นอกบ้านผ่านเมือง-ถึงคิวญี่ปุ่นต้องยุติอคติเรื่องชนชั้น (2)
แต่แล้วแผนสกัดกั้นโนนากะไม่ให้ก้าวไกลไปกว่านี้ก็เริ่มขึ้น ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า อาโซะ คู่แข่งคนสำคัญได้บอกกับที่ประชุมลับของบรรดาผู้อาวุโสของพรรคเมื่อปี 2544 ว่า เราจะยอมปล่อยให้พวกบูระกุมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศงั้นหรือ
จะด้วยคำถามนี้หรือด้วยเหตุผลอื่นที่ยังไม่มีใครทราบชัด ทำให้โนนากะยอมถอนตัวจากการแข่งขัน แต่อาโซะก็ไม่ได้โชคดีดังหวัง เพราะตาอยู่ที่คว้าพุงปลามันไปกินก็คือ จุนอิชิโร โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีหัวสิงโตนั่นเอง
หลังจากพลาดหวังในศึกชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว อาโซะเพียรปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้พูดประโยคนั้น แต่ก็ไม่มีคนเชื่อ และสื่อมักจะนำประโยคนี้ไปอ้างอิงกันบ่อยๆ
ขณะที่โนนากะซึ่งไม่ได้เข้าร่วมประชุมลับครั้งนั้นพูดสั้นๆ ว่า จะไม่มีวันยกโทษให้อาโซะ พร้อมกับสำทับว่า คนที่ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเห็นหัวคนจน ไม่เคยมองไปที่ประชาชนเพื่อจะได้แบ่งปันความรู้และมุมมองร่วมกันคนนี้หรือที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนักการเมืองและนักวิชาการหลายคนให้ความเห็นว่าทัศนคติที่รังเกียจเหยียดหยามพวกบูระกุมินนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคม แต่ทุกคนกลับปิดปากเงียบไม่ยอมพูดถึงปัญหานี้ รวมทั้งไม่มีใครหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นโจมตีอาโซะ เนื่องจากยังคงถือเป็นหัวข้อต้องห้ามในประเทศนี้อยู่ แม้ว่าในช่วงไม่ปีมานี้ บรรดาลูกหลานบูระกุจะประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในงานด้านวิชาการ ธุรกิจ และการเมือง หลายคนได้รับเลือกเป็น ส.ส. ขณะที่รัฐบาลได้ทุ่มงบถึง 1.7 แสนล้านดอลลาร์ ในโครงการช่วยเหลือทายาทบูระกุนับตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมา
ดังนั้นจะว่าประตูการเมืองปิดตายสำรับพวกนอกวรรณะก็ไม่ใช่ ทุกวันนี้ความรู้สึกเหยียดหยามต่อต้านเริ่มคลายลงไปมาก โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว และคงสักวันหนึ่งในไม่ช้าไม่นาน ทายาทบูระกูมินก็คงจะได้ร่วมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาในฐานะเป็นผู้นำประเทศ เฉกเดียวกับบารัก โอบามา
บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์
ตะลุยข่าว : ตามรอยจ้างฆ่า...สแตมฟอร์ด
สามวันที่แล้วต่างกับสามเดือนก่อนหน้าลิบลับ นับตั้งแต่ โดนัลด์ ไวท์ติ้ง สัญชาติอเมริกันสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด สาขาหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนร้ายดักยิงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551