รายงานแนวโน้มการจ้างงานโลก พ.ศ.2552 ของไอแอลโอ

รายงานแนวโน้มการจ้างงานโลก พ.ศ.2552 ของไอแอลโอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เปิดเผยในรายงานประจำปีแนวโน้มการจ้างงานโลกว่า วิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีผลทำให้คนว่างงาน คนทำงานที่ยากจน และคนทำงานที่ไม่มั่นคงเพิ่มมากขึ้น รายงานนำเสนอผลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต 3 สถานการณ์ ในการว่างงานโลกระหว่างปี พ.ศ.2550-2552 ซึ่งอาจเพิ่มขึ้น 18 ล้านคน 30 ล้านคน หรืออาจสูงสุดถึง 50 ล้านคน หากสถานการณ์เลวร้ายลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของตลาดแรงงาน และการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในเอเชียและแปซิฟิค ทั้ง 3 สถานการณ์ส่อให้เห็นว่าการว่างงานจะเพิ่มขึ้น 8 ล้าน 15 ล้าน และ 27 ล้านคน ในการคาดการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อาจมีแรงงานถึง 200 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา อาจจะตกอยู่ในสภาวะยากจนต่ำสุด (มีรายได้เพียง 1.25 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 44 บาท ต่อวัน) ในจำนวนนี้จะเป็นแรงงานในเอเชียถึง 140 ล้านบาท การคาดการณ์นี้ยังระบุว่าแรงงานที่อยู่ในความยากจน (รายได้ต่ำกว่า 2 เหรียญสหรัฐ หรือ 70 บาท ต่อวัน) อาจเพิ่มขึ้น 176 ล้านคน โดยเป็นแรงงานที่อยู่ในเอเชียแปซิฟิคถึง 119 ล้านคน "สาระสำคัญที่ไอแอลโอต้องการนำเสนอนี้มีความเป็นไปได้สูง ไม่ใช่เพื่อต้องการให้ตื่นตระหนก เรากำลังเผชิญกับสภาวะวิกฤตแรงงานโลก ซึ่งรัฐบาลหลายประเทศทราบดีและกำลังแก้ไข แต่ทว่าความร่วมมือระหว่างประเทศที่เข้มแข็งและประสานงานกันอย่างดีเท่านั้นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความถดถอยทางสังคมทั่วโลก ความคืบหน้าในการลดความยากจนมีน้อยลง และกลุ่มคนชั้นกลางทั่วโลกอ่อนแอลง ทั้งเรื่องการเมืองและความปลอดภัยทำให้เป็นที่น่าวิ่งขึ้น นายฮวน โซมาเวีย ผู้อำนวยการใหญ่ไอแอลโอ กล่าว "วิกฤตการณ์นี้เน้นให้เห็นความสำคัญของวาระการสร้างงานที่มีคุณค่าของไอแอลโอ มาตรการสร้างงาน การขยายและเพิ่มการให้ความคุ้มครองทางสังคม และการใช้การเจรจาต่อรองทางสังคมเพื่อแก้ปัญหา ล้วนเป็นประเด็นของวาระการสร้างงานที่มีคุณค่าทั้งสิ้น นายโซมาเวียกล่าว เขาได้เรียกร้องให้การประชุม G-20 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ณ กรุงลอนดอน ให้หามาตรการเร่งด่วนในการส่งเสริมการลงทุนที่มีประสิทธิผล สร้างงานที่มีคุณค่า การป้องกันทางสังคมและการประสานนโยบายกันอย่างดี ประเด็นที่น่าสนใจ ในปี 2551 แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ยังคงมีอัตราการว่างงานสูงสุดคือร้อยละ 10.3 และ 9.4 ตามลำดับ อัตราการว่างงานต่ำสุดยังอยู่ในเอเชียตะวันออก คือ ร้อยละ 3.8 ตามมาด้วยเอเชียใต้ร้อยละ 5.4 และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิคร้อยละ 5.7 การสร้างงานในภูมิภาคเอเชียทั้งสาม (เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค และเอเชียตะวันออก) คิดเป็นร้อยละ 57 ของการสร้างงานทั้งโลกในปี 2551 ในขณะที่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว และประชาคมยุโรป การสร้างงานในปี 2552 อยู่ในระดับต่ำ ส่วนแอฟริกาใต้ซาฮาร่า และเอเชียใต้เป็นภูมิภาคที่มีตลาดแรงงานที่อยู่ในภาวะยากลำบาก และมีจำนวนคนงานยากจนมากที่สุด แม้ว่าแนวโน้มจะลดน้อยลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ประมาณ 4 ใน 5 ของคนทำงาน ยังจัดอยู่ในกลุ่มคนงานยากจนในภูมิภาคนี้ในปี 2550 มาตรการทางนโยบาย ดังที่ไอแอลโอได้กล่าวไว้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551 ได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมที่มีตโลกาภิวัติ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้มีการเน้นใช้มาตรการสนับสนุนกลุ่มเปราะบางในตลาดแรงงาน อาทิ เยาวชนและผู้หญิง โดยรายงานของไอแอลโอเห็นว่า กลุ่มนี้เป็นพลังแรงงานกลุ่มใหญ่ ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ หากบุคคลเหล่านี้มีโอกาสได้งานที่ดีจากการลงทุนที่มีประสิทธิผล และนโยบายทางตลาดแรงงานที่ดี จะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตและพัฒนาขึ้นได้ รายงานฯ เสนอแนะว่า หากหลายประเทศใช้ทุนสำรองสะสม เงินกู้ฉุกเฉินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือกลไกช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง ร่วมกับการใช้นโยบายประสานงานตามหลักของวาระงานที่มีคุณค่าของไอแอลโอ ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อกิจการ คนงานและครอบครัวเขาจะเบาลง และสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ไอแอลโอ ร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) จะจัดการประชุมภูมิภาคระดับสูง ณ กรุงมนิลาในวันที่ 18 ถึง 20 กุมภาพันธ์ ในหัวข้อ "การตอบสนองวิกฤตเศรษฐกิจ นโยบายที่สอดคล้องกันเพื่อการเติบโต การจ้างงาน และงานที่มีคุณค่าในเอเชียและแปซิฟิค เพื่อส่งเสริมการเจรจาดันนโยบายระหว่างผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ รวมถึงผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ นักธุรกิจ และแรงงาน เพื่อหาแนวทางปฏิบัติในการฟันฝ่าผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook