สั่งรื้อคดี เด็ก 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืน เรื่องเงียบกว่า 2 ปี

สั่งรื้อคดี เด็ก 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืน เรื่องเงียบกว่า 2 ปี

สั่งรื้อคดี เด็ก 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืน เรื่องเงียบกว่า 2 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจสั่งรื้อคดี หลังครอบครัวเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืน ติดป้ายวอนช่วยเรื่องเงียบนาน 2 ปี 

(14 พ.ค.) สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม สั่งรื้อคดี เด็กหญิงอายุ 14 ปี ถูกฆ่าข่มขืน หลังแม่ร้องทุกข์นานเกือบ 2 ปี ไม่คืบหน้า ต้องติดป้ายฝาบ้านขอความเป็นธรรม หวั่นโจรหวนมาชั่วทำร้าย ผกก.ตั้งทีมลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่ม ระบุมีปัญหาเรื่องพยานหลักฐานอ่อนยันคดีไม่ล่ม ขณะอดีตรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ เห็นใจ ประสานผู้มีอำนาจ ให้ความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าล่าสุดหลัง นายธวัชชัย อุทัยคา อายุ 37 ปี พร้อมด้วย นางบำเพ็ญ รัตนะ อายุ 42 ปี พ่อและแม่ของเด็กสาว อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.7 บ้านนาอินทร์ ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

กรณีเกิดคดีสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมปริศนาฆ่าทิ้งศพลูกสาว คือ น้องแวว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากรายงานระบุวว่าเด็กหญิงเป็นนางรำของโรงเรียน ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแสคนร้าย หลังเวลาล่วงเลยมานานเกือบ 2 ปี

โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2556 ขณะผู้ตายได้อาศัยอยู่กับยายเพียงลำพัง เพราะพ่อ แม่ ต้อง ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากฐานะยากจน และช่วงเย็นวันเกิดเหตุน้องแวว ได้หายตัวไปแบบไม่ทราบสาเหตุ หลังไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านพบกลายเป็นศพลอยอืดปริศนา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2556 บริเวณลำห้วยโคน ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 400 เมตร 

มาถึงวันนี้เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี แต่ยังไร้ความคืบหน้าในคดี ทำให้พ่อและแม่ของผู้ตาย ยังคงออกมาเรียกร้องวิงวอนให้ทางตำรวจ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนติดตามเบาะแส จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว แต่กับไม่ได้รับการเหลียวแล จนไร้ที่พึ่งต้องอาศัยขึ้นป้ายติดฝาบ้านเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากผู้ผ่านไปมารวมถึงสังคมออนไลน์ ที่นำเรื่องราวสุดรันทดไปเผยแพร่ และประกาศขายบ้านพักอาศัย เพื่อพาสามีกับลูกอีก 1 คน หนีไปอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความความปลอดภัยเกรงว่าคนร้ายที่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่กับมาทำร้าย

นอกจากนี้ยังได้ไปยื่นเอกสารร้องเรียนขอความช่วยเหลือ จาก นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นคนพื้นที่อำเภอเดียวกัน รวมถึง นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ช่วยประสานงานไปยังตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ

ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้มีการประชุมหารือเร่งรัดคดี และตั้งชุดเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน สอบพยานเพิ่มเติม เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งระบุว่า คดีดังกล่าวตนพึ่งย้ายมารับหน้าที่ไม่กี่เดือน อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานพบว่าทางตำรวจเคยได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เพราะจากหลักฐาน มีแนวโน้มเชื่อว่าคนในพื้นที่ และคนใกล้ชิดเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมเคยรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอหมายจับต่อศาล จ.นครพนม แต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงต้องสอบสวนเก็บหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีปัญหาติดขัดเรื่องพยานหลักฐานอ่อน จึงเป็นปัญหาให้คดีล่าช้า ซึ่งยืนยันว่าตำรวจจะทำงานเต็มที่คดีไม่ล้มแน่นอน

นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยทำงานดูแลชาวบ้านในพื้นที่ และรู้จักกับพ่อแม่เด็กที่ตาย จึงได้มาขอความช่วยเหลือ เพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เนื่องจากคดีไม่คืบหน้า เบื้องต้นได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องรวมถึง ตำรวจและผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมให้ช่วยกำกับดูแล

เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ยอมรับเป็นครับครัวที่น่าสงสารมาก ทั้งยากจนทำงานหาเช้ากินค่ำกับมาเจอเรื่องร้าย แถมจับคนร้ายไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา อีกทั้งคนในหมู่ล้านยังเกิดความวิตกกังวล หวาดกลัว เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เรื่องนี้ตนขอวิงวอนไปยังหน่วยงานรับผิดชอบเข้าไปดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน เพราะมองว่าคดีแบบนี้ยังทำไม่สำเร็จ แล้วชาวบ้านจะไปพึ่งใคร ไม่อยากให้ปล่อยปะละเลย ตอนนี้ครอบครัวผู้เสียหายจะขายบ้านหนีแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook