คลังชี้ศก.ไตรมาส4เสี่ยงติดลบ3.5% ห่วงฉุดไตรมาสแรกดิ่งหนัก-จี้หน่วยงานเร่งเบิกจ่ายงบ

คลังชี้ศก.ไตรมาส4เสี่ยงติดลบ3.5% ห่วงฉุดไตรมาสแรกดิ่งหนัก-จี้หน่วยงานเร่งเบิกจ่ายงบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 ว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณชะลอตัวในทุกภาคส่วน ทำให้คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในช่วงดังกล่าวจะขยายตัวติดลบมากกว่า 3% หรืออยู่ในระดับ 3.5% และน่าจะส่งผลต่อเนื่องไปยังไตรมาสแรกของปี 2552 หากทุกภาคส่วนไม่เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ก็เป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้จะขยายตัวติดลบสูงที่สุด แต่เชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบคงไม่ถึงกับเป็นเลขสองหลัก

ส่วนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับไตรมาสแรก เพราะช่วงนั้น จะมีตัวช่วย คือ เงินงบประมาณกลางปี ที่จะเข้ามาในช่วงนี้ แต่สิ่งที่ต้องระวัง ซึ่งจะเป็นปัญหาตามมาหลังเศรษฐกิจชะลอตัว คือ ปัญหาการว่างงาน สศค. คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จะมีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ถึง 2% ของกำลังแรงงานรวม โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.4% ของกำลังแรงงานรวม

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระวัง คือ ปัญหาการขาดดุลแฝด ซึ่งขณะนี้ ถือว่าประเทศไทยกำลังประสบกับภาวะดังกล่าว คือ ขาดดุลการคลังและขาดดุลบัญชีเดินสะพัด โดยไตรมาส 4 ของปี 2551 ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดแล้ว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวทุกประเทศจะใช้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1.นโยบายการเงินในลักษณะผ่อนคลาย 2.นโยบายการคลัง คือ การขาดดุลงบประมาณ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 3.การใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยเรื่องการส่งออกในแง่ของราคา ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้

เราไม่อยากเห็นการขาดดุลแฝดต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นภาระหนักกับประเทศไทย ถ้าเกิดปัญหาขาดดุลแฝดมากๆ เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแน่ ดร.สมชัยกล่าว

ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ปิดการซื้อขายที่ระดับ 435จุด ลดลง 13.35 จุด คิดเป็น 2.98% มีมูลค่าซื้อขาย 13,749.57 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 345.79 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 183.94 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 529.73 ล้านบาท

นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า สาเหตุที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลงแรงน่าจะมาจากกรณีที่ สศค.ออกมาคาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะขยายตัวติดลบมากกว่า 3% และมีแนวโน้มติดลบถึง 3.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ

โรฮิงญา ถูกทหารพม่าทารุณ! เหรียญอีกด้านที่สื่อนอกละเลย

การเปิดประเด็น ทหารเรือไทย ทารุณกรรมผู้อพยพชาวโรฮิงญา ก่อนจะตามมารุมถล่มอีกชุดใหญ่จากสื่อหัวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล่าสุดก็เป็นซีเอ็นเอ็นที่ย้ำหัวตะปูด้วยภาพที่อ้างว่า ทหารเรือไทยชักลากเรือผู้อพยพออกไปลอยเท้งเต้งกลางทะเล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook