เพื่อไทยขีดเส้น2วัน ถอด3รมต. โหวตงบ-ผิดรธน.

เพื่อไทยขีดเส้น2วัน ถอด3รมต. โหวตงบ-ผิดรธน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พีระพันธุ์-โสภณ-เกื้อกูล เทือกรอมาร์คสะสาง ปรับครม.วิฑูรย์-บุญจง

เทือก รอ มาร์ค กลับจากสวิสสะสาง วิฑูรย์ ปลากระป๋องเน่า ยอมรับปล่อยคาใจประชาชนต่อไปไม่ได้ วิฑูรย์ยังเครียดย้ำถ้าผิดเลิกการเมืองตลอดชีวิต โต้ลั่นนายกฯ ไม่ได้เรียกเข้าห้องเย็น อิสสระ สมชัยตัวเก็งรมว.พม.คนใหม่เขินขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาดีกว่า ไกรศักดิ์รู้ตัวไม่มีชื่อในโผรมต.ใหม่ ปลงไม่ได้อยู่ในสายตาพรรคมานานแล้ว ฟันธงไม่กล้าปรับวิฑูรย์พ้นครม.แน่ กลิ่นปรับครม.หึ่งสรอรรถควงบุญลือเข้าพบเทือก ก่อนเรียกถกแกนนำปชป.คนใกล้ชิดในทำเนียบ ชวรัตน์ประชุมแกนนำภูมิใจไทยอุ้มบุญจง อ้างแจกเงินกับนามบัตรไม่ผิด ใครๆ ก็ทำทั้งนั้น เพื่อไทยยื่นหลักฐานกกต.เพิ่ม เป็นวิดีโอตอนบุญจงกับเมียแจกเงิน ฟุ้งชัดยิ่งกว่าใบเสร็จจี้มาร์คจัดการ กดดันกกต.-ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์ความจริงโดยด่วน รุกอีกแฉ 3 รมต.พีระพันธุ์-โสภณ-เกื้อกูล โหวตร่างพ.ร.บ.งบกลางปี เข้าข่ายขัดรธน. ม. 177 ที่ห้ามรมต.ลงมติในเรื่องที่ตนเองมีส่วนได้เสีย เตรียมยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ประธานวิปรัฐบาลย้อนคืนสมัยรัฐบาลหมัก รมต.นำโดยเหลิมก็โหวตร่างพ.ร.บ. เหมือนกัน โวยเป็นแค่เกมสร้างความปั่นป่วน ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อรัฐบาล

เทือกรอมาร์คกลับสะสางวิฑูรย์

เวลา 08.30 น.วันที่ 30 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เตรียมชี้แจงกรณีปลากระป๋องเน่าต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 1 ก.พ.ว่า ตนไม่ทราบข่าว แต่วันนั้นไม่มีการประชุมพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้ เพราะปกติพรรคจะประชุมทุกวันอังคาร เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาตนได้ฟังนายวิฑูรย์ชี้แจงในสภาแต่ไม่เห็นหลักฐานที่นำมาแสดงเพราะอยู่ไกลกัน จึงไม่ได้อ่าน แต่เท่าที่ฟังเห็นว่าชี้แจงได้แข็งแรงดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านมองว่านายวิฑูรย์ชี้แจงไม่เคลียร์ นายสุเทพกล่าวว่า ดูกันต่อไป ตนรอนายกฯเดินทางกลับจากเมืองดาวอส ประเทศสวิส แล้วจะหารือกัน เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 3 ก.พ.นี้ นายสุเทพกล่าวว่า ขอปรึกษากันดูก่อนว่าต้องทำอย่างไร แต่เรื่องอย่างนี้ปล่อยเอาไว้คาใจประชาชนไม่ได้ ต้องสะสางให้ชัดเจน

เรื่องบุญจงรอกกต.-ปปช.ชี้มูล

เมื่อถามว่าถ้าพบว่าเข้าข่ายทำความผิดจะนำมาพิจาร ณาใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ผิดหรือไม่ผิด ยังไม่ทราบ ต้องรอดูพยานหลักฐานก่อน แต่สิ่งที่เสียหายคือประชาชนเสียความรู้สึก โดยเฉพาะคนที่เดือดร้อน เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมองว่ามาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ตื่นตัวกับเรื่องทุจริตน้อยลงกว่าตอนเป็นฝ่ายค้าน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น เราต้องให้โอกาสผู้ที่ถูกกล่าวหาได้หาเอกสารหลักฐานมาชี้แจง เพราะถ้าเราเล่นตามเกมของฝ่ายค้านที่กล่าวหาทุกวัน อีกหน่อยคงต้องปรับครม.กันหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ผิดต้องเป็นผิด อย่ากังวลใจ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ผิด

ต่อข้อถามถึงกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ที่เป็นคนของกลุ่มเพื่อนเนวิน จะนำมาพิจารณาด้วยกันเลยหรือต้องรอการชี้มูลของป.ป.ช.ก่อน นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องของนายบุญจงนั้นสำหรับตนไม่ชัดเจน ทั้งที่สื่อมาถามและที่ฝ่ายค้านพูดนั้นมันห่างจากข้อเท็จจริงที่นายบุญจงออกมายืนยัน ดังนั้นเมื่อยื่น ป.ป.ช.และกกต.ตรวจสอบ คิดว่าทั้งสององค์กรนี้เป็นองค์กรกลางที่เป็นอิสระดีที่สุด เมื่อถามว่าแต่ฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่านอกจากแจกเงินแล้วยังแจกใบสมัครให้เข้าพรรคภูมิใจไทยด้วย นายสุเทพกล่าวว่า นายบุญจงไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ และตนเพิ่งได้ยิน จึงไม่ได้ถามเรื่องนี้กับนายบุญจง

หนุนแจกเงินช่วยแทนสิ่งของ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการมอบเงินดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่านำงบประมาณของรัฐไปสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวเอง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตนคิดว่า กระบวนการซื้อของไปแจกให้ประชาชนนั้นควรจะเลิก ถ้าจะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในกรณีต่างๆ ช่วยเป็นเงินดีกว่า ประชาชนจะได้ใช้เงินไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นจริงๆ แล้วไม่รั่วไหลด้วย ดังนั้นถ้าวันหนึ่งต้องช่วยเหลือเป็นเงิน คนที่นำเงินไปมอบให้หรือโอนเงินไปให้นั้นจะเอามาเป็นข้อกล่าวหาว่าเพื่อสร้างความนิยมให้ตัวเองคงไม่ได้

เมื่อถามว่าจากนี้ไปนโยบายของรัฐบาลจะแจกเงินแทนสิ่งของช่วยเหลือใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความคิดของตนและเพื่อนส.ส.หลายคน แต่ต้องคุยกับรัฐบาลก่อน เมื่อถามว่าการให้เงินแทนสิ่ง ของมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่รั่วไหล นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าผมเป็นคนถือเงินไปให้คุณ 1,000 บาท มันก็ครบ 1,000 บาท แต่ถ้าให้ผมไปซื้อของบางทีผมอาจเอาค่าคอมมิสชั่นบ้าง อาจจะไม่ครบ

วิฑูรย์ย้ำถ้าผิดเลิกเล่นการเมือง

เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สำนักงานการเคหะแห่งชาติ บางกะปิ นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถึงการตอบกระทู้ถามสดกรณีปลากระป๋องเน่าในถุงยังชีพต่อสภาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ว่า การตั้งกระทู้เป็นคำถามเดิมซึ่งชี้แจงมามากพอควร เรื่องนี้ขอแบ่งเป็น 3 ตอนคือ 1.เมื่อแจกถุงยังชีพ พอรู้ว่ามีปัญหาไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร่งด่วน ส่วนที่นำไปแจกแล้วมีปัญหาสั่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.)นำคืนมาจากประชาชน ที่ยังไม่ได้แจกอีก 3,000 ชุดให้ระงับไว้ 2.ผู้ผลิตหรือโรงงานต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ตั้งแต่เกิดเรื่องได้เร่งประสานกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบผู้ผลิตซึ่งไม่เฉพาะปลากระป๋องเท่านั้น อาจมีผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย

นายวิฑูรย์กล่าวว่า 3.การแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ตนตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงยื่นหนังสือให้องค์กรต่างๆตรวจสอบ รวมทั้งหมด 7 ชุด ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องสอบทั้งตน ปลัดกระทรวงและผู้เกี่ยวข้องทุกคนอยู่แล้ว

การตอบกระทู้ที่สภา ผมบอกไปว่าหากป.ป.ช.ชี้มูลว่าผมทุจริตก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกและเลิกเล่นการเมืองไปตลอดชีวิต แต่ขณะนี้ผมไม่รอให้ป.ป.ช.ชี้มูลเพียงหน่วยงานเดียว เพราะไม่ว่าคณะกรรมการชุดใดใน 7 ชุดนี้ ตรวจสอบพบว่าเรื่องนี้มีมูลผมพร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากรมว.การพัฒนาสังคมฯ โดยเฉพาะป.ป.ช.หากชี้มูลว่าผมทุจริต ผมจะลาออกและเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต สิ่งที่ทำก็เพื่อให้ประชาชนมั่นใจถึงความรับผิดชอบ คนเป็นนักการเมืองต้องรับผิดชอบและมีสปิริต นายวิฑูรย์กล่าว

เข้าแต่ห้องแอร์ไม่เคยเข้าห้องเย็น

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯเรียกไปพบเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบหรือไม่ นายวิฑูรย์กล่าวว่า นายกฯ ไม่เคยเรียกเข้าพบเกี่ยวกับเรื่องปลากระป๋อง มีแต่พบและพูดคุยในการประชุมสภาปกติ ซึ่งนายกฯเป็นห่วงและกังวลหลังมีข่าวออกมาและสอบถามว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างด้วยงบประมาณหรือไม่ ตนทำหนังสือชี้แจงแล้วว่าไม่มีการจัดซื้อและไม่มีการทุจริต เมื่อถามว่าข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของแจกประชาชนที่มอบหมายนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดพม.ดำเนินการ ไม่ได้นำมาชี้แจงที่สภา นายวิฑูรย์กล่าวว่า นายวัลลภแจ้งว่าจะรวบรวมข้อมูลเร่งด่วนได้ต้นเดือนก.พ. และข้อมูลทั้งประเทศรวบรวมเสนอได้ภายในก.พ.นี้

ต่อข้อถามว่านายกฯขอร้องให้แสดงสปิริตลาออกเพื่อรักษาภาพรวมของรัฐบาลหรือไม่ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ไม่มีการขอร้องใดๆ เพราะตนยังไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะถูกปรับหลังจากนายกฯกลับจากประชุมที่สวิส นายวิฑูรย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แล้วแต่การพิจารณาของนายกฯ เมื่อถามถึงข่าวถูกนายกฯเรียกเข้าห้องเย็นพร้อมนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย นายวิฑูรย์กล่าวติดตลกว่า ตนไม่เคยเข้า ห้องเย็น มีแต่เข้าห้องแอร์ประจำ

เมื่อถามว่าปลากระป๋องเน่าที่จ.พัทลุงนำส่งกลับคืนมาแล้วเก็บไว้ที่ใด รวมทั้งถุงยังชีพอีก 15,000 ถุงที่โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าเตรียมลำเลียงส่งไปช่วยประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่มี เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอง

เทือกเรียกคุยแกนนำปชป.คนใกล้ชิด

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล แกนนำและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ใกล้ชิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาทิ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายธีระ สลักเพชร รองเลขาธิการพรรค นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. ในฐานะผอ.พรรค เข้าหารือกับนายสุเทพ ที่ห้องทำงานนานกว่า 2 ช.ม. เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนการหารือครั้งนี้นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และนายบุญลือ ประเสริฐโสภา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าพบกับนายสุเทพนานประมาณ 10 นาที

นายนิพนธ์กล่าวภายหลังการหารือว่า ให้ไปถามจากนายสุเทพว่ามาหารือเรื่องอะไร ส่วนที่นายกฯพูดถึงเรื่องปรับครม.นั้น ตนไม่มีหน้าที่ตอบ ขอให้ถามจากนายกฯเอง

ด้านนายธีระกล่าวว่า มาหารือเรื่องของพรรคเพียงอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับข่าวปรับครม. และในที่ประชุมก็ไม่มีเรื่องนี้

เทพไทแย้มอีก 2-3 วันรู้ปรับครม.

ขณะที่นายเทพไทกล่าวว่า การหารือไม่มีเรื่องปรับครม. เพียงแต่นายสุเทพเรียกรองเลขาธิการพรรค ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคมาคุยเรื่องแผนงานของพรรคเท่านั้น เพราะพรรคต้องคืนเงินกกต.ประมาณ 8-9 ล้านบาท ล่าสุดกกต.อนุมัติงบใหม่ให้พรรค 30 กว่าล้านบาท จากเดิมที่เคยได้ 50 กว่าล้านบาท จึงต้องหารือเพื่อปรับแผนดำเนินงานของพรรคกันใหม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในการปรับครม. โดยเฉพาะนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ นายเทพไทกล่าวว่า แล้วแต่นายกฯจะพิจารณา ซึ่งคงทราบในอีก 2-3 วันนี้ หลังจากนายกฯกลับจากต่างประเทศ เมื่อถามว่าหากปรับจริงโควตาจะยังเป็นสัดส่วนของภาคอีสานหรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า ไม่ทราบหลักเกณฑ์ว่านายสุเทพจะกำหนดอย่างไร แต่เดิมตำแหน่งนี้เป็นของภาคอีสาน หากปรับก็น่าจะยังเป็นสัดส่วนเดิม

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน จะได้รับตำแหน่งแทน นายเทพไท กล่าวว่า นายไกรศักดิ์ถือเป็นคนหนึ่ง เพราะเคยเป็นรมต.การพัฒนาสังคมฯเงามาก่อน ต่อข้อถามว่าแต่นายไกรศักดิ์เป็นส.ส.สมัยแรก จะมีปัญหาเรื่องความเหมาะสมและอาวุโสหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า การพิจารณาต้องผสมผสานกันทั้งอาวุโส ความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสม

สรอรรถ-บุญลือได้กลิ่นปรับครม.

นายเทพไทกล่าวว่า นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการรองรับเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ของกกต. ซึ่งเป็นกองทุนส่งเสริมพรรคการเมือง ที่ระบุว่าคนที่เสียภาษีสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ คนละ 100 บาท โดยแต่ละคนจะบริจาคให้ได้คนละไม่เกิน 1 พรรคเท่านั้น ดังนั้นพรรคจึงต้องเตรียมการโฆษณา ประชา สัมพันธ์ให้กับผู้สนับสนุนพรรครับทราบถึงเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ต้องเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาก่อน แต่คาดว่าจะให้มีผลใช้ทันเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากเป็นกำหนดครบรอบการชำระภาษีเงินได้ของประชาชน นอกจากนี้ต้องทำความเข้าใจว่าสมาชิกพรรคต้องเสียค่าบำรุงพรรคปีละ 20 บาทต่อคนต่อปี

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสรอรรถและนายบุญลือมาหารือกับนายสุเทพ เนื่องจากทราบว่านายกฯอาจจะปรับครม.เร็วๆนี้ ซึ่งหากปรับจริงขอให้พิจารณาบุคคลจากกลุ่มภาคกลางด้วย ซึ่งนายสุเทพกล่าวกับทั้งสองว่าหากมีเรื่องอะไรมาคุยกันได้ อย่างไรก็ตามในการหารือไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเรื่องรปรับครม.

ตาลยอมรับคนใต้ไม่สบายใจ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯนำปลากระป๋องเน่าไปแจกผู้ประสบภัยที่จ.พัทลุง จะส่งผลกระทบต่อความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้หรือไม่ว่า ประชาชนภาคใต้แยกแยะออก ยอมรับว่าประชาชนที่รับทราบข่าวนี้รู้สึกไม่สบายใจ รัฐบาลรับทราบตรงนี้ แต่แนวทางจัดการเรื่องนี้มี 2-3 ระดับ ระดับแรกของที่ถูกส่งไปเมื่อเกิดความผิดพลาดต้องเปลี่ยน ซึ่งกระทรวงดำเนินการแล้ว ระดับที่ 2 ต้องสอบถามคนที่ดำเนินการผิดพลาด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ระดับที่ 3 ข้อกล่าวหาถึงตัวนายวิฑูรย์ ซึ่งนายวิฑูรย์ยอมรับการตรวจสอบทุกประการ และชี้แจงต่อสภาแล้วว่าถ้ามีผลสอบชัดเจนและป.ป.ช.ชี้มูลก็พร้อมลาออก ส่วน นายกฯจะปรับครม.หรือไม่ ต้องถามนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับนายวิฑูรย์พ้นครม.เหมือนกับลอยแพหรือตัดตอนให้นายวิฑูรย์รับผิดชอบเพียงผู้เดียว ขณะที่ข้อมูลของฝ่ายค้านระบุทำกันเป็นเครือข่าย นายสาทิตย์กล่าวว่า นักการเมืองทุกคนที่มาเป็นรมต. ได้ปฏิญาณตน ต้องยอมรับกระบวนการตรวจสอบ ผลเป็นอย่างไรต้องยอมรับตามนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยึดบรรทัดฐานนี้ เมื่อถามว่านายสุเทพระบุคณะผู้บริหารของพรรคจะร่วมตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ได้ยินนายสุเทพพูด จึงไม่ทราบ แต่ถือเป็นเรื่องดี

ไกรศักดิ์รู้ตัวไม่มีชื่อในโผรมต.

วันเดียวกัน นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวอาจได้รับแต่งตั้งเป็นรมว.การพัฒนาสังคมฯแทนนายวิฑูรย์หากมีการปรับครม.ในเร็วๆนี้ว่า ยืนยันว่าไม่มีชื่อตนอยู่ในรายชื่อรมต.หากมีการปรับครม.อย่างแน่นอน ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เคยระบุว่าจะประเมินผลงานรมต.ทุก 3 เดือน ตอนนี้คาดว่าได้เตรียมรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเพื่อมาแทนรมต.ที่ถูกปรับออกแล้ว 5-6 คน เชื่อว่ารายชื่อดังกล่าวไม่มีตนอย่างแน่นอน

ถ้ามีชื่อผมก็แปลกแล้ว เพราะชื่อผมไม่เคยอยู่ในสายตาของพรรคเลย ไม่ว่าจะตั้งครม.ในตอนแรก หรือการปรับครม.ที่อาจมีขึ้นเร็วๆนี้ นายไกรศักดิ์กล่าว

เชื่อไม่กล้าปรับวิฑูรย์พ้นครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับครม.ครั้งนี้คิดว่าพรรคยังยึดตามโควตาหรือไม่ นายไกรศักดิ์กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าพรรคจะใช้มาตราฐานอย่างไร แต่มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาจากผลงาน การทำงานให้พรรค หรือหัวหน้ากลุ่มที่คุมเสียงส.ส.ในพรรคเป็นหลัก คงไม่ดูเฉพาะการเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคต่างๆ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ กรณีที่เกิดขึ้นกับนายวิฑูรย์คิดว่าเกิดจากความสะเพร่า ไม่มีเจตนาทำผิด พรรคเชื่อว่านายวิฑูรย์จะชี้แจงข้อกล่าวหาจากสังคมได้ และถ้านายวิฑูรย์ไม่มีความผิด รัฐบาลก็ไม่ควรปรับออก เชื่อว่านายวิฑูรย์จะยังอยู่ในครม. เพราะนายวิฑูรย์บอกเองว่าสู้รบให้พรรคมานาน มีผลงานมาก จึงเชื่อว่ารัฐบาลคงไม่กล้าปรับออกแน่ ทั้งนี้ตนไม่เห็นด้วยกับการปรับออก เพราะทำให้เกิดภาพลบกับพรรค

อิสสระเขินให้ผู้ใหญ่ตัดสินดีกว่า

ขณะที่นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวเป็นหนึ่งในว่าที่รมต.คนใหม่แทนนายวิฑูรย์ว่า อย่าเพิ่งพูดไกลถึงขนาดนั้น ที่ผ่านมานายวิฑูรย์สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านได้ดี เพียงแต่การชี้แจงในสภามีข้อจำกัด แต่ส.ส.ของพรรค โดยเฉพาะส.ส.ภาคอีสานต่างหาทางช่วยเหลือและช่วยชี้แจงชาวบ้านได้เข้าใจข้อเท็จจริง เพื่อให้มองนายวิฑูรย์ในมุมบวกยิ่งขึ้น เชื่อว่านายวิฑูรย์จะยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ส่วนที่มีชื่อตนติดโผเนื่องจากอาวุโสนั้น ความจริงตนทำงานในพื้นที่มานานอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน และนายวิฑูรย์เท่านั้น ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาจะดีที่สุด ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่เรียกร้องหรือเสนอตัวเอง แต่เป็นเพราะสื่อมาถาม หากพูดไปแล้วจะกลายเป็นว่าพูดเพื่อกดดันให้ปรับครม. แต่ที่พูดคือหากพรรคจะปรับจริงๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำแหน่งดังกล่าวยังเป็นของโควตาภาคอีสานหรือไม่ นายอิสสระกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าสัดส่วนโควตาภาคกับตำแหน่งรมต.ยังมีความจำเป็น เพราะพื้นที่อีสานกว้างมาก แม้พรรคประชาธิปัตย์จะมีส.ส.ค่อนข้างน้อย ยิ่งจำเป็นต้องมีรมต.คนอีสาน เพื่อทำงานและเข้าถึงคนอีสาน เพื่อขยายฐานของพรรค และพรรคร่วมรัฐบาลให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

เฉลิมชัยชี้นายกฯไม่ถูกครอบงำ

ส่วนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม.ว่า ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเรื่องปรับครม. ตนไม่เคยต่อรองตำแหน่งใดๆกับผู้ใหญ่ด้วย มีหน้าที่ทำงานในฐานะรองหัวหน้าพรรค และพร้อมช่วยงานรัฐบาลอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ไม่ต้องมาคุยเรื่องตำแหน่งรมต.กับตน ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดถึง

ส่วนกรณีปลากระป๋องเน่าที่อาจทำให้นายวิฑูรย์หลุดจากเก้าอี้รมว.การพัฒนาสังคมฯนั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่าต้องให้โอกาสนายวิฑูรย์พิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่ว่ามีกระแสข่าวก็จะปรับออก ท้ายที่สุดคนที่จะพิจารณาเรื่องนี้คือนายกฯ คงต้องรอนายกฯกลับมาจากสวิสก่อน แล้วค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน

หากนายกฯกลับมา นายวิฑูรย์ต้องนำหลักฐานไปชี้แจง ท้ายที่สุดนายกฯจะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจ นายวิฑูรย์เพิ่งทำงานยังไม่ถึง 1 เดือน ยังไม่ได้ทำอะไรมาก ต้องให้โอกาส ผมเห็นใจนายวิฑูรย์ และส่วนตัวมองว่านายวิฑูรย์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ผมได้พูดคุยและให้กำลังใจนายวิฑูรย์ และยังบอกว่าบังเอิญกระทรวงนั้นเกี่ยวข้องกับทุกส่วนของประชาชน และมีผลกระทบต่อวงกว้าง เป็นธรรมดาที่ต้องเป็นจุดให้ฝ่ายค้านโจมตีได้ นายเฉลิมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายวิฑูรย์จะไม่ถูกปรับออกจากครม. เพราะเป็นเด็กคนสนิทของนายสุเทพใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่าต้องรอดู แต่เชื่อว่านายกฯผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีความเป็นอิสระ และไม่ถูกครอบงำจากใครแน่นอน

ปปช.รอข้อมูลจากพม.ก่อนสอบ

วันเดียวกันนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบกระทรวงการพัฒนาสังคมฯเรื่องปลากระป๋องเน่าว่า ขณะนี้นายวิฑูรย์ รมว.การพัฒนาสังคมฯทำหนังสือถึงเลขาธิการป.ป.ช. ขอให้ช่วยตรวจสอบกรณีปัญหาปลากระป๋องเน่าที่นำไปแจกแก่ประชาชน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสีย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกระทรวง แต่หนังสือดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายคำร้อง จึงทำหนังสือแจ้งกลับไปยังนายวิฑูรย์ให้ทำรายละเอียดกรณีดังกล่าวส่งมาป.ป.ช.อีกครั้ง โดยระบุให้ชัดเจนว่าต้องการกล่าวหาใคร มีลักษณะทำความผิดอย่างไร เพื่อให้ป.ป.ช.นำมาเป็นข้อมูลตรวจสอบ ขณะเดียวกันเรื่องนี้ป.ป.ช.เองก็เก็บข้อมูลเบื้องต้นจากสื่อมวลชนไว้แล้วเช่นกัน แต่เบื้องต้นทราบเพียงว่ามีการแจกปลากระป๋องเน่าแก่ประชาชนเท่านั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างตามที่กล่าวหาหรือไม่ จึงต้องรอข้อมูลประกอบจากนายวิฑูรย์ก่อน เพื่อนำมาพิจารณาตรวจสอบต่อไป

ห้องบุญจงติดท้อได้แต่อย่าถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า วันเดียวกันนี้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบสถานบริการ ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อแถลงข่าวจบผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีป.ป.ช.จะตรวจสอบเรื่องแจกเงินสงเคราะห์ พร้อมแนบนามบัตรให้กับประชาชนที่บ้านพักจ.นคร ราชสีมา ปรากฏว่านายบุญจงรีบลุกจากเก้าอี้และยกมือไหว้ โดยกล่าวเพียงว่าขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการตามกฎหมายแล้ว ตนมีหน้าที่เพียงแค่รอชี้แจงป.ป.ช. เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยระบุวันดังกล่าวได้แจกใบสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแนบไปด้วย นายบุญจงกล่าวว่าไม่จริง เมื่อถามว่าแสดงว่าพรรคเพื่อไทยใช้เอกสารเท็จหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่าไม่ทราบ จากนั้นนายบุญจงเดินเข้าห้องทำงานทันที อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าที่ประตูห้องทำงานของนายบุญจงติดข้อความว่า ท้อได้แต่อย่าถอย

ต่อมาที่ชั้น 14 อาคารสิริภิญโญ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ส.ส.บุรีรัมย์ เป็นต้น ประชุมกัน โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย ว่าที่หัวหน้าพรรค เป็นประธานนานกว่า 2 ช.ม.

จากนั้นนายศุภชัยแถลงว่า ที่ประชุมหารือถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการ และกรรมการบริหารพรรค วันที่ 14 ก.พ.นี้ ประเมินว่าจะมีสมาชิกจากทั่วประเทศมาร่วมประชุม 1 หมื่นคน นายชวรัตน์กำชับสมาชิกพรรคถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายบุญจง ที่ถูกโจมตีว่าให้ส.ส.ระวังในข้อกฎหมาย เพื่อไม่ให้หมิ่นเหม่และเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ได้พูดคุยถึงข่าวปรับครม.แต่อย่างใด

ไม่ต้องชี้แจงปชป.-มั่นใจไม่โดนปรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมกังวลกรณีแจกเงินและนามบัตรของนายบุญจงหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่าเท่าที่ฟังนายบุญจงชี้แจงวันนี้ พรรคไม่รู้สึกกังวล ถึงแม้ฝ่ายค้านและส.ว.จะยื่นป.ป.ช.และกกต.ตรวจสอบก็ตาม เพราะมองว่านายบุญจงมอบเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ ถือเป็นการทำหน้าที่รมต.ที่เป็นตัวแทนรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเงินจากกระทรวงใดก็ไม่น่าจะผิด เพราะทำตามหน้าที่ ส่วนการแจกนามบัตรนั้น คิดว่าไม่ว่านายบุญจงหรือส.ส.คนอื่นก็ทำเป็นปกติ เพื่อให้ประชาชนติดต่อกับส.ส.ได้โดยตรง ที่สำคัญบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่านายบุญจงไม่ได้แนบเงินไปพร้อมนามบัตรอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา จึงถือว่าไม่ได้ทำผิดอะไร

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะส่งตัวแทนไปชี้แจงกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อไม่ให้ถูกปรับออกจากครม.หรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่าพรรคคงไม่ต้องชี้แจง เพราะเชื่อว่าผู้นำรัฐบาลมีเหตุผลเพียงพอ ไม่รู้สึกกลัวการตรวจสอบหรือการชี้แจงใดๆ ส่วนที่มีข่าวว่านายกฯจะปรับครม.หลังกลับจากต่างประเทศนั้น นายกฯมีสิทธิ์คิดปรับครม. แต่ไม่ได้พูดชัดว่าจะปรับ แต่บอกเพียงว่าต้องดูสถานการณ์ก่อน คิดว่าคงไม่มีปรับแบบสายฟ้าแลบ เพราะข้อกล่าวหาก็เป็นเพียงข้อกล่าวหา เมื่อผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงได้ เชื่อว่าไม่น่าจะปรับครม.เพราะรัฐบาลเพิ่งตั้ง รมต.ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว ตนมั่นใจว่านายบุญจงจะไม่ถูกปรับออกด้วยข้อกล่าวหานี้แน่นอน

ต่อข้อถามว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่าไม่ห่วง ที่ผ่านมานายเนวินไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับการทำงานในพรรค โดยให้เพียงคำปรึกษา ส่วนการบริหารงานเป็นเรื่องภายในของสมาชิก เมื่อถามว่ากกต.ระบุกรณีของนายบุญจงหากกระทำผิดอาจส่งผลถึงยุบพรรคได้ นายศุภชัยกล่าวว่า มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายบุญจงชี้แจงต่อสังคมได้ และไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายแน่นอน

เมื่อถามว่ามีข่าวว่านอกจากแจกนามบัตรแล้วยังแจกใบสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยด้วย นายศุภชัยกล่าวว่าเรื่องนี้นายบุญจงยืนยันในที่ประชุมว่าไม่ได้แจกใบสมัครของพรรคภูมิใจไทย จึงไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้อย่างไร

พท.ยื่นเพิ่มปปช.วิดีโอมัดบุญจง-เมีย

เมื่อเวลา 13.45 น.ที่สำนักงานป.ป.ช. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายคารม พลทะกลาง ฝ่ายกฎหมายของพรรค ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมกับคณะกรรมการป.ป.ช. กรณีกล่าวหานายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินพร้อมแนบนามบัตร โดยเป็นภาพวิดีโอบันทึกการแจกเงินของนายบุญจงและภรรยา

นายคารมกล่าวว่า หลักฐานที่ยื่นเพิ่มวันนี้ชัดเจน มากว่าภรรยานายบุญจงยืนแจกเงินสดๆ จึงไม่ทราบว่านายบุญจงจะแก้ตัวโดยอ้างกรณีใด พยานหลักฐานและพยานบุคคลปรากฏชัดเจน ไม่ได้กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน ถือว่าภาพวิดีโอชัดเจนกว่าใบเสร็จเสียอีก นายกฯต้องพิสูจน์ตัวเองว่ายังจะรอให้มีใบเสร็จอีกหรือไม่ถึงจะปรับครม. ส่วนที่กกต.พยายามเบี่ยงเบนว่าเรื่องนี้ไม่อยู่ในอำนาจของกกต.ตามที่ส.ว.ยื่นเอาผิดตามมาตรา 266 (1) ของรัฐธรรมนูญนั้น เมื่อเรายื่นเอาผิดตามมาตรา 22 พ.ร.บ.ประกอบพรรคการเมืองแล้วจะชัดขึ้น กกต.ต้องรับพิจารณา หากไม่รับถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นจะไม่ละเว้นกกต.เช่นกัน

นายคารมกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีหลักฐานเรื่องของคนใกล้ตัวนายบุญจง ซึ่งได้หลักฐานจากส.จ.ในพื้นที่ จึงขอตรวจสอบอีก 2-3 วัน สัปดาห์หน้าเมื่อนายกฯกลับจากต่างประเทศจะนำมาเปิดเผย เพราะเรื่องนี้เอาผิดตามกฎหมายอาญาได้ชัดเจน จะเปิดเรื่องนี้สัปดาห์หน้า เป็นเรื่องคนใกล้ตัวนายบุญจง เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของนักการเมืองที่มิชอบ

บี้กกต.-ปปช.พิสูจน์ความถูกต้อง

นายคารมกล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการโน้มน้าวให้ผู้ที่รับแจกเงินสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยนั้น ตามมาตรา 22 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุว่าพรรคหรือบุคคลใด ให้ สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ ในการชักจูงเป็นสมาชิก มีความผิดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีใบสมัคร แต่ถ้ามีก็แสดงว่าชัดเจน ซึ่งส.จ.ในพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าโน้มน้าวให้เข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กกต.ต้องตรวจสอบเพราะตามกฎหมายพรรคการเมือง กกต.คือผู้เสียหาย เพียงแค่โน้มน้าว ไม่ว่าโดยตรงโดยอ้อมถือว่าผิดแล้ว และถ้ามีใบสมัครด้วยยิ่งยืนยันได้ชัดเจน

ด้านนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ในภาพเห็นชัดว่าแจกเงินลักษณะใด นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลมาให้ปากคำกับป.ป.ช.ได้ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใครเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย แต่เอาผิดนายบุญจงได้ตามมาตรา 157 ใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งเรียกว่าประชานิยมแบบอภิสิทธิ์ ที่เอาเงินแจกกันถึงบ้าน หากกรณีเช่นนี้ไม่ผิด ต่อไปคงแจกเงินกันถึงห้องนอน ในอนาคตจะเป็นวงจรอุบาทว์ทางการเมือง ดังนั้นป.ป.ช.และกกต.พิสูจน์ตัวเอง

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า พรรคทำหนังสือขอรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ไปที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพราะทราบจากประชาชนในพื้นที่ว่าผู้ที่ได้รับแจกในวันนั้น ส่วนใหญ่หัวคะแนนนำมา และ 200 คนที่ได้รับแจกวันนั้นเป็นหัวคะแนนของนายบุญจง อีกทั้งยังโยงถึงการหาสมาชิกเข้าพรรคภูมิใจไทย จึงเกิดการวิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับหัวคะแนนมากกว่าให้ผู้ยากไร้จ ริงๆ

แฉชื่อย่ออีกบส.ส.ปชป.เจ้าแม่พม.

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีนายวิฑูรย์ รมว.การพัฒนาสังคมฯว่า อีก 2 สัปดาห์จะเปิดเผยข้อมูลชัดเจนที่เอาผิดนายวิฑูรย์ กรณีใช้หน้าที่โดยมิชอบและคนใกล้ชิดนายวิฑูรย์ ซึ่งเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นเจ้าแม่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีอักษรย่อชื่อเล่น บ ส่วน ร คือชื่อที่เขาเรียกกัน แต่ชื่อที่คุ้นเคยและคนในพรรครู้ดีคือ บ ซึ่งควรถูกตรวจสอบโดยมาตรา 266 เพราะถือว่าใช้อำนาจ ส.ส.ก้าวก่ายข้าราชการประจำและหาผลประโยชน์ ขอเรียกร้องนายกฯว่าหากไม่รีบตัดตอนนายวิฑูรย์จะลามไปถึงคนใกล้ตัวนายกฯ เพราะเจ้าแม่ บ คนนี้ ใกล้ชิดสนิทสนมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และจะโยงถึงนาย จ เจ้าของโรงงานปลากระป๋องตัวจริง โดยนาย จ คนนี้ เป็นส.ส.เหมือนกันมีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาล

ยื่นกกต.เพิ่มเอาผิดเนวินตั้งรัฐบาล

ที่สำนักงานกกต. นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่ออนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยนายสุรพงษ์กล่าวว่า วันนี้นำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไปเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ที่ระบุให้รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายเดิม 4 ประการของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นไปตามที่นายเนวินเสนอให้นายอภิสิทธิ์ทำ เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันว่านายเนวินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล

นายสุรพงษ์กล่าวถึงกรณีกกต.สั่งตั้งอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ขอให้ตรวจสอบกรณีพรรคการเมืองฮั้วสมัครเลือกตั้งว่า กรณีนี้ตนเคยยื่นกกต.ตั้งอนุกรรมการสอบเช่นกัน เชื่อว่ากกต.จะสั่งรวมเป็นสำนวนเดียวกัน

จี้ 3 รมต.ออก-ทำผิดรธน.

ต่อมาที่รัฐสภา นายสุรพงษ์แถลงกรณีรมต. 3 คนคือ นายพีระพันธุ์ สาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook