แกนนำเพื่อไทยเข้าร้องกกต.สอบบุญจง

แกนนำเพื่อไทยเข้าร้องกกต.สอบบุญจง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(29ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายคารม พลทะกลาง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือร้องต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนาย บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 รวมทั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 22 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ การได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 หรือไม่ พร้อมนำหลักฐานสำเนาภาพถ่ายหนังสือพิมพ์การแจกเงินสงเคราะห์คนยากไร้และนามบัตร รวมทั้งเป็นซีดีการปราศรัยเป็นหลักฐานมอบให้ กกต.

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเดินทางเข้ามายื่นหนังสือกับทาง กกต.เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญจง ว่า ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 หรือไม่ โดยตนและคณะได้ยื่นหลักฐานเป็นภาพถ่ายของนายบุญจงขณะแจกเงินแนบนามบัตรมามอบให้ ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวถือเป็นการแจกเงินตามประชานิยมแบบอภิสิทธิ์ที่เริ่มเป็นครั้งแรก โดยมีการนำงบหลวงแนบนามบัตรไปแจกจ่ายให้กับประชาชนถึงบ้าน อย่างไรก็ตามหากกรณีดังกล่าวไปถือเป็นการกระทำผิด ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองสามารถแจกเงินให้กับประชาชนได้ในภายหลัง

ผมมั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่สามารถเอาผิดนายบุญจงได้ เพราะมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่บันทึกขั้นตอนไว้ทั้งหมด ซึ่งการกระทำดังกล่าวดูที่เจตนาก็พอแล้วว่า นโยบายประชานิยมแบบอภิสิทธิ์เป็นเช่นไร ซึ่งทางนักการกฎหมายต้องพิจารณาตรงไปตรงมา อย่าอ้างว่าเป็นศรีธนญชัย อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ผมจะนำหลักฐานมามอบเพิ่มเติมให้กับ กกต.และป.ป.ช. หลังจากได้ลงพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา โดยหลังจากนี้จะมีการนำพยานบุคคลที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับในสมัครเป็นสมาชิกพรรค การให้ปากคำเพิ่มเติม นายพร้อมพงศ์ กล่าว

ด้าน นายคารม กล่าวว่า การยื่นเรื่องในวันนี้มีประเด็นที่เพิ่มเติมจากที่ยื่นให้กับ ป.ป.ช. เนื่องจากได้ตรวจสอบและทราบเรื่องจากชาวบ้านว่า ขณะที่นายบุญจงแจกเบี้ยยังชีพแนบนามบัตรนั้น ได้มีการแนบใบสมัครพรรคภูมิใจไทยไปด้วย ดังนั้นตนจึงยื่นข้อกฎหมายมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพื่อให้ กกต.ตรวจสอบว่าพฤติกรรมของนายบุญจงเป็นการกระทำเข้าข่ายกฎหมายมาตราดังกล่าวหรือไม่ ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 109 ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายคารม กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยเพิ่งจัดตั้งขึ้นในเดือน พ.ย. และเปิดตัวในเดือน ม.ค. โดยตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 26 ระบุว่า ภายในระยะเวลา 1 ปี พรรคการเมืองนั้นต้องสมัครสมาชิกให้ได้ 5,000 คน สำหรับการกระทำของนายบุญจงที่ให้ทรัพย์สินจูงใจให้สมัครเป็นสมาชิกนั้น ถือว่าอยู่ในลักษณะการระดมสมาชิกพรรค ซึ่งผิดตามกฎหมายมาตรา 22 และ พ.ร.บ. เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. อย่างชัดเจน

รายการคม-ชัด-ลึกตอน-ยุติศึกปทุมวัน-อุเทนถวาย

เหตุยิงนักศึกษา 2 สถาบันชื่อดัง คือ สถาบันเทคโนโลยีช่างกลปทุมวัน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความแค้นระหว่างสถาบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook