อธิการ มศว วิพากษ์รัฐฯขยายวงเงินกยศ.หนุนเยาวชนใช้เงินอนาคตมากเกินไป

อธิการ มศว วิพากษ์รัฐฯขยายวงเงินกยศ.หนุนเยาวชนใช้เงินอนาคตมากเกินไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วิพากษ์รัฐฯขยายวงเงินกยศ.หนุนเยาวชนใช้เงินอนาคตมากเกินไป หวั่นกระตุ้นคนไทยเข้าสู่กระแสทุนนิยมมาก สร้างปัญหาให้เด็กไทยอ่อนแอ ไม่ช่วยเหลือตัวเอง ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติอนุมัติให้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)ขยายวงเงินให้กู้ยืมสำหรับผู้กู้รายใหม่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีก 10,000ล้านบาท จากเดิม 26,000 ล้านบาท รวมวงเงินที่จะปล่อยกู้ทั้งสิ้น 36,000 ล้านบาทว่า แม้การขยายวงเงินให้กู้เพื่อการศึกษาจะเป็นการขยายโอกาสให้คนที่อยากเรียนได้เรียน ซึ่งดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ดี หากแต่ขอตั้งขอสังเกตว่ารัฐบาลกำลังสนับสนุนให้คนไทยทั้งชาตินำเงินอนาคตมาใช้มากเกินไปก่อนที่จะถึงเวลาที่จเป็นต้องใช้จริงหรือไม่ เราเข้าสู่ยุคสังคมยุคทุนนิยมแบบเต็มรูปแบบอีกทั้งรัฐบาลเองยังกระตุ้นผู้คนเข้าสู่กระแสทุนนิยมแบบเต็มรูปแบบเช่นกัน "ผมไม่อยากเห็นการปล่อยให้ทุกคนกู้ยืมโดยที่เปิดให้คนที่ไม่จนจรงมากู้ แต่ควรจะได้ตรองหรือพิจารณาให้ละเอียดว่าเด็กคนนั้นลำบากจริงหรือไม่ หากบางคนยังลำบากเพียงเล็กน้อยและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็ควรให้เขาได้ฝึกที่จะช่วยเหลือตัวเองบ้าง ทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยอดทน ไม่รู้จักการต่อสู้กับอุปสรรค รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดี หากแต่การช่วยเหลือที่แจกเงินหรือให้กู้มากเกินความจำเป็นนั้นจะเป็นการบ่มเพาะลักษณะนิสัยการรอคอยเงินที่มองไม่เห็น เฝ้ารอคอยการช่วยเหลือ อีกทั้งจะส่งผลต่อพฤติกรรมของเยาวชนและคนไทย ทั้งนี้จะยิ่งทำให้เยาวชนคนไทยอ่อนแอลงเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษามุสลิมได้กู้เงินผ่านทางธนาคารอิสลามนั้น แม้จะมองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสกู้เงินเรียน หากแต่คำสอนของศาสนาอิสลามนั้นได้บัญญัติเรื่องการกู้ยืมเงิน บทบัญญัติได้สอนให้คนอิสลามใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่เข้าสู่โลกแห่งทุนนิยม หากแต่ต้องการสร้างคนให้มีความพอเพียงช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย น่าห่วงอย่างยิ่งหากนโยบายของภาครัฐจะมีผลต่อความคิดความเชื่อบทบัญญัติทางศาสนา ศ.ดร.วิรุณ กล่าวอีกว่า เท่าที่เฝ้าดูการประกาศนโยบายและผลักดันนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้เห็นว่ารัฐบาลมุ่งแต่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว มีนโยบายลดแลกแจกแถมมากมายหวังเพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจและหวังแต่การหาคะแนนเสียงเพื่อรอการเลือกตั้ง นโยบายที่แก้ปัญหาในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การศึกษายังมองไม่เห็นวี่แวว ทั้งนี้ยังสงสัยอยู่ว่าการที่เราประกาศนโยบายต่างๆ ที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากนั้น เราจะมีเงินนำมาใช้ได้จริงกับทุกนโยบายหรือไม่ เพราะทุกวันนี้จะประกาศนโยบายใดๆ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินเป็นตัวตั้งแทบทั้งสิ้น เมื่อทุกนโยบายรอใช้เงินขณะที่เศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลกเป็นอยู่อย่างนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook