้ได้อย่างไรว่ากระปป็นของผู้บริจาค แม้นายวิฑูรย์จะอ้างว่า ไม่สามารถ ขัดศรัทธา ผู้บริจาคได้ แต่อย่าลืมว่า เรื่องพรรค์นี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก
ถ้าจำได้ครั้งการช่วยเหลือกรณีพายุเกย์ ที่ จ.ชุมพร ก็เคยมี เหตุการณ์น้ำมันพืชยี่ห้อ เป็ด ขณะที่ครั้งนี้มีปลากระป๋องยี่ห้อ ชาวดอย
แต่กรณีของนายไพฑูรย์ เมื่อพบว่า กระแสสังคม ไม่รับก็พร้อมที่จะเลิก เพราะ มันเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล แจกเงิน 2,000 บาทไปแล้ว ยังจะมาแจกข้าวสารคนละ 5 กิโล กรัมอีก
ช่วงหนึ่งนายไพฑูรย์พูดไว้เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ไว้น่าคิดว่า
ตอนนี้รัฐบาล ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท โดยจะให้เงินคนละ 2,000 บาทแล้ว จึงคิดว่าความจำเป็นในการให้ข้าวสาร 5 กิโลกรัมมีน้อย และอาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริต ได้ข้าวไม่ได้มาตรฐาน เหมือนปลากระป๋องก็ได้
แค่อาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริต นายไพฑูรย์ ก็ เบรก แล้ว
นี่คือความแตกต่างระหว่าง นายวิฑูรย์ มือใหม่หัดขับ กับนายไพฑูรย์ มือเก๋าขับเก่ง
อาจจะไม่รุนแรง จนส่งผลทำให้รัฐบาล ล้มครืน แต่มันจะสะสมและปั่นทอนความ เชื่อมั่น ของรัฐบาลโดยเฉพาะตัวนายอภิสิทธิ์
มีอย่างที่ไหนทำงานมา 1 เดือน เกิดข้อ ครหา ขึ้นมาซะแล้ว
มีปัญหา อย่าหนี รีบแก้และตอบข้อ สงสัย ให้สังคมกระจ่างแจ้งเป็นการด่วน.