อดีตพระยันตระกลับไทย คาดคดีหมดอายุความ

อดีตพระยันตระกลับไทย คาดคดีหมดอายุความ

อดีตพระยันตระกลับไทย คาดคดีหมดอายุความ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพจาก เฟสบุ๊ก เทศบาลปากพนัง

(23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางไปกราบไหว้ นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ ที่บ้านบางบ่อ ใกล้วัดรัตนาราม ต.ปากพนัง ฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นคร ศรีธรรมราช จากตรวจสอบไปยังชาวบ้านใน ต.บางบ่อ อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตพระยันตระ ได้รับการยืนยันว่าอดีตพระยันตระพร้อมสาวกจำนวนกว่า 10 คน ได้เดินทางมาที่บ้านเกิดตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ในขณะนี้ได้เดินทางออกจาก อ.ปากพนัง ไปหลายวันแล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะเดินทางไปพำนักใน จ.สงขลา และ จ.ภูเก็ต

สำหรับเรื่องการเข้าเมืองนั้น มีการพูดกันในวงในว่า อดีตพระยันตระเดินทางกลับเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากคดีความต่าง ๆ ผ่านมา 20 ปีเศษแล้ว คดีจึงหมดอายุความ ซึ่งในขณะนี้คาดว่าคณะของอดีตพระยันตระ น่าจะพำนักอยู่ใน จ.สงขลา หรือ จ.ภูเก็ต

สำหรับคดีของอดีตพระยันตระ ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2537 ชื่อของ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" หรือ "พระวินัย อมโร" ในวัย 40 ปี เป็นข่าวโด่งดังหลังจากมีสีกากลุ่มหนึ่งร้องเรียนไปยังกรมการศาสนาว่า พระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ เพราะได้ล่อลวงสีกาชื่อนางจันทิมา มายะรังษี ไปเสพเมถุนจนตั้งครรภ์ และคลอดบุตรสาวออกมาตั้งชื่อว่า "ด.ญ.กระต่าย" โดยมีเทปสนทนาระหว่างพระยันตระกับนางจันทิมาออกมาใช้เป็นหลักฐานด้วย

การออกมาเปิดโปงเรื่องนี้กลายเป็นข่าวช็อกของวงการพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องยอมรับว่า ในสมัยนั้นพระยันตระ ได้รับความศรัทธาเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนมหาศาลตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักพรตฤาษี กระทั่งอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในธรรมยุติกนิกายในปี พ.ศ. 2517 ณ วัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook