เคหะรามฯร้อง มาเฟียไล่โหดผู้ค้างค่าเช่า

เคหะรามฯร้อง มาเฟียไล่โหดผู้ค้างค่าเช่า

เคหะรามฯร้อง มาเฟียไล่โหดผู้ค้างค่าเช่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านร้อง การเคหะแห่งชาติ จ้างบริษัทเอกชน ทวงหนี้โหด ทั้งไล่ ตัดน้ำ ไฟ มียิงตายหน้าแฟลต

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กลุ่มประชาชนที่อยู่อาศัยในโครงการการเคหะรามคำแหง ของการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ประมาณ 100 คน นำโดยนางมินตรา มีชัย ตัวแทนชาวบ้านที่ดูแลแฟลต 1-11 เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ กรณีกคช.ว่าจ้างบริษัทเอกชนและมาเฟียทวงหนี้พร้อมทั้งขับไล่ตัดน้ำตัดไฟ จนล่าสุดผู้นำการร้องเรียนถูกยิงตายหน้าแฟลตฯ

ทั้งนี้นายวิฑูรย์ให้นายชาญยุทธ โฆศิรินนท์ ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมฯ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ โดยนางมินตรา กล่าวว่า กคช.ได้จ้างบริษัทเอกชน ชื่อ บริษัทรอยัลเฟรม เข้ามาเป็นนิติบุคคลบริหารงาน โดยจะคอยขับไล่ชาวบ้านที่ค้างค่าเช่าแค่ 1เดือน ก็จะมายกมิเตอร์น้ำมิเตอร์ไฟและขนทรัพย์สินออกจากห้องไปหมด อาทิ ห้อง 5/6 แฟลต 3 ถูกตัดน้ำตัดไฟ ถูกถอดเอาประตูห้องไป บานเกล็ดถูกทุบ บ้านนี้มีลูกเล็กๆ และลูกเรียนชั้นป.1 ไม่มีไฟฟ้าทำการบ้านเดือดร้อน โดยหากมีคนติดค้างค่าเช่าหรือเช่าซื้อก็น่าจะไปฟ้องร้อง ไม่ควรทำตัวเหนือกฎหมาย

"พฤติกรรมบริษัทจะส่งมาเฟียมาข่มขู่ คุกคามชาวบ้าน เที่ยงคืนตีหนึ่งจะให้ยามมาเคาะประตู แกนนำที่เคยร้องเรียนเรื่องนี้ถูกยิงเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.49 จนถึงวันนี้คดีไม่คืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้กคช.ทำสัญญาไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน อย่างราคาห้องหรือบ้านแค่ 4-5 แสน แต่ทำสัญญาราคาบ้านกว่าล้านบาท ค้างค่าเช่าเดือนเดียวต้องจ่ายเพิ่มเป็น 2-3 เท่าตัว เรียกค่าปรับผิดนัดค่าเช่าสูงถึง 137 % ต่อปี ทั้งที่เราเป็นผู้มีรายได้น้อยถึงได้มาเลือกซื้อบ้านกับกคช.แต่กลับถูกขูดเลือดขูดเนื้อ"ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

นายชาญยุทธ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกคช.ไม่ทำความเข้าใจในเงื่อนไขต่างๆต่อประชาชน ดังนั้นขอให้กคช.รับไปดำเนินการโดยให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ประกอบด้วยตัวแทนจากฝ่ายกฎหมายกระทรวง กคช. ผู้แทนชุมชนที่เดือดร้อน และศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ โดยมีนายพงศ์พัท จิตรสำเริง ผู้ช่วยผู้ว่าฯกคช. เป็นประธาน ขอเวลาดำเนินการเรื่องนี้ 2 เดือน โดยระหว่างการตรวจสอบขอให้กคช.พิจารณาผ่อนผันให้ประชาชนคลายความเดือดร้อนไปก่อนในช่วง 2 เดือนนี้

ด้านนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกคช. กล่าวว่า ตนรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เบื้องต้นขอดูข้อมูลก่อนว่า กลุ่มที่มีปัญหาเป็นกลุ่มเช่าซื้อ หรือ กลุ่มเช่า ซึ่งในโครงการนี้ มีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 ราย แต่เท่าที่ทราบ กลุ่มที่มีปัญหาเป็นกลุ่มที่เช่าซื้อ ซึ่งมีประมาณ 200 ราย ที่กำลังจะถูกบังคับคดี เนื่องจาก ค้างค่าเช่ามานาน ไม่ต่ำกว่า 1 ปี กับกคช. ซึ่งโดยปกติขั้นตอนการบังคับคดี สามารถดำเนินการได้เมื่อคู่สัญญาผิดนัด 2-3 เดือน แต่ที่ผ่านมา กคช.ไม่เคยดำเนินการอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือกับกลุ่มชาวบ้าน อีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูล เพื่อคัดแยกผู้มีปัญหาอย่างละเอียด ก่อนที่จะหาทางผ่อนผันช่วยเหลือชาวบ้านไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน ส่วนพฤติกรรมของ บริษัทเอกชน ก็จะมีการตรวจสอบด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook