ศธ.ออก8มาตรการป้องน.ศ.ตีกัน ให้ตร.ตรวจค้นในสถาบันที่เสียง ทำประวัติกลุ่มเกเร 2โจ๋แทงอจ.ศรีปทุมดับ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    ศธ.ออก8มาตรการป้องน.ศ.ตีกัน ให้ตร.ตรวจค้นในสถาบันที่เสียง ทำประวัติกลุ่มเกเร 2โจ๋แทงอจ.ศรีปทุมดับ

    2009-01-28T22:25:48+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    ตร.จัดฉากน.ศ.อุเทน-ปทุมวันจับมือ บรรยากาศมึนตึง ตรวจค้นสถาบันสุ่มเสี่ยง ประสานอาจารย์เข้าตรวจค้น 29 ม.ค. ทำประวัติศิษย์เก่าและปัจจุบันที่เกเรเพื่อติดตามพฤติกรรม ศธ.ถกออก 8 มาตรการป้องน.ศ.ตีกัน เปลี่ยนพฤติกรรมระบบโซตัส หรือการรับน้อง

    ศธ.วาง8มาตรการป้องน.ศ.ตีกัน

    กระทรวงศึกษาธิการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามหามาตรการป้องกันเหตุนักศึกษาตีกันและทำร้ายกันจนเสียชีวิต

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กล่าวหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท อาทิ นายวันชัย มั่นคง รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย นายวิศิษฐ์ ปทุมสุวรรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ที่ประชุมกำหนด 8 มาตรการแก้ปัญหา ซึ่งทุกสถาบันต้องนำไปปฏิบัติ

    1.ต้องรักษากฎระเบียบของสถาบันอย่างเข้มงวด รวมทั้งให้ความสะดวกตำรวจในการดำเนินคดีผู้กระทำผิด

    2.ต้องมีระบบติดตามดูแลความประพฤตินักศึกษาอย่างเข้มงวด

    3.ต้องระดมความร่วมมือกับศิษย์เก่า ผู้ปกครอง และนักศึกษาเพื่อร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระบบโซตัส หรือการรับน้องให้เป็นอย่างสร้างสรรค์

    4.ให้ความร่วมมือตำรวจเข้าไปตรวจพฤติกรรมนักศึกษาภายในสถาบัน

    5.ต้องตรวจสอบรถทุกชนิดที่เข้า-ออกสถาบัน

    6.ปรับปรุงระบบกล้องวงจรปิดภายในสถาบัน

    7.ติดตามบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คอยดูแลพฤติกรรม และ

    8.จัดให้ทุกสถาบันทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างความสามัคคี

    2 สถาบันคู่อริพร้อมร่วมมือ

    นายวันชัยกล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือทุกด้าน ทั้งนี้ วันบลูเดย์วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสถาปนาวิทยาเขตอุเทนถวาย ตนสั่งปิดสถาบัน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 มกราคม เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง และในวันงานได้ขอความร่วมมือจากตำรวจให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 กองร้อย มาช่วยป้องกันเหตุ ตรวจค้นอาวุธผู้เข้า-ออกสถาบันด้วย

    นายวิศิษฐ์กล่าวว่า สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันขอยืนยันว่าจะนำมาตรการดังกล่าวไปปฏิบัติ รวมทั้งจะปรับเปลี่ยนระบบการดูแล ระบบโซตัส และตรวจสอบผู้ที่พ้นสภาพนักศึกษาอย่างเข้มวงด

    นายนักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ลาออกว่า นายสมเกียรติยื่นหนังสือลาออกแล้ว มีผลวันที่ 31 มกราคม โดยนายสมเกียรติให้เหตุผลว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปให้ได้ผลดีเท่าที่ควร จึงขอลาออกเพื่อให้สภาคัดเลือกผู้เหมาะสม ทั้งนี้ ทางสภาพยายามทัดทานแล้ว แต่ไม่เป็นผล

    ตร.จัดฉากน.ศ.อุเทน-ปทุมวันจับมือ

    วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) นัดหมายให้อาจารย์ และตัวแทนนักศึกษาจาก มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มาจับมือเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันที่ยืดเยื้อมานาน

    ทั้งนี้ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย มี นายมนูญ จิตสำเริง รองคณะบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา นายอารมย์ สมัครณรงค์ นายกองค์การนักศึกษา และตัวแทนอีก 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน คนจากสโมสรนักศึกษา และเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นของนายพรพจน์ โสภาเจริญ ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ใกล้สี่แยกเกษตรฯร่วมอยู่ด้วย ส่วนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มี รศ.วิศิษฐ์ ปทุมสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ นายเพลิน คงสุวรรณ นายกองค์การนักศึกษาและตัวแทนอีก 3 คน ชาย 2 หญิง 1 คน เมื่อตัวแทนทั้ง 2 สถาบันนั่งเผชิญหน้ากันก่อนลุกขึ้นจับมือกัน จากนั้น แลกดอกไม้ที่ตำรวจเตรียมไว้ให้ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่สบตากัน และไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด โดยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที หลังจากแลกดอกไม้เสร็จอาจารย์ทั้ง 2 สถาบัน พยายามพานักศึกษาแยกกันเดินทางกลับทันที

    รองผบ.ตร.หวัง2สถาบันเป็นพี่น้องกัน

    พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมาด้วยความสมัครใจ มาจับมือกันเพื่อความปรองดอง ต่อไปมีอะไรก็จะพึ่งพาอาศัยกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันอีก เป็นพี่น้องกัน ให้นึกถึงพ่อแม่ส่งมาเรียนก็ควรตั้งใจเรียนหนังสือ

    ผู้สื่อข่าวถามนักศึกษาถึงการจับมือครั้งนี้ จะยุติปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ โดยนายอารมย์ตอบเพียงว่า คิดว่าเลิกทะเลาะกันได้ ส่วนนายเพลินกล่าวว่า การมาจับมือครั้งนี้ก็นิมิตหมายที่ดี และจะไปทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมสถาบัน เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีการจับมือกันหลายครั้งแต่ก็ยังมีปัญหา นายเพลินกล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น

    ส่วนนายปทีป โพธิ์เกษม นายกสโมสรนักศึกษา อุเทนฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา่ได้ติดใจ ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น ต่อไปอะไรๆ น่าจะดีขึ้น เพื่อนน่าจะฟังในสิ่งที่ตนพูด การออกมาครั้งนี้น่าจะหมายถึงการเป็นตัวแทนเพื่อนนักศึกษาทั้งหมดได้

    เมื่อถามว่า ติดใจกับเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ นักศึกษา 2 สถาบันตอบว่า ไม่ติดใจใดๆ

    รศ.วิศิษฐ์กล่าวว่า นักศึกษามาด้วยความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ เรื่องขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกันมานาน แต่เมื่อจับมือกันแล้วต่อไปก็ไม่น่าจะมีเรื่องกันอีก

    ผบช.น.มอบ7แนวป้องเหตุน.ศ.ตีกัน

    วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมวางมาตรการป้องกันเหตุนักศึกษายกพวกตีกัน โดยมี รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.ตปพ. และ ผบก.จร. ว่า เบื้องต้นมอบนโยบายให้ บก.น.1-9 สำรวจสถาบันหรือจุดล่อแหลมต่อเหตุนักศึกษาตีกัน พร้อมสำรวจและวางมาตรการป้องกัน จากนั้น รายงานแผนต่างๆ ให้ทราบภายในวันที่ 30 มกราคม เพื่อปรับเป็นแผนใหญ่อีกครั้ง

    พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ได้ มอบนโยบายหลักใหญ่ 7 ประการ คือ

    1.ปิดล้อมตรวจค้นสถาบันสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุ ให้แต่ละ บก.เสนอขึ้นมา ทราบว่า ย่านฝั่งธนบุรีส่วนหนึ่งที่มีปัญหา ให้เริ่มประสานอาจารย์เข้าตรวจค้นตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม

    2.ประตูด้านหน้าทางเข้าสถาบันการศึกษา จะมีตำรวจไปยืนอยู่กับอาจารย์เพื่อตรวจค้นอาวุธ

    3.ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามทางเข้าต่างๆ รวมทั้งกล้องซีซีทีวีที่เห็นถึงฝั่งตรงข้ามสถาบันด้วย

    4.จัดทำประวัติศิษย์เก่าหรือศิษย์ปัจจุบันที่เป็นหัวโจกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม หากพบกระทำผิดจะเข้าตรวจค้นบ้านนักศึกษาพวกนั้น ศิษย์เก่าที่ถูกรีไทร์มักจะเข้ามาครอบงำศิษย์ปัจจุบัน จะจัดสายสืบตามประกบ ส่วนนี้ต้องดำเนินการอันดับแรก

    5.ทำประวัติศิษย์ปัจจุบันที่มีพฤติการณ์เกเร รวมทั้งนักศึกษาปี 1 ที่เข้าใหม่ให้ตำรวจเก็บไว้เพื่อติดตามพฤติการณ์

    6.ตั้งจุดตรวจ ณ ที่เสี่ยงต่างๆ ของทุกพื้นที่ และ

    7.จัดตำรวจไปเป็นวิทยากรให้ความรู้กับนักศึกษาสถาบันต่างๆ ถึงโทษของการตีกัน เพื่อละลายพฤติกรรม

    เล็งส่งน.ศ.ทำผิดเข้าร.ร.วิวัฒน์ฯ

    สำหรับนักศึกษาที่มีปัญหา และที่ทำผิดกฎหมาย อาจจะนำไปฝึกวิชาทหาร อาทิ เข้าโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง แต่ต้องดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และระเบียบต่างๆ ก่อน ว่าจะไปริดรอนสิทธิเขาหรือไม่ กรณีที่ไม่สมัครใจ ผบช.น.กล่าว และว่า ส่วนระยะกลางต้องประสานกับสถาบันการศึกษาดำเนินการ อาจจะนิมนต์พระหรือวิทยากร มาละลายพฤติกรรม ส่วนหนึ่งก็จะให้สถาบันที่มีปัญหากันมาทำกิจกรรมร่วมกัน อาจจะออกค่าย หรือทำงานร่วมกัน แข่งกันกีฬากัน ส่วนระยะยาวคงต้องฝากกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ กลั่นกรองนักศึกษา ไม่ใช่รับหมด

    พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าคดีเหตุนักศึกษาอุเทนถวายถูกยิงเสียชีวิต ท้องที่พหลโยธิน ว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับตามภาพสเก๊ตช์ คิดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

    รวบน.ศ.สถาบันสยามฆ่าคู่อริ

    วันเดียวกัน พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 แถลงว่า พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังจับกุมนายจิรพัส หรือ นก รุ่งเนียม อายุ 18 ปี นักเรียน ปวช. ปี 3 สถาบันเทคโนโลยีสยาม ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยจับกุมตัวได้ที่ โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ

    พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 27 มกราคม ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนช่างกลตีกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแยกประชาอุทิศ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ จึงรุดไปที่เกิดเหตุ แต่กลุ่มนักเรียนแยกย้ายกันไปแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ไปตรวจสอบพบว่ามีนักเรียนสถาบันเทคโนโลยีสยาม ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเข้าไปรักษาตัว โดยมีกลุ่มเพื่อนๆ รวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้เพื่อทำประวัติ แต่จากการสืบค้นข้อมูล ทราบว่านายจิรพัส มีหมายจับร่วมกันฆ่าผู้อื่น จึงจับกุมตัวส่งดำเนินคดี

    ร.ต.อ.สมโภชย์ อินทจักร รอง สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า นายจิรพัส เคยร่วมกับพวกใช้ปืน .22 ยิงนายนิพิฐพัฒน์ วรพฤกษ์พิกุล อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 สถาบันเทคโนโลยีกรุงธน จนถึงแก่ความตายเหตุเกิดบริเวณหน้าปากซอยประชาอุทิศ 26/7 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ก่อนหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุม

    2โจ๋แทงอาจารย์ม.ศรีปทุมดับ

    วันเดียวกัน เกิดเหตุร้ายกับอาจารย์มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทั้งนี้ เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 28 มกราคม พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับแจ้งเหตุแทงกันตาย ในซอยพหลโยธิน 59 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ รุดไปที่เกิดเหตุ เป็นร้านกาแฟสดชื่อหญิงจันทร์กาแฟสด พบเก้าอี้ล้มกระจัดกระจาย และพบศพนายวรัญญู สุขสำราญ อายุ 43 ปี อาจารย์พลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถูกแทงด้วยมีดสปาร์ตา เข้าที่ราวนมซ้าย และชายโครงซ้าย นอนหงายในอาคารก่อสร้างห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ส่วนนายชัยรัตน์ หรือเล็ก คล้ายสุบรรณ อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล

    สอบสวนนายสมเกียรติ กรวยสวัสดิ์ อายุ 49 ปี อาจารย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เพื่อนผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตน นายเล็ก และเพื่อนอีกคนนั่งดื่มเบียร์กันอยู่ที่ร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านขายกาแฟของภรรยาตน ต่อมานายวรัญญูขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ตนจึงเรียกมานั่งดื่มด้วยกัน ซึ่งปกติผู้ตายไม่เคยแวะเลยเพียงแค่ทักทายกันเท่านั้น กระทั่งเวลา 00.30 น. มีวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดูที่กลุ่มตน และไปจอดที่หน้าปากซอยซึ่งห่างประมาณ 5 เมตร จากนั้นวัยรุ่นทั้ง 2 ลงมาโดย 1 ในนั้นถือมีดสปาร์ตา ตรงเข้ามาหานายเล็ก แต่นายเล็กเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนี วัยรุ่นทั้ง 2 คนวิ่งตามและใช้เก้าอี้ที่วางอยู่ตีหัวนายเล็ก เป็นจังหวะเดียวกับที่นายวรัญญู วิ่งเข้าจะไปช่วยจึงถูกแทง ก่อนวัยรุ่นทั้ง 2 จะหลบหนีไป ส่วนนายวรัญญู พยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบในอาคารก่อสร้าง แต่เนื่องจากถูกแทงเข้าจุดสำคัญจึงเสียชีวิต

    น้องสาวร่ำไห้ขาดเสาหลัก

    ด้าน พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน กล่าวว่า สอบสวนนายเล็กให้การว่า ไม่รู้จักกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ต้องสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป โดยสอบพยานที่เกิดเหตุไปแล้ว 4 ปาก และให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ เพื่อหาพยานเพิ่มเติม

    ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นางจันทิภา สุขสำราญ น้องสาวนายวทัญญู และญาติมารับศพนายวทัญญู เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลยังวัดหนองหญ้าปล้อง ต.หนองหญ้าปล้อง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

    นางจันทิภากล่าวว่า ทราบข่าวเมื่อคืนรู้สึกตกใจและเสียใจมาก เพราะพี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากพ่อเสียชีวิตไปแล้ว แต่เพิ่งมาบอกให้แม่รู้เมื่อเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าแม่จะช็อคเพราะอายุมากและสุขภาพไม่ดี ปกติพี่ชายจะกลับมากินข้าวกับแม่ทุกวัน ก่อนเสียชีวิตก็โทรศัพท์มาหาแม่ว่าจะกลับ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้

    ด้านนายวุฒิเดช สินปัญจะ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เพื่อนร่วมงานนายวทัญญู กล่าวว่า นายวทัญญู เป็นอาจารย์มากว่า 10 ปี ดูแลด้านกิจกรรมและกีฬา ผู้ตายเป็นคนดีชอบช่วยเหลือคน เมื่อทราบข่าวรู้สึกตกใจมากเนื่องจากผู้ตายเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน แม้กระทั่งแม่บ้านและนักศึกษาที่ทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ ทั้งนี้ ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม สั่งการให้ดูแลช่วยเหลือในทุกเรื่อง

    ยธ.ช่วยจยย.รับจ้างถูกลูกหลงดับ

    ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา มีมติให้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับญาติของนายบรรจง ศรีสวัสดิ์ อาชีพขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ย่านตลาดพลู ซึ่งเสียชีวิตเพราะถูกกระสุนลูกหลงจากเหตุนักศึกษาทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงใส่กัน โดยให้จ่ายเงินทดแทนการเสียชีวิต ค่าจัดการศพ และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวน 125,000 บาท โดยกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเร่งออกคำวินิจฉัยให้เร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยญาติของผู้ตายสามารถติดต่อรับเงินได้ที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ