กกต.โยนป.ป.ช.-สภาสอบบุญจงชี้ทำไม่ได้ประโยชน์

กกต.โยนป.ป.ช.-สภาสอบบุญจงชี้ทำไม่ได้ประโยชน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวเมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แนบนามบัตร พร้อมแจกงบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)แจกราษฎรอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ว่า เรื่องนี้เมื่อร้องเข้ามาก็ต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะการแจกเงินก็คือมีมูลแล้ว แต่ปัญหาของเรื่องนี้การแจกนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนจะเป็นการหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง เมื่อไม่มี พ.ร.ฎ. กกต.ก็ยังไม่เข้าไปควบคุม แต่หากช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงก็เป็นหน้าที่ของกกต.แน่นอน

ทั้งนี้ นายสมชัย กล่าวว่า ความผิดกฎหมายเรื่องการซื้อเสียงล่วงหน้า มีบัญญัติเฉพาะกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นที่ห้ามกระทำก่อนเลือกตั้ง 60 วัน จึงถือว่า เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าของการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่สำหรับกรณี ส.ส.และ ส.ว.นั้น เท่าที่ตนดงไม่มีกฎหมายเขียนเรื่องนี้ไว้ หากมีการซื้อเสียงล่วงหน้าจริง ก็ต้องพิจารณาวางหลักกันต่อไปว่า จะเป็นเหตุให้เพิกถอนสิทธิหรือไม่ แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีกฎหมายบัญญัติ

เมื่อถามว่า กรณีนายบุญจงเป็นการใช้งบประมาณรัฐเพื่อหาเสียงหรือประโยชน์ส่วนตัว หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า กรณีนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องของกกต. เพราะน่าจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มากกว่า หรือให้สภาที่เขาสังกัดเป็นผู้ตรวจสอบ ส่วนจะเข้าข่ายความปิดตามมาตรา 266 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ตนเห็นแตกต่างกับกกต.ท่านอื่น ซึ่งตนเห็นว่า การตรวจสอบฝ่ายบริหารไม่น่าเป็นหน้าที่ของกกต. เพราะน่าจะเป็นเรื่องของสภาหรือ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะการเป็นส.ส.ถูกต้องไปเรียบร้อยแล้วไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่อาจเป็นการทำผิดขณะเป็นรัฐมนตรี ทั้งนี้หากเป็นกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ยอมส่งเรื่องที่ส.ส.หรือ ส.ว. ที่เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ส่งศาลรัฐธรรนูญตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ จึงค่อยส่งให้ กกต.ตรวจสอบฝ่ายบริหารได้

เมื่อถามว่า การแจกเงินพร้อมนามบัตรเป็นการกระทำท้าทายไม่เกรงกลัวกฎหมาย นายสมชัยกล่าวว่า "เขาไม่เกรงกลัวที่ไหน หลังจากหนังสือพิมพ์ตีข่าว เขาก็ไม่สบายเลย ทำไมเขาจะไม่กลัว สิ่งที่เขาทำไปนั้นแท้ที่จริงแล้วไม่ได้ประโยชน์ เพราะเมื่อถูกสื่อตีข่าวแล้ว เขาติดลบเลย สิ่งที่เขาทำกลับแย่ลง ไม่ดีขึ้นเลยที่คิดว่าทำแล้วได้ประโยชน์ แต่กลับไม่ได้ประโยชน์

เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาโดยเร็วต้องพิจารณากรณีนี้ว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า หากยุบสภาก็ไม่มีใครรู้มาก่อนล่วงหน้า อย่างไรก็ต้องสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook