ปิดตำนาน! ศึกพี่น้อง ชิงมรดกเลือด ตระกูลธรรมวัฒนะ ยืดเยื้อยาวนานกว่า 14 ปี

วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ศาลอาญาได้มีการนัดไกล่เกลี่ย คดีที่ นายวิกรม ธรรมวัฒนะ เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาวคนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ นางนฤมล มังกรพานิชย์ และนายนรินทร์ วงศ์ไทย ในความผิดฐานเบิกความเท็จ นำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 นางสาวคนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะกับพวก เบิกความเท็จต่อศาลแพ่ง ในประเด็นสำคัญ ทำให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ นายวิกรม ธรรมวัฒนะ นำหุ้นพิพาทของบริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด ไปลงคะแนนเสียงในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ทำให้ นายวิกรม ธรรมวัฒนะ ได้รับความเสียหาย

โดยในวันนี้ นายปริญญา ธรรมวัฒนะ และนางนฤมล มังกรพานิชย์ พร้อมด้วยพี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะ เดินทางมาที่ศาลอาญา เข้าร่วมการไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

ทั้งนี้ นายปริญญา ธรรมวัฒนะได้เปิดเผย ภายหลังว่า ขอขอบคุณศาลที่แนะนำให้ทางครอบครัวมาไกล่เกลี่ยคดีกัน จนสามารถตกลงกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย สำหรับคดีความเกิดขึ้นตั้งแต่นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายเสียชีวิต ก็เกิดคดีความฟ้องร้องกันขึ้นในครอบครัว ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา รวมถึงคดีที่ฟ้องร้องกับนายนพดล ธรรมวัฒนะ พี่ชายด้วย รวมทั้งสิ้น 48 คดี สามารถตกลงและไกล่เกลี่ยกันได้ทั้งหมด

โดย นายปริญญา ธรรมวัฒนะ เปิดเผยว่าได้ขายหุ้นและกิจการทั้งหมดให้กับ นางนฤมล มังกรพานิชย์ พี่สาว และนางนฤมล มังกรพานิชย์จะเป็นผู้บริหารธุรกิจต่อไป และไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายต่อไป และถือว่าเป็นการปิดตำนานคดีที่ต่อสู้คดีความกันมายาวนานกว่า 14 ปี ส่วนมูลค่าซื้อขายหุ้น ไม่ขอเปิดเผย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวสงบสุข

ด้าน นางนฤมล มังกรพานิชย์ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณศาลที่ช่วยไกล่เกลี่ยคดีจนสามารถตกลงกันได้ สำหรับธุรกิจของครอบครัว เมื่อประกอบกิจการมาระยะหนึ่ง ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยู่ที่ว่าจะสามารถยอมรับและเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ และขอให้คดีของครอบครัวตระกูลธรรมวัฒนะ เป็นตัวอย่าง เมื่อพี่น้องมีปัญหา ต้องหันหน้าคุยกัน และหาทางแก้ไข เพื่อให้ความบอบช้ำ และความเสียหายเบาบางลง