เพื่อไทยยื่นป.ป.ช.สอบบุญจงแจกเงินแนบนามบัตร
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ดังนั้นฝ่ายค้านจึงได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ วันนี้เห็นได้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยเอางบประมาณมาแบ่งกัน เป็นการแบ่งกันกิน ซึ่งการยื่นข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และอาจถูกถอดถอนตามมาตรา 266 ด้วย
นายคารม กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านยื่นตรวจสอบเรื่องนี้เพราะไม่ต้องการให้นำเงินงบประมาณมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว กรณีของนายบุญจงก็เหมือนกับนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ ที่หากินกับคนจน ทั้งสองเรื่องเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคที่ใช้นโยบายประชานิยม แต่กลับหากินกับคนจน วันนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เราจะติดตามเรื่องนี้ ส่วนการที่นายบุญจงอ้างว่าการแจกนามบัตรเพราะประชาชนต้องการติดต่อนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะส.ส.บ้านนอก หากประชาชนจะไปหา ก็สามารถไปหาที่สำนักงานได้ นอกจากนี้ตนขอตั้งประเด็นถามว่านอกจากจะมีการร่วมอำนาจกันแล้ว พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยร่วมกันแบ่งงบประมาณเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่
ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่นายบุญจงนำเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมฯไปแจกที่บ้านของตัวเอง โดยธรรมดาการแจกเงินสามารถทำได้ แต่ต้องแจกที่ส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นที่ว่าการอำเภอ หรือ อบต. โดยมีข้าราชการของ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ไปแจก แต่วันนี้นายบุญจงเป็นข้าราชการเมือง และเป็น ส.ส. ซึ่งมีรัฐธรรมนูญมาตรา 266 กำกับไว้อยู่แล้ว จึงถือว่าการกระทำของนายบุญจงในขณะนี้เป็นการเหลิงอำนาจ เพราะนายบุญจงก็รู้กฎหมาย แต่เพราะเหลิงอำนาจ คิดว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้ มีพรรคพวกช่วยเหลือ วันนี้ถ้านายบุญจงล้ม นายเนวิน ชิดชอบ คงไม่ยอม
ฝากถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายบุญจง รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้ต้องดำเนินการให้โปร่งใส เพราะขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายบุญจงต่อไป การที่นายบุญจงนำงบประมาณแผ่นดินมาแจกที่บ้าน ถือเป็นการหาประโยชน์ส่วนตัว หวังผลการเลือกตั้งล่วงหน้า อีกทั้งภรรยาของนายบุญจงที่เป็นอดีต ส.จ. ก็อาจจะลงสมัครเลือกตั้งในอนาคต วันนี้อำนาจหน้าที่ของนายบุญจงเผื่อแผ่ไปถึงภรรยาด้วย ซึ่งไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นเงินของนายบุญจงเองผมไม่เถียง แต่นี่เป็นเงินภาษีของประชาชน ผมต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายวิฑูรย์เอื้อประโยชน์ให้นายบุญจง โดยการผันงบไปหาเสียงในพื้นที่ ซึ่งเป็นกรณีที่ชี้ให้เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีการซูเอี๋ยกัน และตนยังรู้อีกว่านายวิฑูรย์ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียง โดยวิธีเดียวกับที่ให้กับนายบุญจง ซึ่งขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในทุกจังหวัด และตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้รวบรวมหลักฐานได้แล้วส่วนหนึ่ง จากนั้นจะแจ้งความเอาผิดกับนายวิฑูรย์ต่อไป ยืนยันว่าการที่ตนตรวจสอบนายวิฑูรย์ตั้งแต่เรื่องการแจกปลากระป๋องนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว หรือเคยมีปัญหาโกรธเกลียดนายวิฑูรย์มาก่อน
รายการคมชัดลึกตอน-ภาษีที่ดินและมรดกเก็บได้จริงหรือ?
ทันทีที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและมรดก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทนแรงเสียดทานได้หรือไม่ ภาษีที่ดินและมรดกจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่