กกต.ฟันอาญา เทือกช่วยน้อง

กกต.ฟันอาญา เทือกช่วยน้อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ปชป.ย้ำปรับครม. ถ้าปปช.ชี้มูล2รมต.

เผยมติกกต.เสนอฟันอาญาเทพเทือก แจกทุนการศึกษา หาเสียงช่วยน้องชายลงเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ฯ ยื่นศาลอุทธรณ์ ก่อนเดินหน้าฟ้องอาญา เลขาฯ ปชป.แจงไปร่วมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ คดีอาญาอีกยาวขอสู้ชั้นศาล ย้ำปรับ ครม.ถ้าป.ป.ช.ชี้มูลวิฑูรย์-บุญจง ไม่หวั่นเกิดรอยร้าวในพรรคร่วม รมว.พม.ย้ำหากกรรมการชุดหนึ่งชุดใดชี้ผิดลาออกแน่ แต่ไม่ยอมไขก๊อกก่อน บุญจงไม่ตอบข่าวซื้อใบแดง กกต.โคราชบอกยังไม่เห็นมติกกต.กลาง ให้ดำเนินคดีอาญารมช.มหาด ไทย เพื่อไทยประกาศตามบี้กกต. ดองใบแดง จี้ 3 รัฐมนตรีลงมติผ่านพ.ร.บ.งบประมาณ ลาออก ชี้เสนอศาลรัฐธรรมนูญเป็นทางออก กมธ.ฝ่ายค้านขวางแจก 2 พันผู้ประกันตน-งบโรดโชว์บัวแก้ว

ปรับครม.เทือกรอปปช.ชี้มูล3รมต.

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 31 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานด้านความมั่นคง เดินทางมาเป็นประธานงานพุทธา ภิเษกหลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าฯ ลพบุรี พล.ต.ต.สถิตย์ ต้นสงวน ผบก.ลพบุรี พร้อมข้าราชการฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร นายอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. สมาชิกอบต. กลุ่มแม่บ้าน อสม. และประชาชนเกือบ 1,000 คน ร่วมต้อนรับ

จากนั้นเดินทางไปเป็นประธานเปิดโรงงานผลิตปุ๋ยชีวภาพที่ตำบลโคกกระเทียม อ.เมือง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ (พลร่มป่าหวาย) ค่ายวชิราลงกรณ์ ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี เวลา 15.00 น. เดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมทางภาคพื้นดิน ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล ก่อนเดินทางกลับ

นายสุเทพ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า ประเทศกำลังประสบกับปัญหาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและเรื่องความแตกแยก รัฐบาลจากการนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาทั้ง 2 เรื่องให้จบลงอย่างโดยดีในเร็ววันนี้ และการเดินทางมาลพบุรีในวันนี้ก็เพื่อมาแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ นายกอบต. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในการสร้างความสามัคคี ไม่แตกแยกเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพื่อนำพาชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไป รัฐบาลมีความจริงใจจะแก้ปัญหาของชาติและช่วยเหลือประชาชนในทุกระดับ โดยการจัดสรรงบประ มาณมาช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ โดยเพิ่มเงินเดือนให้กับอสม. คนละ 600 บาท ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 500 บาท เพิ่มเงินเดือนให้กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นอกจากนี้ก็จะเพิ่มเงินเอสเอ็มแอลที่จะลงสู่รากหญ้าเป็น 2 เท่า คาดว่าจะเริ่มได้เดือนเม.ย.นี้ รวมถึงนโยบายเรียนฟรี

นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับครม. ว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หากทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ถึงเวลานั้นจะต้องมีการปรับครม.อย่างแน่นอน อีก ทั้งไม่หวั่นด้วยว่าการปรับครม.จะทำให้พรรคภูมิใจไทย เกิดรอยร้าวกับรัฐบาล เพราะตนได้คุยกับแกนนำไว้เรียบร้อยแล้ว

วิฑูรย์ย้ำรอผลสอบ-ไม่ออกก่อน

นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปฏิเสธกระแสข่าวถูกข้าราชการในกระทรวงซึ่งเป็นคนของขั้วอำนาจเก่าวางยากรณีปลากระป๋องเน่า ว่า คงไม่มี ทุกอย่างจะชัดเจนเร็วๆ นี้ ส่วนข่าวที่ระบุตนจะเขียนใบลาออกจากตำแหน่งภายในสัปดาห์หน้านั้น อยากให้รอความชัดเจนจากการตรวจสอบของคณะกรรมการทั้ง 7 ชุดก่อน หากคณะกรรมการชุดใดมีผลสรุปออกมาว่าตนมีความผิด ก็พร้อมจะลาออกตำแหน่งทันที

ส่วนที่มีการเสนอให้แสดงสปิริต โดยการลาออกหรือพักงานชั่วคราวเช่นเดียวกับกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง นายวิฑูรย์กล่าวว่า กรณีนายอภิรักษ์ต่างกับตน เพราะถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว แต่ตนกำลังรอผลการตรวจสอบของกระบวนการยุติธรรมอยู่ ซึ่งได้ยืนยันไปหลายครั้งแล้วว่าอยากให้รอผลการตรวจสอบจากกระบวนการยุติธรรม หากตนผิดจริงก็พร้อมจะลาออก ไม่ต้องกลัว ลาออกแน่นอน

ต่อข้อถามว่าหากแสดงสปิริตด้วยการลาออกก่อนจะตัดสินว่าผิด อาจทำให้ภาพรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น นายวิฑูรย์กล่าวว่า คงไม่มีการลาออกหรือพักงานก่อนทราบผลการตัดสิน เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ถูกกดดันให้ลาออกจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ไม่มีอย่างแน่นอน อยากชี้แจงอีกครั้งว่า กรณีนี้ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอนเพราะขนาดงบกระทรวงก็ยังไม่ได้เสียสักบาท แล้วทำไมถึงยังมองว่าจะเป็นปัญหา

ส.ส.ปชป.ยังคาใจปลากระป๋องเน่า

นายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประ ชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาปลากระป๋องเน่า ว่า การประชุมส.ส.พรรควันที่ 3 ม.ค. คงไม่หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาหารือ เพราะนายวิฑูรย์ ได้ชี้แจงไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยอมรับมีส.ส.บางคนยังกัง ขาอยู่ โดยกรรมการบริหารพรรคและผู้ใหญ่ในพรรคขอให้รอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่นายวิฑูรย์ ตั้งขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง แสดงให้เห็นว่านายวิฑูรย์ต้องการให้เรื่องที่เกิดขึ้นปรากฏอย่างชัดเจน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเตรียมบุคคลให้มาแทนในตำแหน่งรมว.การพัฒนาสังคมฯ แทนนายวิฑูรย์นั้น นายชุมพลกล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าทางพรรคจะให้บุคคลใดมาเป็นรัฐมนตรีแทนนายวิฑูรย์ เพราะอย่างน้อยต้องให้โอกาสนายวิฑูรย์ ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน นายวิฑูรย์ก็พยายามทำอยู่ ดังนั้น จึงคิดว่าน่าจะรอความชัดเจนเรื่องนี้ก่อน

บุญจงไม่ตอบข่าวซื้อใบแดง

ที่จ.นครราชสีมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงานรวมใจอาสาพัฒนาชุมชน เนื่องในวาระครบรอบ 40 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ภายในศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชน เขต 11 ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา มีประชาชนมาร่วมงานกว่า 1 พันคน นายบุญจง ได้มอบประกาศเกียรติคุณให้อาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น โดยไม่มีการแจกนามบัตรให้ผู้มาร่วมงาน

นายบุญจง ให้สัมภาษณ์กรณีป.ป.ช.จะสอบ สวนเรื่องการแจกสิ่งของและเงินพร้อมนามบัตรให้ชาวบ้าน ว่า ตนพร้อมชี้แจงแน่นอน ซึ่งได้เข้าสู่กระบวนการแล้ว ไม่เป็นไร เรื่องนี้คงต้องขออนุญาตไว้แค่นี้ก่อน ตนไม่เคยท้อใจในการทำงานและไม่ไปหวั่นไหวอะไรกับการตรวจสอบ ยืนยันแน่นอนว่าจะเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป อะไรที่เป็นประโยชน์ เป็นความสุขของชาวบ้าน เป็นหน้าที่ของตนที่จะทำให้กับชาวบ้าน ขณะนี้ป.ป.ช.และกกต.ยังไม่ได้เรียก หรือเชิญตนไปสอบเรื่องนี้แต่อย่างใด

เมื่อถามถึงข่าวกกต.กลาง มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง กรณีใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่งช่วงการหาเลือกตั้งใหม่รอบ 2 เขต 6 นครราชสีมา ในวันที่ 20 ม.ค. 2551 ที่ผ่านมา นายบุญจง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบและไม่ขอตอบ ขอให้เป็นเรื่องของเขาไป เมื่อถามถึงกระแสข่าวการล็อบบี้กกต.กลาง จนมีการดองเรื่องการพิจารณาใบแดงทำให้เรื่องนี้เงียบหายไป โดยเฉพาะมีการกล่าวหาว่าซื้อใบแดง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายบุญจง กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่ตอบแค่นี้พอ

กกต.โคราชปัดไม่เห็นมติกกต.กลาง

พล.อ.วีรวุธ ส่งสาย ประธานกกต.นครราช สีมา กล่าวถึงมติกกต.กลางให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง ข้อหาใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครคู่แข่ง มีการส่งเรื่องกลับมายังกกต.นครราชสีมาให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ว่า ตนจำไม่ได้เพราะจ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ มีเรื่องสืบสวนสอบสวนอยู่มากมาย วันจันทร์ที่ 2 ก.พ. ได้นัดให้ฝ่ายสืบ สวนสอบสวนนำเรื่องทั้งหมดมาทบทวนและตรวจสอบดูว่าเป็นอย่างไร ถึงขั้นตอนไหนแล้ว ยืนยันว่าเรื่องร้องเรียนของนายบุญจง ทางกกต. นครราชสีมา ได้สอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐานส่งไปให้กกต.กลาง พิจารณาวินิจฉัยหมดแล้วหลังได้รับเรื่องร้องเรียน ส่วนกกต.กลางจะส่งเรื่องกลับมาหรือยังต้องตรวจสอบดูหนังสือที่เข้ามายังกกต.นครราชสีมาก่อน เพราะวันหนึ่งๆ เรื่องเข้ามามากจึงยังตอบไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ด้านนายกนก ศิริเพ็ญโสภา หัวหน้างานสืบสวน กกต.นครราชสีมา กล่าวว่า กกต.นคร ราชสีมา ส่งเรื่องร้องเรียนพร้อมสรุปสำนวนแนบพยานหลักฐานและความเห็นกกต.จังหวัดทั้ง 5 คน ส่งให้กกต.กลางพิจารณาไปแล้ว ภายหลังการเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเรื่องตีกลับมาจากกกต.กลางแต่อย่างใด ตนในฐานะฝ่ายสืบสวนของกกต.นครราชสีมาก็รอเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เรื่องทุกอย่างยังคงอยู่ที่กกต.กลาง

พท.เฉ่งปปช.ดึงสอบมาร์ค

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นให้กกต. ตรวจสอบนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมกับอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวถึง 2 ครั้ง อนุ กรรมการฯ ก็ยืนยันข้อมูลและหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ เหลือเพียงขั้นตอนการสรุปสำนวนเพื่อนำเสนอที่ประชุมใหญ่กกต. คาดว่าจะไม่เกิน 30 วัน สำนวนดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินสิ้นเดือนก.พ.นี้ ขอขอบคุณ กกต.ที่เร่งดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพราะเรื่องดังกล่าวได้เดินหน้าให้ดำเนินการทางกฎหมายเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ซึ่งไม่ช้าจนเกินไป

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า องค์กรอิสระที่ตนขอติงคือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. น่าจะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีนายอภิสิทธิ์ ส่งเอส เอ็มเอสในฐานะนายกฯ ให้ประชาชนตอบกลับ การส่งข้อความดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายเกิน 3 พันบาท ความผิดชัดเจนแต่ดูเหมือนป.ป.ช.จะไม่เร่งดำเนินการ ไม่ทำอะไรเลย หากตรวจสอบจริงๆ คงจะใช้ระยะเวลาไม่นานเพราะมีความชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนองค์กรอิสระองค์กรนี้จะคอยปกป้อง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในทางกลับกันจะเห็นว่าหากเป็นกรณียื่นร้องพรรคพลังประชาชนเดิมหรือพรรคเพื่อไทย กรรมการ ป.ป.ช.จะกระเหี้ยนกระหือรือเร่งตรวจสอบ สรุปผลอย่างรวดเร็วจนไม่ทันกะพริบตา แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางขององค์กรอิสระ หากจะลงโทษใครควรอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ตนจะติดตามและสอบถามเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป

จี้3รมต.ลงมติผ่านพรบ.งบฯไขก๊อก

นายสุรพงษ์กล่าวถึงกรณียื่นคำร้องให้ป.ป.ช. ตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของครอบครัวชินวัตรโดยไม่เสียภาษีผิดหรือไม่ว่า ตั้งแต่เมื่อปี 49 ที่ผ่านมาตนในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเพราะตนและเพื่อนฝูงในสมัยนั้นก็เล่นหุ้นกัน ซึ่งก็เป็นที่รู้กันในหมู่นักเล่นหุ้นว่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่เสียภาษี จึงเชิญเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร กระทรวงการคลังมาชี้แจงก็ยืนยันว่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษีเพราะมีระเบียบรองรับ จากนั้นจึงยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ ผ่านมา 2 ปีป.ป.ช. ทำหนังสือตอบกลับมาและยืนยันตามที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรให้ข้อมูลกับทางป.ป.ช.ว่าไม่มีความผิด ตนจะเปิดเผยข้อมูลให้กับทางสภาเพื่อไปทำความเข้าใจกับสังคม

นายสุรพงษ์กล่าวถึงกรณีเรียกร้องให้ 3 รัฐมน ตรี ประกอบด้วย นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม โหวตลงมติเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 177 ว่าตนอยากให้ทั้ง 3 รัฐมนตรีพิจารณาตนเองโดยการลาออก เพราะไม่อยากให้อนาคตทางการเมืองจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะทั้ง 3 คนยังมีอนาคตไกล โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ที่ยังหนุ่มยังแน่นและเป็นคนเก่ง จึงอยากเตือน ไม่อยากทำลายอนาคตเพื่อนฝูง ขอให้ทุกคนได้ฉุกคิดว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 177 วรรค 2 อ่านอย่างไรก็ผิด อย่าดันทุรังเพราะอยู่ไม่ได้แล้ว ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ จะเห็นว่าอภิสิทธิ์ออกมาส่งสัญญาณชัดเจนด้วยการไม่ออกมาตอบโต้ เพราะนายกฯเข้าใจในตัวบทกฎหมายดี จึงควรใช้อำนาจเรียกทั้ง 3 คนเข้าห้องเย็นให้ลาออก ถือเป็นทางออกที่ดีและเป็นการรับผิดชอบทางการเมืองเหนือกว่ากฎหมาย เหมือนกับที่นายกฯเคยพูดมาก่อนหน้านี้ว่าคุณธรรมต้องมาเหนือกฎหมาย โดยเฉพาะกฎ 9 ข้อของครม.

เตรียมส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด

นายสุรพงษ์กล่าวว่านายกฯต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง รวมทั้งรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากการจัดครม. เพราะไม่อย่างนั้นจะตายทั้งเป็น นายกฯเป็นคนที่เก่งกฎหมาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เก่ง เมื่อรู้ว่าผิดเขาก็เงียบ ไม่เหมือนกรณีปลากระป๋องกับบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ยังต้องดูข้อมูลหลักฐาน ทั้ง 2 คนจึงออกมาช่วยชี้แจง แต่กรณีรัฐมนตรียกมือโหวตงบประมาณ นายกฯไม่ได้ชี้แจงผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยไปกับนายกฯอภิสิทธิ์ เรื่องนี้หากรัฐมนตรีไม่รีบออก ครม.ก็จะตายยกฝูง ออก มาสารภาพผิดกับประชาชนจะดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาตายน้ำตื้น เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์ชี้แจงว่าเครื่องเสีย เจ้าหน้าที่กดผิด นายสุรพงษ์กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าไม่มีความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว ทั้งที่นายกฯและครม.ส่วนใหญ่แสดงตนว่างดออกเสียง ยังออกมาพูดเพื่อเอาตัวรอดอยู่คนเดียว ทั้งที่ยังมีรัฐมนตรีอีก 2 คนที่ทำผิดเหมือนกัน

นายสุรพงษ์กล่าวว่าขณะที่นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พม. กำลังจะถูกปล่อยลอยแพเหมือนในอดีตที่เคยประสบกับเหตุการณ์ส.ป.ก.4-01 และหากมีการปรับครม.ก็ไม่พ้นที่จะนำระบบโควตามาเป็นองค์ประกอบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกฯออกมาระบุว่าหากได้เป็นรัฐบาลก็จะไม่มีการยึดระบบโควตา

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยืนยันว่า 3 รัฐมนตรีที่ลงมติเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 177 ว่าในวันที่ 1 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. จะเปิดแถลงข่าวในกรณีนี้อย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นประเด็นทางกฎหมาย ฉะนั้นการที่สมาชิกมีข้อสงสัยบางประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมายสามารถดำเนินการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้

ตามบี้กกต.ดองใบแดงบุญจง

นายวิทยากล่าวว่าทุกเรื่องสามารถคิดได้เสมอ ดังนั้นการปฏิบัติงานการพิจารณางบถือเป็นกฎหมายที่ต้องระมัดระวังอยู่แล้ว เช่นเดียวกันกับการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรียิ่งมีความสำคัญกว่า ต้องดูว่ากรอบกฎหมายทำได้มากน้อยเพียงใด ฉะนั้นการทำอะไรต้องระมัดระวังไม่ใช่เป็นรัฐมนตรีเป็นคณะรัฐมนตรีจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้นคนที่จะชี้ขาดในเรื่องนี้คือศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่ารัฐบาลอ้างว่าสมัยคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลที่ผ่านมารัฐมนตรีก็ยกมือเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณเช่นกัน นายวิทยากล่าวว่าต้องถามกลับว่าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคฝ่ายค้านขณะนั้นได้ตรวจสอบในเรื่องนี้หรือไม่ ประเด็นข้อกฎหมายทุกฝ่ายมีสิทธิตรวจสอบได้หากติดใจ แต่การจะชี้ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดหรือไม่นั้นอำนาจอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณา ที่ผ่านมาพรรคก็เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้การบริหารงานของรัฐบาลเป็นไปโดยคล่องตัวมากขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าจะไม่มีการปรับครม.ในส่วนของพรรค นายวิทยากล่าวว่าตนไม่สามารตอบแทนนายกรัฐมนตรีได้ เมื่อถามว่าหากมีการปรับครม.จริงจะสร้างความลำบากใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่าลำบากใจหรือสบายใจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ถ้าถามพรรคเพื่อไทยก็สบายใจ หากมีการปรับครม.จริงอาจจะเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคฝ่ายค้าน ส่วนการปรับครม.จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่นั้นก็ไม่แน่เสมอไป เพราะขบวนการอยู่ที่องคาพยพทั้งหมดของครม.

นายวิทยายังกล่าวถึงกรณีกกต.ไม่ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาพิจารณาใบแดงของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ว่าเรื่องนี้ต้องไปถามกกต. แต่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการทวงถามประเด็นนี้ไปยังกกต.เช่นกัน ทุกอย่างมีคำตอบอยู่แล้วเพียงแต่ต้องหรือหยิบมาทำหรือไม่ นอกจากนี้ พรรคยังมีหลายเรื่องที่จะสอบถามและเร่งรัดไปยังกกต. เช่น งบประมาณค่าใช้จ่ายที่ต้องให้กับพรรคการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยื่นขอคำตอบจากกกต.ในสัปดาห์หน้า โดยพรรคการเมืองอื่นได้รับไปครบถ้วนแล้วเหลือเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ทั้งที่พรรคนี้มีส.ส.จำนวนมาก

เผยมติกกต.ฟันอาญาเทพเทือก

รายงานข่าวจากกกต. เผยว่า จากการที่กกต. มีมติเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2551 สั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานีใหม่ เนื่องจากนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ได้รับเลือกตั้งถูกร้องเรียนว่าแจกทุนการศึกษาในช่วงเลือกตั้ง มติครั้งดังกล่าวนอกจากจะสั่งเลือกตั้งใหม่แล้ว ยังสั่งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และร่วมแจกทุนการศึกษา ประกอบด้วย นายสุเทพ นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี หัวคะแนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมสำนวนส่งให้ศาลอุทธรณ์ พิจารณาตามพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความผิดก็จะมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นไม่ได้กำหนดโทษไว้เช่นเดียวกับกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่ระบุว่า หากกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นในการทุจริตเลือกตั้งต้องเป็นเหตุให้ยุบพรรค แต่ขณะเดียวกันอาจต้องมีการตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรคว่าจะตีความรวมไปถึงกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่

ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. ยอมรับว่า กกต.มีมติดังกล่าวจริง แต่ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนให้ศาลอุทธรณ์ พิจารณาว่าจะเห็นด้วยกับการสั่งเลือกตั้งใหม่ของกกต.หรือไม่ หากเห็นด้วยจึงจะดำเนินคดีอาญา แต่หากศาลไม่เห็นด้วย นายสุเทพก็ถือว่าไม่มีความผิด

เทือกบอกคดีอาญายังอีกยาว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากรณีช่วยน้องชาย แจกทุนการศึกษาในการหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี ว่า ไม่ใช่เรื่องของตน ความจริงเกิดจากช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ตนเดินทางไปร่วมงานรดน้ำดำหัวที่เกาะ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตามคำเชิญ ซึ่งได้เตรียมของไปทำบุญตักบาตร รวมทั้งเตรียมผ้าขนหนูไปให้ผู้ใหญ่ บังเอิญช่วงนั้นน้องชายตนลงสมัครเลือกตั้งนายกอบจ. แต่กกต.มองว่าที่ตนไปงานดังกล่าวทำให้น้องชายได้ประโยชน์ จึงให้ใบเหลืองน้องชายและแจ้งดำเนินคดีอาญากับตน

นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปสู้คดีที่ศาล หากศาลพิจารณาแล้วยืนตามคำสั่งกกต. ตนก็ต้องโดนคดีอาญาด้วย คดีนี้ยังอีกยาว ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่การทุจริตเลือกตั้ง และในวันดังกล่าวตนไม่ได้ไปแจกทุนการศึกษา เป็นคนละเรื่องกัน ไม่หวั่นว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรค เพราะกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้เชื่อมโยงถึงเรื่องการยุบพรรค ส่วนที่กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็เป็นสิทธิของกกต.ที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ถ้ากกต.เชิญไปชี้แจงก็พร้อม ตนว่านอนสอนง่าย ยืนยันเรื่องการดำเนินคดีอาญายังอีกยาว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลอุทธรณ์รับพิจารณาคดีดังกล่าวจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตน และจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกกต.สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งส.ส.หรือส.ว. ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว กกต.ต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด แต่ถ้าเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น กกต.ต้องยื่นคำร้องให้ศาลอุทธรณ์ ชี้ขาด ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239 กำหนด

สำหรับกรณีกกต.มีมติฟ้องดำเนินคดีอาญานายสุเทพนั้น กกต.ต้องรอฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ว่าจะเห็นด้วยกับการเพิกถอนสิทธิ์นายธานีหรือไม่ หากยกฟ้องเรื่องก็จบ แต่หากกกต. ยืนตามมติกกต.ก็ต้องเลือกตั้งใหม่ และกกต.ก็ต้องทำสำนวนพร้อมมติกกต.ยื่นฟ้องอาญาผู้เกี่ยวข้องต่อศาลอาญาต่อไป

บรรณวิทย์ชี้โหวตเลือกนายกฯโมฆะ

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ว่า เป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องช่วยกันดูว่าผู้ที่มาบริหารประเทศจะดูแลประเทศได้ดีจริงอย่างที่คุยไว้หรือไม่ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าถูกต้อง เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่า ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อย้ายพรรคไม่ได้ เมื่อเกิดการยุบพรรคกลุ่มของตนที่ร่างรัฐธรรม นูญคิดว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อจะต้องขาดคุณสมบัติตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรค ยังสงสัยว่าทำไมยังปฏิบัติงานในสภาได้ จะเห็นว่า มีผู้ไปร้องกกต.หลายคน แต่กกต.ยังไม่ได้สรุปเรื่องเพื่อส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ

อดีตสนช. กล่าวว่า ส่วนนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นส.ส.ระบบสัดส่วน น่าจะเป็นโมฆะ เพราะเมื่อคุณสมบัติของส.ส.สัดส่วนหมดไป นายชัย ก็ต้องหมดไปจากสภาด้วย และคิดว่าตำแหน่งนายกฯ น่าจะโมฆะด้วย เพราะผู้ที่ไปโหวตเลือกนายกฯ เป็นส.ส.สัด ส่วนจำนวนมาก เมื่อส.ส.ที่ไปยกมือให้กับนายกฯ แต่ตัวเองไม่มีคุณสมบัติ ข้อสำคัญคือส.ส.บัญชีรายชื่อเลือกตั้งใหม่มาไม่ได้ขาดแล้วขาดเลย ทำให้ประชุมสภาไม่ได้ กกต.ควรรีบวินิจฉัยหรือส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือพิพากษา ทางออกกรณีนี้รัฐธรรมนูญเขียนไว้คือ ใช้มาตรา 7 คือ คืนอำนาจให้กับพระมหากษัตริย์ เพื่อพระราชทานนายกฯ เมื่อเลือกตั้งกันใหม่ทุกอย่างน่าจะเป็นธรรม

รัฐบาลน่าจะไปในเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่านักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์จะยอมหรือไม่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเรามีรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้แล้ว แต่เลือกใช้บ้าง ไม่เลือกใช้บ้าง อาจดูแปลกๆ สิ่งที่ตนสงสัยอีกคือผู้ที่โดนข้อห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจการทางการเมือง แต่ยังไปร่วมงานทางการเมือง เชื่อว่าเมื่อเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ ต้องมีบทลงโทษเรื่องการตัดสิทธิ์แน่นอน และพรรคการเมืองที่ไปยุ่งกับคนที่ถูกตัดสิทธิ์ ถ้าเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ต้องไปทั้งพรรค ไปอ่านเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเลย เชื่อว่าผิด เพราะปรึกษาคณะหลายคนรวมถึงน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็บอกเหมือนอย่างที่ตนพูด

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมองว่าการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นบันไดขั้นสุดท้ายตามแผนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า ถ้าไม่ถึงทางตันของกฎหมายไปสู่ตรงจุดนั้นไม่ได้ ขณะนี้ทางตันของกฎหมายกำลังจะเกิดขึ้น สถานการณ์น่าจะมาถึงจุดนี้

เมื่อถามว่านายกฯ คุณลักษณะอย่างไรที่จะแก้ปัญหาได้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า คิดว่า นายกฯ ทุกคนแก้ปัญหาได้ แต่ที่แก้ไม่ได้เพราะเป็นการรวมตัวกันของหลายพรรค หลายกลุ่ม จึงต้องประสานประโยชน์กัน ซึ่งนายกฯ เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด คนอย่างประธานองคมนตรี คิดว่าดีหรือไม่ และในประเทศไทยยังมีคนอย่างท่านประธานองคมนตรีอีกจำนวนมากแต่เขาไม่แสดง ออกและไม่สามารถออกมาทำอะไรได้ ไม่ว่าใครเข้ามาก็ทำเต็มที่เพราะไม่ได้หวังว่าจะทำเพื่อหวังชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยกตัวอย่าง นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีผลงานยอดเยี่ยม คนที่มีบุคลิกเหมือนคุณอานันท์ มีจำนวนมาก แต่เอ่ยชื่อไม่ได้ เช่น น.ต.ประสงค์ เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนที่โหรมองว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวหากพ้นเดือนเม.ย.ไปได้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า จากดวงดาวรัฐบาลชุดนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะดวงพฤหัสฯ เร็วกว่าปกติ หรือเดินอย่างวิปริต ดวงเมืองก็ไม่ช่วยและอะไรอีกหลายอย่าง เท่าที่ดูดวงเมืองน่าจะเหนื่อย น่าจะไปเร็วๆ นี้ เพราะขณะนี้ดาวกำลังเคลื่อนหมด และเมื่อกกต.ผ่านเรื่องคุณสมบัติ เรียกว่าลิเกเลิก

ฝ่ายค้านขวางแจก2พันผู้ประกันตน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 มีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ทำหน้าที่ประธาน เริ่มพิจารณาในส่วนของงบประมาณโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ จำนวน 18,000 ล้านบาท กรณีการจ่ายเงินให้กับผู้ทำประกันสังคมที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท จำนวน 2,000 บาท มีตัวแทนจากสำนักงบประมาณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงาน และสำนักงานข้าราชการพลเรือนมาชี้แจง

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา กรรมาธิการพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า เงินช่วยเหลือ 2,000 บาทอาจมีหัวหน้าบริษัทปรับแต่งบัญชีให้กับลูกน้องของตนเองให้ต่ำกว่า 15,000 บาทเพื่อเข้าโครงการนี้ อยากถามไปยังรัฐบาลว่าจะมีมาตรการป้องกันในเรื่องนี้อย่างไร

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ กรรมา ธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทราบว่าปีนี้จะมีคนถูกเลิกจ้างประมาณ 2 ล้านคน จึงไม่มั่นใจว่ามาตรการแจกเงินดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เนื่องจากประเทศกำลังประสบกับปัญหาเงินคงคลังที่เหลือเพียง 52,000 ล้านบาท จำเป็นต้องกู้เงินมาจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปัญหาในขณะนี้คือ ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับรัฐบาลประกันราคาสินค้าการเกษตร กว่าแสนล้านบาท ที่สูงเกินกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต เกรงว่าปัญหาทั้งหมดที่ผ่านมาประกอบกับการกู้เงินไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา แต่อาจเป็นการทำลายเศรษฐกิจทั้งระบบ

นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า กรณีการปรับแต่งบัญชีเพื่อรับเงินไม่ต้องกังวล เพราะกระทรวงได้กำชับไปยังนายจ้างบริษัททุกแห่งท ี่ต้องมาชี้แจงต่อกระทรวงแรงงาน กรณีเงินสมทบที่ต้องคิดจากฐานเงินเดือน ซึ่งได้แจ้งไว้ก่อนวันที่ 13 ม.ค. 52 แล้ว

กรรมาธิการฝ่ายค้านเสนอขอให้ปรับลดงบประ มาณโครงการการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐลดลงอีกร้อยละ 50 เนื่องจากยังชี้แจงเหตุผลไม่ชัดเจนและเงินดังกล่าวกระจายไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ทำประกันสังคม และขอสงวนคำแปรญัตติไปอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2

อัดงบโร้ดโชว์-งบแก้ตัวให้กษิต

ช่วงบ่ายเป็นการพิจารณางบประมาณจำนวน 325 ล้านบาท โครงการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงว่า งบประมาณก้อนนี้มีความจำเป็นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศจะได้นำงบก้อนนี้ไปจัดประชาสัมพันธ์หรือโร้ดโชว์ 5 ประเทศคือ ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ รัสเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่อง จากประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่มาเที่ยวและลงทุนกับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม กรรมาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตนไม่ต้องการให้นำเงิน 325 ล้านไปประชาสัมพันธ์ให้กับคนทั่วโลก เพราะรู้กันดีว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ทำอะไรไว้ เผาบ้านเผาเมืองอย่างไร เป็นตนคงไม่กล้ามาเป็นรัฐมนตรี เงินก้อนนี้ควรเก็บไปทำอะไรที่เกิดประโยชน์จะดีกว่า ไม่ใช่ให้งบประมาณเพื่อให้รมว.ต่างประเทศไปแก้ตัวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศอย่างซีเอ็นเอ็น หรือบีบีซี รมว.ต่างประเทศควรมีสปิริตต่อประเทศชาติ หากเราไม่กำจัดคนที่ทำความเสียหายต่อบ้านเมืองก็ไม่สามารถมีรัฐบาลที่มีหลักนิติธรรมและนิติรัฐได้ ที่อ้างว่าขอไปกระตุ้นเศรษฐกิจขอให้รัฐบาลนำเงินก้อนนี้ไปซื้อไข่แจกประชาชนทั่วประเทศ จะเกิดประโยชน์กว่า จึงขอตัดงบส่วนนี้ทั้งหมดและขอสงวนไปพูดในการประชุมสภา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook