เทพเทือกไม่กลัวเสื้อแดงล้อมมช.ไล่ ลั่นลุยงานจว.เหนือต่อ คนขับรถฝ่าเหล็กกั้นตร.ยันแค่ผ่านเฉยๆ

เทพเทือกไม่กลัวเสื้อแดงล้อมมช.ไล่ ลั่นลุยงานจว.เหนือต่อ คนขับรถฝ่าเหล็กกั้นตร.ยันแค่ผ่านเฉยๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สุเทพไม่รู้สึกหวาดกลัวเสื้อแดง ระดมพลบุกมช.ขับไล่ กลางงานราตรีอ่างแก้วครบ45 ปี บอกขอเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่พท.ภาคเหนือต่อไป ตร.เชียงใหม่เคลียร์ เจ้าของรถออดี้ หลังยิงสกัดล้อขณะขับชนแผงเหล้กกั้นระหว่างม็อบฮือปิดล้อม สุดท้ายแค่เรื่องเข้าใจผิด เจ้าของรถยันไม่เกี่ยวข้องกลุ่มผู้ชุมนุม

สุเทพไม่กลัวเสื้อแดงปิดล้อมไล่ ลั่นลุยงานจว.เหนือต่อ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ถึงการเดินทาง ไปร่วมงาน ราตรีอ่างแก้ว 2552เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย เชียงใหม่ครบรอบ 45 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 300 คน นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล เข้าปิดล้อมและก่อความวุ่นวายภายในงาน โดยฝ่าด่านตำรวจเข้าไปในงาน แต่ไม่เจอตัวนายสุเทพ เนื่องจากออกไปก่อนหน้านี้ ว่า ตนไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว และจะขอเดินหน้าลงพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จ.ภาคเหนือต่อไปถึงแม้จะถูกบุกไล่ก็ตาม

ส่วนการโฟนอิน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านสถานีโทรทัศน์ดีททีวี ในวันนี้ นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้มีการสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับตาอะไรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่า คงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นางสาวกัญญาภัค มณีจักร นักจัดรายการวิทยุชุมชน คลื่นเอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิร์ต และแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า หลังมีกระแสข่าวว่า นายสุเทพ จะเดินทางมาที่จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันสถาปนา ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่า นายสุเทพจะเดินทางมาถึง จ.เชียงใหม่ เมื่อไร ถ้าทราบเวลาแน่ชัดจะระดมมวลชนกลุ่มเสื้อแดงไปรอต้อนรับและขับไล่แน่นอน โดยต่อมา รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดง ได้รวมตัวกันที่บริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่ และปากทางเข้าออกกองบิน 41 พร้อมชูป้ายโจมตีนายสุเทพ รวมถึงมีการประกาศผ่านวิทยุชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อระดมคนเสื้อแดงไปที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อดักรอนายสุเทพด้วย

จนกระทั่งเวลา 18.50 น. พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้นำ รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์ทอง เข้าไปรับนายสุเทพด้านในรันเวย์ ก่อนจะ ขับหลบเข้าด้านในกองบิน 41 เพื่อหลีกเลี่ยงทางเข้าออกปกติที่มีกลุ่มเสื้อแดงปิดอยู่ โดย มีรถการท่าอากาศยานเชียงใหม่นำหน้า ก่อนเดินทางไปถึงหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หลังทราบข่าว กลุ่มเสื้อแดงได้เคลื่อนย้ายไปชุมนุมขับไล่ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยระดมกำลังมาปิดล้อมถนนนิมมานเหมินทร์ ด้านตลาดต้นพะยอม และบริเวณสามแยกตัดไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสองเส้นที่เดินทางเข้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระดมกำลังจาก 3 โรงพักในอำเภอเมืองกว่า 300 คนวางกำลัง สกัดแต่กลุ่มเสื้อแดงได้ใช้รถยนต์บุกตะลุยแหกด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขณะที่ตำรวจชุดสลายฝูงชนพร้อมโล่ประมาณ 150 นาย ได้ปิดทางถนนนิมมานเหมินทร์ บริเวณด้านหน้าหอประชุม ทำให้กลุ่มเสื้อแดงต้องจอดรถเดินเท้าเข้าไป รวมตัวด้านหน้าหอประชุมแต่ไม่สามารถฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปในหอประชุมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากกลุ่มเสื้อแดงไปถึงได้ครู่ใหญ่ ได้มีรถเก๋งยี่ห้อออดี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฐบ 3842 กรุงเทพมหานคร ขับออกมาจากด้านหน้าของหอประชุมด้วยความเร็วพุ่งไปบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กปิดถนนหน้าสวนสุขภาพ มช.โดยไม่มีท่าทีจะชะลอความเร็ว ทำให้ตำรวจเกรงว่า จะพุ่งชนได้รับบาดเจ็บจึง ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ล้อหลังด้านซ้ายจนรถหยุด จากนั้นได้กรูกันเข้าไปลากตัวชาย ที่ขับรถดังกล่าวออกมาสวมกุญแจมือนั่งกับพื้นถนนข้างรถ ซึ่งทราบชื่อชายดังกล่าวว่า นายพรชัย สุวรรณพิไชยศรี อายุประมาณ 40 - 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในรถ พบผ้าพันคอสีแดงพร้อมตีนตบวางอยู่บน เบาะด้านข้างคนขับ

ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงได้กรูเข้าล้อมเจ้าหน้าที่กดดันให้ปลดกุญแจมือ และปล่อยตัวนายพรชัย จนสถานการณ์ตึงเครียด และเกือบมีการปะทะกัน ทำให้ตำรวจ ยอมปล่อยตัวในที่สุด พร้อมทั้งระดมกำลังเพิ่มเติมจาก สภ. ใกล้เคียงเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยแกนนำกลุ่มเสื้อแดงระบุว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ และยืนยัน จะแจ้งความดำเนินคดีเพราะนายพรชัยไม่ได้ทำความผิด แต่กลับถูกปฏิบัติอย่างรุนแรง โดยได้เก็บปลอกกระสุนที่ตกข้างรถจำนวน 3 ปลอก ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

รายงานแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.25 น. แกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่นำกำลังเข้าบุกหอประชุม ได้โฟนอินเข้ารายการวิทยุคนเสื้อแดง 92.5 MHz แสดงอารมณ์ไม่พอใจที่มีการใช้ปืนยิงล้อรถของฝ่ายตน เรียกร้องให้ชาวบ้านออกมาจากบ้านให้มากที่สุดโดยบอกว่าให้เอาอาวุธมาด้วยเพราะตนทนไม่ไที่ตำรวจใช้อาวุธ และขู่เผารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 บุกเข้าไปภายในหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนทำให้การจัดงานเลี้ยงดังกล่าวแทบจะล้มลงกลางครันนั้น กลุ่มเสื้อแดงให้กระจายกันปิดล้อมประตูเข้าออกตัวอาคารหอประชุมทุกด้านไม่ให้ผู้ที่อยู่ภายในงานเข้าออกได้ เนื่องจากมีการปลุกระดมว่านายสุเทพ อยู่ข้างใน และมีการตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบคายอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายสุเทพ ได้เข้ามาภายในงานเลี้ยงในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.และอยู่ร่วมงานนานประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะเดินทางออกไปก่อนเนื่องจากสถานการณ์ไม่ดี

ด้าน นายสุเทพ กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากงาน "ราตรีอ่างแก้ว ว่า เกิดความวุ่นวายขึ้นบริเวณรอบงาน เนื่องจาก กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนหนึ่ง เดินทางมาปิดล้อมงาน เพราะทราบว่า ตนเองจะเดินทางมาร่วมงานด้วย พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์ไม่มีอะไรที่รุนแรง และตนเองก็ไม่ได้พบเจอกับประชาชนที่มาปิดล้อมใดๆทั้งสิ้น แต่ไม่อยากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะหากคนไม่เข้าใจก็จะมองว่าเป็นการยั่วยุกันไปอีก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสลายตัวจากหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว ทางกลุ่มเสื้อแดงกลุ่มเดียวกันนี้ ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่สถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนยิงยางล้อรถยนต์ของสมาชิกในกลุ่มที่พยายามฝ่าวงล้อมตำรวจ

คนขับรถฝ่าแผงเหล็กตร.ที่มช.ไม่เกี่ยวเสื้อแดง

เมื่อเวลา 23.00 น. นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีตำรวจยิงใส่รถของนายนายพรชัย สุวรรณพิไชยศรี ที่พยายามขับรถเก๋งยี่ห้อออดี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฐบ 3842 กรุงเทพมหานคร วิ่งชนแผงกั้นตำรวจ โดยนายไพโรจน์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยตำรวจได้วางกำลังเพื่อดูแลรักษาความสงบเป็น 3 ชั้น บังเอิญนายพรชัยขับรถเข้ามาผ่านด่านแรก ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงกำลังพยายามผลักดันและรื้อแผงเหล็ก เพื่อให้สมาชิกเข้าไปชุมนุมในพื้นที่บริเวณหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสถาปนาครบรอบ 45 ปี ของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นแผงเหล็กเปิดออก นายพรชัยก็ขับรถพุ่งเข้าไป ทำให้เข้าใจว่า เป็นกลุ่มเดียวกับเสื้อแดง จากนั้นนายพรชัยได้ขับถึงด่านสุดท้าย ซึ่งตำรวจชุด รปภ.หันหลังให้กับรถ ขณะที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดอยู่บริเวณดังกล่าวเห็น เกรงว่าจะพุ่งชนตำรวจที่วางแนวอยู่ จึงได้ใช้อาวุธปืนพกประจำกายยิงใส่ล้อรถเพื่อบังคับให้รถหยุด โดยผู้เสียหายกับตำรวจได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว ขณะที่ผู้เสียหายยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับม็อบเสื้อแดง เพียงผ่านมาเฉย ๆ

พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ให้พนักงานสอบสวน สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะดูจากพยานหลักฐานทุกประเภท ตลอดถึงวิถีกระสุนว่า มีเจตนาที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อคนขับรถหรือไม่ หากมีเจตนาแค่หยุดรถก็จะเป็นกรณีทำให้เสียทรัพย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่า จะเอาความหรือไม่ แต่เชื่อว่าผู้เสียหายไม่เอาความ เพราะได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว

มาร์คเจอป่วนขณะหาเสียงจังหวีดนนท์เจอทั้งตีนตบ-โห่ไล่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เจอกลุ่มคนเสื้อแดง และผู้ที่ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ก่อกวนตลอดเวลาขณะลงพื้นที่ตลาดบางบัวทอง อ.เมืองนนทบุรี เมื่อเช้าวันที่ 24 มกราคม เพื่อหาเสียงเลือกตั้งซ่อมช่วยนายณรงค์ จันทนดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 2 อย่างไรก็ดี นายอภิสิทธิ์ไม่ได้แสดงอาการอะไรตอบโต้ ยังคงเดินหาเสียงและปราศรัยไปตามปกติ พร้อมกับยืนยันในการยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

เวลา 08.15 น. นายอภิสิทธิ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองหัวหน้าพรรค และคณะเดินหาเสียงในตลาดบางบัวทอง ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาซื้อของจำนวนมาก ระหว่างนายอภิสิทธิ์กำลังถ่ายรูปกับแม่ค้าอยู่นั้น ได้มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง สวมคลุมผ้าทอสีแดงตะโกนสวนมาว่า นายกฯหนีทหาร บอยคอตนายกฯ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมากันตัวหญิงคนดังกล่าวออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายอภิสิทธิ์จะมาถึงตลาดบางบัวทองในช่วงเช้า หญิงคนดังกล่าวพยายามตะโกนใส่คนบนเวทีปราศรัยพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วครั้งหนึ่งว่า นายกฯหนีทหาร มาเป็นนายกฯได้อย่างไร แล้วก็เดินจากไป ก่อนจะมาตะโกนใส่หน้านายอภิสิทธิ์อีกรอบ

นายกรัฐมนตรีตกใจเจอชูตีนตบไล่ไปไกลๆ

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ขึ้นปราศรัยบนรถหาเสียงว่า เป็นธรรมดาที่ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ไปทะเลาะกับใคร สถานการณ์วันนี้เริ่มเย็นลงแล้ว ประเทศไทยพร้อมยืนยันกับชาวโลกว่า กำลังกลับสู่ภาวะปกติ

ระหว่างนายอภิสิทธิ์ปราศรัยบนเวที มีชายคนหนึ่งถีบรถสามล้มรับจ้างติดป้ายเขียนว่า ยึดทำเนียบฯไม่เป็นไร แต่ปาไข่ติดคุก วนไปมาอยู่ใกล้ขบวนรถยนต์ของนายกฯที่จอดอยู่หน้าตลาดบางบัวทอง โดยถีบวนอยู่หลายรอบจนกระทั่งขบวนของนายอภิสิทธิ์เคลื่อนตัวออกไป

เวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะ เดินหาเสียงบริเวณตลาดท่าน้ำปากเกร็ด เมื่อมาถึงบริเวณร้านค้าริมทางใต้สะพานพระราม 4 มีวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างประมาณ 10 ซึ่งจับกลุ่มยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน ตะโกนโห่ฮาจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไประงับเหตุ เมื่อคณะของนายอภิสิทธิ์เดินมาถึงหน้าร้านขายขนมปังและเบเกอร์รี่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กัน หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านรีบนำตีนตบสีแดงขึ้นมาเขย่า พร้อมกับตะโกนว่า ไปหาเสียงไกลๆเลย ทำเอานายอภิสิทธิ์ถึงกับตกใจเล็กน้อยแล้วก็เดินผ่านไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

มาร์ค ยอมรับเพราะเป็นสังคมประชาธิปไตย

เวลา 10.30 น. นายอภิสิทธ์ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการเผชิญกับเสียงตะโกนขับไล่และตีนตบระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงว่า เรื่องนี้เป็นธรรมดา บรรยากาศการเมืองขณะนี้จะหวังให้ราบรื่น 100 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้ แต่มองเห็นแนวโน้มว่าจะดีขึ้นตามลำดับ เคยบอกแล้วว่า คนที่คิดไม่เหมือนกับตนต้องมีได้ และต้องมีเวทีที่แสดงออกได้ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมายและทุกอย่างอยู่ในลักษณะที่สงบเรียบร้อย ก็ไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่เกิดเหตุการณ์ปาไข่ถือว่าสถานการณ์เริ่มดีแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะแสดงความคิดเห็นต่อว่าอะไรก็ต้องยอมรับในสังคมประชาธิปไตย แต่อย่าทำผิดกฎหมายเป็นใช้ได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาเป็น ส.ส.เมื่อ 16-17 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งได้รับเลือกตั้งในเขต 2 จ.นนทบุรี เข้ามาครั้งแรก จึงเป็นงานหนักในการรักษาพื้นที่ แต่จากการพบประชาชนก็ให้การตอบรับดี

วอนฝ่ายค้านสนับสนุนอาเซียนซัมมิท

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยื่นหนังสือให้ผู้นำประเทศต่างๆ ยกเลิกเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ผ่านสถานทูตประเทศอาเซียนว่า คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะผู้นำทุกประเทศได้ตอบรับมาแล้ว สังคมไทยเป็นสังคมประชาธิปไตยที่หลากหลาย หากมีกลุ่มคนที่เป็นฝ่ายค้านหรือใครก็ตามไปแสดงความคิดเห็นก็จะสามารถทำได้ แต่เชื่อว่าไม่กระทบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเจรจากับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายวิทยา บูรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ไปแล้ว แม้เวลาคุยจะสั้น แต่ได้บอกว่าอยากให้ร่วมมือกันเรื่องอาเซียนและงบประมาณกลางปี เพราะเป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประชาชน ประธานวิปฝ่ายค้านฟังด้วยดี และรับปากจะไปประสานงานให้ในเบื้องต้นก่อน เพราะในพรรคมีระบบ มีแกนนำที่จะต้องไปพูดคุยด้วย

อภิสิทธิ์ชี้ไม่เหมาะดึงทุนนอกล้มรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามถึงคนเสื้อแดงจะระดมทุนจากต่างชาติมาใช้เคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าเป็นการเอาเงินทุนจากต่างประเทศมาดำเนินเรื่องกิจการภายในก็คงไม่เหมาะ แต่คงไม่เป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นเรื่องของพรรคที่จะจัดงานระดมทุนอะไรตามปกติ ซึ่งสามารถทำได้

เมื่อถามว่า จะต้องตรวจสอบเส้นทางเงินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากเป็นเรื่องพรรคการเมืองนั้นมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว แต่หากเป็นเรื่องตัวบุคคลจะไปติดต่อประสานงานกับใครก็สามารถทำได้ ถ้าเป็นตัวองค์กรก็มีกลไกตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้หนักใจอะไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook