มติปปช.ชี้กทค.จัดประมูล3Gโปร่งใสไม่พบเอื้อประโยชน์ใคร

มติปปช.ชี้กทค.จัดประมูล3Gโปร่งใสไม่พบเอื้อประโยชน์ใคร

มติปปช.ชี้กทค.จัดประมูล3Gโปร่งใสไม่พบเอื้อประโยชน์ใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติยกคำร้อง กรณี กทค. ถูกกล่าวหาจัดประมูล 3G ไม่โปร่งใส หลังพบไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่ากระทำผิดจริง ไม่พบเอื้อประโยชน์ใคร

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งมติการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับกรณีกล่าวหาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตเกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี โดยป.ป.ช.ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงมติ ป.ป.ช. มีรายละเอียดดังนี้

ประธานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องถอดถอนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามมาตรา 63 และเป็นกรณีมีผู้กล่าวหาจำนวนหลายราย ส่งเรื่องมาตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ โดยกล่าวหา

1.พันเอก เศรษฐพงค์  มะลิสุวรรณ  ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
2.นายสุทธิพล  ทวีชัยการ                กรรมการกิจการโทรคมนาคม
3.นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์               กรรมการกิจการโทรคมนาคม
4.พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร                กรรมการกิจการโทรคมนาคม

โดยกล่าวหาว่า
1) ออกประกาศหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ 3จี เอื้อประโยชน์ให้กับผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ราย
ทำให้ไม่มีการแข่งขันเสนอราคากันอย่างแท้จริงในการประมูล
2) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด มีผู้จัดการเป็นคนต่างด้าว ขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมประมูล 3จี
3) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) ไม่มีอำนาจจัดการประมูลคลื่น 3จี
4) ผู้เข้าประมูลทั้ง 3 ราย มีการสมยอมกัน (ฮั้ว) ในการประมูลคลื่น 3 จี
5) กทค. ทั้ง 4 ราย ละเว้นไม่ดำเนินการยกเลิกการประมูลทั้งที่ทราบว่า การประมูล ผู้เข้าร่วมประมูล ไม่มีการแข่งขันเสนอราคากันอย่างแท้จริง

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่า

ข้อกล่าวหาที่ 1 จากการไต่สวนพบว่า ขณะออกประกาศหลักเกณฑ์ มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าประมูลได้จำนวน 20 ราย การออกประกาศหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวจึงมิได้เป็นการเอื้อให้กับผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ที่เข้าประมูลในครั้งนี้ ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ข้อกล่าวหาที่ 2 จากการตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า  บริษัท  ดีแทค เนทเวอร์ค มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด จึงไม่ขาดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต ตามประกาศฯ จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาจึงไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ข้อกล่าวหาที่ 3 จากการไต่สวนพบว่า การจัดประมูลคลื่น 3จี ของ กทค. เป็นการดำเนินการแทน กสทช. ตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ จึงเป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ข้อกล่าวหาที่ 4 จากการไต่สวนพบว่า การเสนอราคาของผู้เข้าประมูลทั้ง 3 ราย เป็นไปโดยถูกต้องตามประกาศหลักเกณฑ์ฯ ไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือพยานหลักฐานว่ามีการสมยอมกันในการเสนอราคา จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ข้อกล่าวหาที่ 5 จากการไต่สวนพบว่า การประมูลครั้งนี้ ตามประกาศฯ ได้แบ่งคลื่นออกเป็น 9 ชุด มีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด (AIS) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด (DTAC) และบริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด (TRUE) นั้น เป็นดำเนินการประมูลตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่ กสทช. ประกาศกำหนด มิได้นำหลักการประมูลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction) มาใช้ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค การประมูลก็มีการแข่งขันเสนอราคากันถึง 7 รอบ ผลการประมูลได้ราคาสูงกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีรายได้ต่อหัวใกล้เคียงกับประเทศไทย และได้รับการยอมรับจาก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติด้านโทรคมนาคม การประมูลครั้งนี้เป็นการพัฒนาระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยแบบก้าวกระโดด ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก กรณีนี้จึงไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจึงมีมติว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook