พายุถล่มยุโรปใต้ดับ 15 ศพ ระบบคมนาคม-ไฟฟ้าเดี้ยง
พายุขนาดใหญ่พัดถล่มยุโรป ดับอย่างน้อย 15 ราย ขณะอีกนับล้านไร้ไฟฟ้าใช้
พายุที่มาพร้อมกับความเร็วลมถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ต่างจากเฮอริเคน พัดเข้าถล่มทางตอนเหนือของสเปน วานนี้ ยังผลให้หลังคาของสนามกีฬาแห่งหนึ่งในเขต ซานต์ บอย เดอ โลเบรกัต ใกล้เมือง บาร์เซโลนา เสียหาย และทำให้มีเด็กเสียชีวิต 4 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 9 ราย
สื่อสเปนเปิดเผยว่า เด็กๆ กำลังเล่นเบสบอลอยู่นอกอาคาร แต่ใช้ห้องพักในอาคารดังกล่าว
"ดูเหมือนว่าหลังคาจะถล่ม ลงมา ทำให้ส่วนหนึ่งของอาคารพังทลายไปด้วย" โฆษกของเมือง กล่าว
ขณะเดียวกันกรมอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศส เตือนว่าพายุลูกดังกล่าวอาจจะรุนแรงเท่ากับพายุที่เกิดในปี 2542 ซึ่งถอนรากถอนโคนต้นไม้นับล้านต้น และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 88 ราย อย่างไรก็ดี พายุครั้งนี้ จะส่งผลกระทบในพื้นที่ที่จำกัดกว่าพายุในปี 2542 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส และวัดความเร็ว ลมพายุดังกล่าวได้สูงสุดที่ 184 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เมืองแปร์ปิยอง ขณะที่มีฝนตกหนักด้วย
อีอาร์ดีเอฟ ผู้ให้บริการจ่ายกระแสไฟฟ้าในฝรั่งเศส รายงานว่า ความรุนแรงของพายุยังส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสราว 1.3 ล้านครอบครัว ขาดกระแสไฟฟ้าใช้ เช่นเดียวกับประชาชนอีกหลายหมื่นรายในสเปน เนื่องจากเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มลงมา
สภาพอากาศรุนแรงครั้งนี้ ยังสร้างความเสียหายต่อระบบขนส่งมวลชนในทั้ง 2 ประเทศ ทั้งทางบกและทางอากาศ นอกจากนี้ยังได้โค่นต้นไม้ล้มลงมาเป็นจำนวนมาก
เหตุพายุรุนแรงดังกล่าว ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 11 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกลมพัดของแข็งเข้ากระแทกกับร่างกายอย่างรุนแรง