เมื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" เขียนไว้อาลัย "สิงห์ สควีซ แอนิมอล"

เมื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" เขียนไว้อาลัย "สิงห์ สควีซ แอนิมอล"

เมื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" เขียนไว้อาลัย "สิงห์ สควีซ แอนิมอล"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายจักรภพ เพ็ญแข ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยการจากไปของประชาธิป มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ มือกีต้าร์วงสควีซ แอนิมอล ผ่านทางเฟซบุ๊ก จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair มีเนื้อหาดังนี้

ไว้อาลัย "น้องสิงห์" ประชาธิป มุสิกพงศ์ จาก จักรภพ เพ็ญแข 30 กรกฎาคม 2558

ผมรู้ข่าว "สิงห์" หรือ "คุณประชาธิป มุสิกพงศ์" เมื่อตอนหกโมงเช้าของวันนี้ตามเวลาไทย รู้สึกตกใจ และใจหาย จิตใจก็มุ่งตรงไปยังคุณพ่อ คุณแม่ พี่ และน้องของสิงห์ทันที ใจไปจดจ่ออยู่ที่ท่านประธานวีระกานต์ พี่ตา น้องแชมป์ ไปจนถึงน้องเสือ ใจนึกว่าเราคนนอกยังสะเทือนใจขนาดนี้ ครอบครัวของสิงห์เองเล่าจะรู้สึกอย่างไร สิ่งที่ผมกระทำได้มีไม่กี่อย่างและผมตั้งใจจะทำทั้งหมด นั่นคือ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับท่านประธานวีระกานต์และครอบครัว ร่วมเป็นเจ้าภาพในงานปลงศพ ขออนุญาตวางพวงหรีด และขอโอกาสร่วมทำบุญให้กับน้องสิงห์ ผมก็คงทำได้เพียงแค่นั้น

ผมเคยตามท่านประธานวีระกานต์ไปฟังการแสดงดนตรีของสิงห์ในผับแห่งหนึ่งในย่านอาร์ซีเอ ยังจำได้ว่าทั้งท่านประธานวีระกานต์และผมไม่ใช่แฟนเพลงประเภทร็อคหรือเฮฟวี่เมธัลกันเลย เราก็นั่งส่งยิ้มกันไปมา เพราะนึกขำว่ามานั่งอยู่ที่นี่กันได้อย่างไร เวทีของท่านและผม น่าจะเป็นกรมประชาสัมพันธ์หรือเพลงพื้นบ้านแบบที่ท่านประธานวีระกานต์ถนัดเล่นนัก ในคืนนั้นเวลาคุยก็ต้องตะโกนคุยกันจนเสียงแหบไม่สนุกเลย แต่สิ่งที่ช่วยชดเชยความรู้สึกของเรา จนเราต่างก็ชื่นใจในคืนนั้น กลับเป็นความรักและความนิยมที่แฟนเพลงมีต่อตัวสิงห์และวงดนตรีของเขา ซึ่งเราได้เห็นว่ามีมากมายและลึกซึ้ง ท่านประธานวีระกานต์เคยเล่าถึงความรักที่สิงห์มีต่องานเพลงและดนตรี แต่ผมไม่รู้ซึ้งจนได้เห็นภาพในคืนนั้นว่า สิงห์รักดนตรีของเขาขนาดไหน และแฟนเพลงก็ตอบสนองด้วยความรักและความชื่นชมขนาดไหน ผมยังจำภาพได้ดี เพราะเรานั่งกันอยู่บนชั้นลอย และมองภาพเบื้องล่างที่แทบจะหาที่ยืนกันไม่ได้

น้องสิงห์เป็นลูกคนกลาง เงียบ ซ่อนความรู้สึก แต่มีทัศนะทางการเมืองที่แจ่มชัดสมชื่อ ประชาธิป ที่พ่อแม่ตั้งให้ แต่ผู้ที่วิสัยเป็นศิลปินย่อมมีความรู้สึกเร่าร้อนรุนแรง เพราะงานศิลปะที่แท้ล้วนเป็นแรงระเบิดของอารมณ์ทั้งนั้น ชีวิตศิลปินจึงต้องเสี่ยงต่อการรักษาสมดุลของจิตใจ ซึ่งเป็นด้านที่แฟนเพลงน้อยคนนักจะได้รู้เห็น ผมไม่ใช่ศิลปิน แต่สัมผัสความรู้สึกของศิลปินได้มาก ผมเข้าใจจิตใจอันมีฤทธิ์มีพลัง บางครั้งมีพลังถึงขนาดที่กดเอาไว้ไม่อยู่ คนที่ชอบชีวิตแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ จะเอาชีวิตและปรัชญาของตัวเองไปเทียบกับศิลปินไม่ได้ ผมเชื่อว่าน้องสิงห์เขาต้องรับผิดชอบต่ออารมณ์ตัวเองมานานปี เขาอาจจะเหนื่อย เขาอาจจะอยากหยุดพัก แต่อารมณ์ศิลปินมันก็ราวกับลูกข่างที่ไม่มีวันหยุดหมุน สิงห์จึงต้องหาทางที่จะได้พักผ่อนแบบของเขาเอง ผมคิดว่าผมเข้าใจเขา

ชีวิตของสิงห์มีค่า มีรอยจารึก และมีคนหวนหาอาลัยเป็นอันมาก ถ้าสิงห์รู้ได้ก็คงพอใจ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook