สรรพากรเค้นภาษีกลุ่มค้ายา-หวยดึงเงินเข้ารัฐ
โดยรูปแบบของการดำเนินการ ป.ป.ส.จะส่งเรื่องมายังกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบเส้นทางเงิน ซึ่งปปง.และสรรพากรมีสิทธิตามกฎหมายจะขอตรวจสอบบัญชีเงินฝากจากธนาคารของผู้ต้องสงสัยว่าจะค้ายาเสพติดหรือขายหวยใต้ดิน ซึ่งหากพบว่าผู้ต้องสงสัยมีเงินได้มากแต่ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ก็สามารถดำเนินคดีตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ฐานหลีกเลี่ยงภาษีได้ โดยโทษจะทั้งจำและปรับไม่เกิน 3 หมื่น - 2 แสนบาท พร้อมเรียกภาษีย้อนหลังทั้งหมด
สำหรับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) รัฐจะยังคงจัดเก็บที่ 7% ต่อไป จนถึง 30 ก.ย. 53 ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม ส่วนหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มหรือลดหรือไม่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะพิจารณา โดยการปรับเพิ่มหรือลดแวต 1% จะทำให้รัฐมีหรือสูญเสียรายได้ถึง 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่การปรับเพิ่มหรือลดภาษีนิติบุคคล 1% จะมีผลให้รัฐมีหรือสูญเสียรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การปรับเพิ่มหรือลดแวตจึงค่อนข้างอ่อนไหวต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ทั้งนี้ ในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปัจจุบันมีผู้เสียภาษีประมาณ 9 ล้านราย ซึ่งนโยบายของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังระบุว่าไม่ควรบีบคั้นหรือเร่งรีดภาษีกับใครหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ควรขยายฐานผู้เสียภาษีให้มากขึ้นเพื่อนำเงินรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นนำไปสร้างสวัสดิการต่อประชาชนทั้งประเทศต่อไป