มาร์คขยายวงเงินหมื่นล้านให้นร.-น.ศ.กู้ยืมเรียน ปลัดศธ.ชงเรียนฟรีให้เสมา1อนุมัติก่อนเข้าสภา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 มกราคม ว่ามีการสอบถามเรื่องการเรียนฟรีว่าจะได้อะไรบ้าง จึงขอขยายความว่าจะดำเนินการในส่วนของอนุบาลถึงมัธยมปลาย หรือ ปวช. โดยสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สมุด ดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น และจะมีเครื่องแบบนักเรียนให้คนละ 2 ชุด ซึ่งจะดำเนินการจัดหาและดำเนินนการตรงนี้ให้เสร็จก่อนเปิดเทอม
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนปัญหาเรื่องทุนการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นไป ซึ่งมี 2 ปัญหาคือ เงินของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งมีอยู่ 2 กองทุนในขณะนี้ ยังมีเสียงมาว่ายังไม่ได้รับเงินตัวนี้ ได้รับอนุมัติไปแล้วแต่ว่าเงินยังไม่โอนไป ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดในเรื่องของการบริหารจัดการแล้ว อีกปัญหาหนึ่งคือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้คนที่ไม่เคยกู้ยืม ต้องการกู้ยืมจากกองทุนเพื่อการศึกษา แต่มีปัญหาทางคือ วิธีปฏิบัติเดิมจะให้เฉพาะผู้ที่เคยกู้ยืม แต่คนที่ไม่ได้กู้ยืมในตอนต้นๆ มักจะมีปัญหา คือไม่สามารถที่จะหาเงินกองทุนกู้ยืมได้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบอกว่าขณะนี้เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา น่าจะเหลือเพื่อให้ใช้กู้ยืมได้อีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จึงมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปศึกษาดูว่าจะเปิดโอกาศให้นักเรียน นักศึกษาที่กู้ยืมเป็นรายใหม่ ได้กู้ยืมหรือไม่
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ว่า ในที่ประชุมคณะทำงานเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ได้จัดทำรายละเอียดเพื่อเตรียมชี้แจงเรื่องเรียนฟรี 15 ปี ที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 มกราคมนี้ โดยคณะทำงานได้ทำความชัดเจนที่จะดำเนินการในแต่ละส่วนว่ามีพื้นฐานการคิดอย่างไร อาทิ ค่าเล่าเรียน จัดสรรอย่างไร, ค่าตำราเรียน จัดสรรอย่างไร ให้เลยหรือให้ยืมเรียน, ค่าอุปกรณ์การเรียน มีการกำหนดรายการพื้นฐาน ได้แก่ สมุดแบบฝึกหัด ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น จะจดซื้อและจัดส่งอย่างไร จะจัดสรรเป็นเงินและให้โรงเรียนไปดำเนินการซื้อเอง หรือจะใช้วิธีการใดที่โปร่งใสที่สุด ไม่ซ้ำซ้อน เพราะมีเจตนารมณ์อยากให้ไว้ใช้ตลอดปีการศึกษา ไม่ใช่ให้ต้นปีแล้วปลายปีมาขอใหม่เพราะใช้อย่างทิ้งขว้าง
ส่วนเครื่องแบบนักเรียน เป็นสิทธิที่เด็กทุกคนพึงได้รับ แต่เนื่องจากใช้ราคาของคณะกรรมการมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เป็นราคามาตรฐานที่ใช้ในการจัดสรร ซึ่งเป็นราคาต่ำสุด แต่มีคุณภาพมาตรฐาน ขณะที่มีเด็กหลายกลุ่มได้แก่ เด็กในชนบท เด็กในเมือง เด็กในโรงเรียนเอกชน เด็กในโรงเรียนสาธิต ฉะนั้นคิดว่าในส่วนของเด็กในชนบท ราคามาตรฐานของ มอก.ดังกล่าวน่าจะใช้ได้ แต่สำหรับเด็กที่อยู่ในเมือง โรงเรียนเอกชนและโรงเรียนสาธิต อาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากชุดนักเรียนเป็นแบบแผนและมีราคาสูงกว่าราคามาตรฐานของ มอก.มาก ดังนั้นอาจจะจัดสรรเป็นเงินแล้วไปเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายเอง นายชินภัทรกล่าว
นายชินภัทรกล่าว่า เรื่องเครื่องแบบนักเรียนจะเปิดให้มีการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ ขณะเดียวกันจะประสานให้โรงเรียนเชิญชวนและรณรงค์ให้ผู้ปกครองที่มีฐานะร่ำรวยไม่ใช้สิทธิขอเครื่องแบบนักเรียน เพื่อรัฐจะได้ประหยัดงบประมาณและนำเงินดังกล่าวมาช่วยเด็กยากจนและด้อยโอกาสเพิ่มขึ้น ถือเป็นการสร้างจิตสาธารณะด้วย โดยจะมีการออกใบประกาศเกียรติบัตรให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง โรงเรียนขึ้นบอร์ดยกย่องนักเรียนและผู้ปกครอง และต่อไปในอนาคต ศธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิด หากโรงเรียนใด สามารถเชิญชวนให้ผู้ปกครองไม่ใช้สิทธิได้มาก ศธ.ก็จะให้เครดิต เพราะถือว่าสามารถเชิญชวนทำความเข้าใจและรณรงค์ได้ดี นายชินภัทรกล่าว และว่า ส่วนเรื่องบริหารจัดการนั้น คณะทำงานพูดคุยกันว่าจะยืดหยุ่น โดยโรงเรียนสามารถบริหารจัดการได้เอง เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น อาจจะให้กลุ่มแม่บ้านตัดเย็บ หรือในส่วนของเด็กอาชีวะก็อาจจะให้วิทยาลัยอาชีวศึกษา ดำเนินการตัดเย็บเองภายใต้งบฯที่ได้รับจัดสรร
นายชินภัทรกล่าวต่อไปว่า ส่วนงบฯพัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่ผ่านมาจัดสรรให้อยู่แล้ว จะอยู่ในรายการค่ายวิชาการค่ายคุณธรรมจริยธรรม ค่ายลูกเสือเนตรนารี ปีละ 1 ครั้ง และบริการไอซีทีสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง ถ้าโรงเรียนใดเพิ่มกิจกรรมมากกว่านี้ก็สามารถเก็บเป็นเงินค่ากิจกรรมได้ หรือเรียกว่าอยู่ในค่าบำรุงการศึกษาได้ แต่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการสถานศึกษาก่อนและรายงานชี้แจงต่อเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดด้วย ในส่วนของโรงเรียนสาธิตทุกแห่ง ได้มีการขอเงื่อนไขว่าไม่รับงบฯดังกล่าว เพราะไม่เพียงพอการต่อค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมของโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์การจัดตั้งเฉพาะในเรื่องดำเนินการทดลองนวัตกรรมทางการศึกษา จึงมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ดังนั้น จึงไม่ขอรับการสนับสนนุงบฯพัฒนากิจกรรมแต่ขอให้การระดมทรัพยากรผู้ปกครองตามเดิมซึ่งก็เป็นความสมัครใจของผู้ปกครองแต่ต้นที่จัดส่งลูกมาเข้าโรงเรียนประเภทนี้
นายชินภัทรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คณะทำงานได้หารือถึงการจัดพิมพ์ตำราเรียนว่าทำอย่างไรถึงจะมีคุณภาพและทันเวลากับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2551 ซึ่งปีนี้รัฐมนตรีว่าการ ศธ. มอบนโยบายให้ใช้กระดาษถนอมสายตามาจัดพิมพ์ เพื่อถนอมสายตาเด็ก ที่สำคัญมีน้ำหนักเบาและเด็กจะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักไปโรงเรียน ทั้งนี้ ในการจัดสรรค่าใช้จ่ายหนังสือแบบเรียนให้กับโรงเรียนนั้น ศธ.จะยึดราคาปกของหนังสือองค์การค้าโดยลดราคาร้อยละ 20 ของราคาปก เป็นหลักในการจัดสรรงบฯให้กับโรงเรียนและโรงเรียนสามารถนำเงินไปหาซื้อหนังสือได้ภายใต้งบฯ ที่ได้รับ ซึ่งสำนักพิมพ์ใดที่จัดพิมพ์ราคาที่สูงกว่างบฯ ดังกล่าว โรงเรียนก็จะไม่สามารถจัดซื้อได้ ส่วนที่ถามว่าจะผูกมัดให้องค์การค้าจัดพิมพ์รายการใดบ้างหรือไม่นั้น ยืนยันว่าการจัดพิมพ์ตำราเรียนยังคงเปิดเสรีให้เอกชนเหมือนเดิม ยกเว้นรายการใดที่องค์การค้ามีลิขสิทธิ์อยู่แล้วก็ดำเนินการไปตามนั้น
ปีนี้เป็นปีแรกที่ประกาศนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ดังนั้น จะจัดสรรให้อย่างเต็มที่ยกเว้นเครื่องแบบนักเรียน ที่เราจะขอให้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ เนื่องจากมีกลุ่มนักเรียนที่หลากหลาย อีกทั้งจะได้รณรงค์เรื่องจิตสาธารณะด้วย โดยจะนำผลประชุมดังกล่าวเข้าหารือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ในวันที่ 26 มกราคม และมั่นใจว่าจะดำเนินการได้ทันภาคเรียนที่ 1/2552 แน่นอน ขณะนี้ได้กำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานหมดแล้ว รวมถึงการจัดส่งหนังสือแบบเรียนก็ต้องทันตามกำหนดด้วย ทั้งนี้ งบฯจะใช้ทั้งหมด 18,275 ล้านบาท ตามที่กำหนดอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ นายชินภัทรกล่าว