ที่ประชุมวุฒิตีกลับผลสอบสินบนเก้าอี้ปธ.วุฒิรอบสอง

ที่ประชุมวุฒิตีกลับผลสอบสินบนเก้าอี้ปธ.วุฒิรอบสอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนางสาวทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาสอบสวนเรื่องข่าวการให้ค่าตอบแทนในการเลือกประธานวุฒิสภา โดยพ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการฯได้นำเสนอรายงานพร้อมขอให้เป็นการประชุมลับ เพราะมีการพาดพิงบุคคลหลายคน แต่นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้คัดค้านขอให้เป็นการประชุมเปิดเผย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายต่อภาพพจน์ของวุฒิสภาในวงกว้าง ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสจึงควรทำแบบเปิดเผย ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วย โดยนายกฤช ตั้งข้อสังเกตว่ารายงานฉบับนี้ได้ถูกดึงเนื้อหาบางส่วนออกไปจากรายงานฉบับแรกที่ถูกที่ประชุมตีกลับ ซึ่งอ่านดูแล้วผลสรุปของรายงานยังไม่เป็นที่ประจักษ์ถึงบุคคลที่เสนอผลตอบแทนทั้งเรื่องรถเบนซ์ และเงิน 1 ล้าน รวมถึงค่าดูแลกัน มีแค่บทสรุปเพียงว่ามีนักการเมืองเข้ามาก้าวก่าย ซึ่งน่าสงสารวุฒิสภาถ้าจบลงแบบนี้ เราต้องค้นหาความจริงว่าใครเป็นคนกุข่าวและฟ้องร้องไม่ได้ เพราะทำให้วุฒิสภาเสียหายแล้ว เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นมาส.ว. 2 - 3 คนกลายเป็นแพะถูกกล่าวหา ดังนั้นตนไม่เห็นด้วยที่จะให้จบแบบง่ายๆอย่างนี้

ด้านนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้เคยเสนอตัวชิงตำแน่งประธานวุฒิสภา กล่าวว่า จากผลสรุปที่ออกมาว่าไม่พบพยานหลักฐานว่ามีการให้เงิน 1 ล้านบาท และรถเบนซ์ 1 คัน และไม่มีพยานหลักฐานอื่นยืนยันชัดเจนได้ว่านายประสม ประคุณสุขใจ อดีต ส.ส.ขอนแก่น 3 สมัย เสนอให้ค่าตอบแทนกับ ส.ว. แต่กลับระบุว่ามีอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาก้าวก่ายถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯระบุว่าจากการสอบถามไปยังสำนักข่าวกรองแห่งชาติบชน. สน.ดุสิต ทั้ง 3 หน่วยงานได้ตอบปฏิเสธว่าไม่พบหลักฐานในเรื่องดังกล่าว รวมถึงการสอบถามจาก สื่อมวลชนและ ส.ว.ทั้ง 150 คนก็ไม่มีใครยืนยันเรื่องการจ่ายเงินตนจึงไม่สามารถรับผลสอบของคณะกรรมาธิการได้

จากนั้นส.ว.หลายคนได้ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่เห็นว่าผลสอบของคณะกรรมาธิการยังไม่สมบรูณ์อยากให้นำกลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ โดยเชิญนักการเมืองที่ถูกระบุชื่อให้มาชี้แจง นอกจากนี้คณะกรรมาธิการสอบถามส.ว.เพียงบางคน แต่กลับสรุปว่าเป็น ส.ว.ของคนส่วนใหญ่ ขณะที่ ส.ว.บางส่วนซึ่งอยู่ในกลุ่ม 40 ส.ว. อาทินายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง นายวรินทร์ เทียมจรัส นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ฯลฯ ได้โต้แย้งว่าคณะกรรมาธิการฯได้พยายามค้นหาข้อมูลอย่างเต็มที่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าวุฒิสภาไม่มีอำนาจเรียกใครมาชี้แจงได้ ผลสอบก็เป็นการตั้งข้อสังเกตเพื่อป้องปรามไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น โดยนายสาย กล่าวว่า ตนอยากให้เรื่องนี้ยุติเพราะบรรยากาศในวุฒิสภากำลังกลมเกลียวกันดีอย่าให้เสียไป เราควรจะหยุดกันได้แล้ว ขณะที่นายสมชาย กล่าวว่า ผลสอบคงหาตัวผู้กระทำผิดยากเพราะคนที่กินกับปากอยากอยู่กับท้องไม่มีใครออกมาพูดอีก ถ้าจะมองแง่ลบก็อาจทำให้วุฒิสภาเสียหาย แต่ถ้ามองว่าเป็นคุณูปการก็เพื่อป้องปรามไม่ให้สมาชิกหลงผิดหลงชั่ว แต่ตนคงไม่สามารถไปดำเนินคดีกับคนที่โทรมาหาตนได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ ส.ว.ส่วนใหญ่เห็นแย้งกับผลสอบของคณะกรรมาธิการฯทำให้พ.ต.ท.จิตต์ เลขานุการฯขอนำรายงานกลับไปปรับปรุงก่อนที่จะนำกลับเข้าที่ประชุมต่อไป

รายการคมชัดลึกตอน-แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติวิบัติ

หลัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า แกนโลกหมุนเอียงผิดปกติ ทำให้เกิดความวิตกกังวลกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยอาจประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น รายการคม ชัด ลึก ประจำวันศุกร์ที่ 30 มกราคม ตอน แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติ ได้หยิบยกประเด็นร้อนดังกล่าวมาสนทนาในรายการเพื่อหาข้อเท็จจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook