เสธหนั่นสั่งพศ.ประสานทุกวัดใช้ศาสนาแก้แตกแยก
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เดินทางไปมอบนโยบายให้ผู้บริหารและข้าราชการ พศ. ณ หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.พศ. พร้อมผู้บริหาร ผอ.พศ.75 จังหวัดให้การต้อนรับ โดยนางจุฬารัตน์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 พศ. ได้รับงบในการสนับสนุนจากรัฐบาลดำเนินงาน 3,449 ล้าน เพื่อพัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาในประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรือง เผยแพร่ในระดับนานาชาติ รวมไปถึงพัฒนาระบบสารสนเทศ ให้เป็นแหล่งค้นคว้าด้านพระพุทธศาสนา ล่าสุดได้รับงบสนับสนุนด้านการศึกษาสงฆ์ในโรงเรียนปริยัติธรรมทั่วประเทศอีก 117 ล้านบาทด้วย
ด้านพลตรีสนั่น กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับงานด้านพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เพราะสถาบันพระพุทธศาสนา ถือเป็นสถาบันที่สำคัญควบคู่สถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยประกาศเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล มุ่งส่งเสริมบทบาทสถาบันครอบครัว ร่วมกับสถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา และอื่นๆ ในการปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน ดังนั้น ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล พศ. จึงอยากจะฝากให้ พศ.และข้าราชการทุกคนหดำเนินงานเร่งด่วนดังต่อไปนี้
1.ส่งเสริมการนำหลักธรรมมาเสริมสร้างความปรองดองและความสามัคคีของคนในชาติ สืบเนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติความสามัคคีปรองดอง เริ่มถดถอย เกิดความแตกแยก แบ่งฝ่าย ประชาชนขาดสติและปัญญาในการไตร่ตรองหรือคัดกรองข้อมูลข่าวสาร ทำอย่างไรที่จะนำหลักธรรมมาหล่อหลอมจิตใจและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้มีสติปัญญารู้เท่าทันสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองและสังคม แล้วหันกลับมาปรองดองกันอีกครั้ง 2.เร่งรัดในการออกกฎหมายในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมามักเห็นผู้ที่ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนากระทำย่ำยีอยู่บ่อยครั้งทั้งในและนอกประเทศ เนื่องจากไม่มีมาตรการลงโทษชัดเจน 3.ฟื้นฟูบทบาทของบ้าน วัด โรงเรียน และราชการให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านต่างๆ ลง 4.ส่งเสริมบทบาทและงบประมาณในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ ในการเทศนาอบรมธรรมะให้แก่ประชาชนต้องมีการปรับแนวทางให้ทันสมัยขึ้น
ผมเห็นว่าศาสนาเท่านั้นคือความหวัง คือทางออกในการแก้ปัญหาความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายของคนในชาติขณะนี้ จึงอยากให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ประสานให้พระสงฆ์ทุกวันทั่วประเทศ เทศน์หรือบอกเล่าให้ประชาชนในท้องถิ่นของตนเองที่มีความแตกแยกทางความคิด ให้หันกลับมาปรองดอง สามัคคีกันตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อมั่นว่าพระสงฆ์พูดแล้วทุกคนเชื่อถือ ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่บ้าน กำนันพูด ดังนั้น อยากให้ไปคิดว่าจะทำอย่างไรในการใช้ศาสนาแก้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันหาวิธีแก้ภาพลักษณ์พระสงฆ์ที่ถูกมองในทางลบให้กลับมาเป็นที่ศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนโดยเร็วที่สุดรองนายกรัฐมนตรี กล่าว
รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?
ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
