พท.จี้กกต.สางคดีบุญจง10เดือนที่แล้ว สดศรีเผยลงมติผิดอาญาสุเทพยกก๊วน เจ้าตัวลั่นสู้ชั้นศาล

พท.จี้กกต.สางคดีบุญจง10เดือนที่แล้ว สดศรีเผยลงมติผิดอาญาสุเทพยกก๊วน เจ้าตัวลั่นสู้ชั้นศาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เพื่อไทยจี้องค์กรอิสระ เร่งมือสางคดีบุญจง กกต.ปัดช่วย-รับเร่งฟัน มท.2 อ้างไม่มีเหตุจูงใจจงใจช่วยจริงคงไม่เอาผิด กกต.โคราชยังรอเรื่องจากส่วนกลาง สดศรี เผยเคยมติกกต.ชี้ สุเทพผิดอาญาเหมือนบุญจง ยกก๊วน รองนายกฯลั่นไม่เกี่ยว ต่อสู้ถึงชั้นศาล-เพื่อไทยใช้ กมธ.ลุย กกต.ดำเนินการการล่าช้า คลิกอ่าน - เปิดหลักฐาน มัด กกต.หมกเม็ดแจกใบแดง-ดองคดีอาญาอุ้มบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ?

จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่งเมื่อตอนเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมา แต่ นับแต่วันที่ 3 เมษายน 2551 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 10 เดือน กกต.ยังมิได้ดำเนินการใดๆแก่นายบุญจงตามที่มีมติแต่อย่างใด

เพื่อไทยจี้องค์กรอิสระ เร่งมือสางคดีบุญจง

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระ ว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังจับจ้องการทำงานขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยเฉพาะกกต.ในเรื่องของการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผ่านมากว่า 10 เดือนก็ยังไม่มีการดำเนินการ

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญจง ในเรื่องการแจกซีดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สิน ต่อสภ.จักราช จ.นครราชสีมา แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเกิดขึ้น

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ นายมีชัย จะไปยื่นร้องเรียนต่อกกต. ทั้งนี้จะร้องเรียนต่อหน่วยงานอื่น เพื่อให้ดำเนินการกับกกต.หากไม่มีการจัดการใดๆอีก ทั้งนี้ยังขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญาโดยเร็วอีกด้วย

สดศรี ปูดมติกกต.สุเทพผิดอาญา

ก่อนหน้านี้ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กล่าวเมื่อวันที่ 31 มกราคม ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยมีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จริง ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว เมื่อ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญา สำนักวินิจฉัยและคดี ของ กกต.จะต้องจัดทำความเห็นและร่างคำวินิจฉัย เพื่อส่งไปยัง กกต.จว. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่ทราบว่าเรื่องของนายบุญจงไปถึงไหนแล้ว เพราะ กกต.มีหน้าที่เพียงวินิจฉัยเท่านั้น ส่วนงานด้านธุรการจะเป็นทางสำนักวินิจฉัยและคดีเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะจะให้ กกต.ไปนั่งดูแลทั้งหมดคงไม่ได้ แต่ถ้าดูจากกรอบระยะเวลาเรื่องน่าจะอยู่ที่ กกต.จว.แล้ว ส่วนการที่ กกต.ไม่ได้แจกใบแดง (เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง) ให้กับนายบุญจงนั้น เพราะพยานหลักฐานการสืบสวนไปไม่ถึง จึงเอาผิดได้เพียงให้ดำเนินคดีอาญา

นอกจากนายบุญจงแล้ว กกต.ยังมีมติในลักษณะเดียวกัน คือเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 กกต.ให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ (ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์) รองนายกรัฐมนตรี และพวกเช่นเดียวกัน โดยนายสุเทพเคยไปช่วยหาเสียงสนับสนุนแจกทุนการศึกษาในช่วงเลือกตั้งให้กับนายธานี เทือกสุบรรณ (น้องชายนายสุเทพ) ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนี้เรื่องน่าจะอยู่ที่สำนักวินิจฉัยและคดีเป็นผู้ดำเนินการต่อ นางสดศรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ของ กกต.ได้เผยแพร่ข่าว นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงผลประชุม กกต.ครั้งที่ 144/2551 ว่าที่ประชุม กกต.ได้พิจารณากรณีการร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเกาะสมุย ที่มีประเด็นร้องเรียนเรื่องการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด ทั้งนี้ กกต. มีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากเห็นควรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนายสุริญญา ยืนนาน ผู้สมัคร ส.อบจ.อ.เกาะสมุย หมายเลข 2 (ได้รับเลือกตั้ง) และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่(ใบเหลือง) นายธานี เทือกสุบรรณ ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธาน หมายเลข 2 (ได้รับเลือกตั้ง)

นอกจากนี้ให้ดำเนินคดีอาญาแก่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายชุมพล กาญจนะ และ นายประพนธ์ นิลวัชรมณี และให้มีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธี อำเภอเกาะสมุย จำนวน 2 คน ใหม่ แทนนายสุริญญา ยืนนาน และนายธานี เทือกสุบรรณ โดยให้นาย สุริญญา ยืนนาน ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่

สุเทพอ้างไม่เกี่ยว-ขอสู้ชั้นศาล

ด้านนายสุเทพ ชี้แจงว่ ไม่ใช่เรื่องผม ความจริงเกิดจากช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ได้เดินทางไปร่วมงานรดน้ำดำหัวที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตามคำเชิญ ซึ่งได้เตรียมของไปทำบุญตักบาตร รวมทั้งเตรียมผ้าขนหนูไปให้ผู้ใหญ่ บังเอิญช่วงนั้นน้องชายผมลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี แต่กรณีมองว่า การที่ผมไปงานทำให้น้องชายได้ประโยชน์ จึงให้ใบเหลืองน้องชายผม และแจ้งดำเนินคดีอาญากับผม ซึ่งต้องไปสู้คดีที่ศาล หากศาลพิจารณาแล้วยืนตามคำสั่ง กกต. ผมก็ต้องโดนคดีอาญาด้วย แต่คดียังอีกยาว

นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่การทุจริตเลือกตั้ง เมื่อมีการส่งฟ้องศาล น้องชายก็ต้องตั้งทนายสู้ ในวันนั้นผมไม่ได้ไปแจกทุนการศึกษา มันเป็นคนละเรื่องกัน แต่ผมก็ไม่หวั่นว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรค เพราะกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้เชื่อมโยงถึงเรื่องการยุบพรรค หาก กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็เป็นสิทธิ เชิญทำได้เลย และถ้า กกต.เชิญไปชี้แจงก็พร้อม เพราะผมว่านอนสอนง่ายอยู่แล้ว

กกต.โคราชยังรอเรื่องจากส่วนกลาง

พล.อ.วีรวุธ ส่งสาย ประธาน กกต.จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญานายบุญจงเนื่องจากทุจริตเลือกตั้งว่า จำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดใหญ่ มีเรื่องสืบสวนสอบสวนมาก โดยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ได้นัดให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ให้นำเรื่องทั้งหมดมาทบทวนและตรวจสอบดูว่าเป็นอย่างไร ดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว

ขอยืนยันว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนของนายบุญจง ทาง กกต.นครราชสีมา ได้สอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐานส่งไปให้ กกต.กลางพิจารณาวินิจฉัยหมดแล้ว ส่วน กกต.กลางจะส่งเรื่องกลับมาหรือยังนั้น ต้องตรวจสอบดูหนังสือที่เข้ามายัง กกต.นครราชสีมา ก่อน ประธาน กกต.นครราชสีมากล่าว

นายกนก ศิริเพ็ญโสภา หัวหน้างานสืบสวน กกต.นครราชสีมา กล่าวว่า กกต.นครราชสีมา ได้ส่งเรื่องร้องเรียนพร้อมสรุปสำนวนแนบพยานหลักฐาน และ กกต.จังหวัดทั้ง 5 คน ลงมติส่งให้ กกต.กลางพิจารณาไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเรื่องตีกลับมาจาก กกต.กลางอย่างใด ในฐานะฝ่ายสืบสวนของ กกต.จังหวัดนครราชสีมา ก็รอเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เรื่องทุกอย่างยังคงอยู่ที่ กกต.กลาง

กกต.ปัดช่วย-รับเร่งฟันบุญจง

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต. ไม่ยอมดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ในฐานะอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน (พปช.) ทั้งที่มีมติ กกต. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551 ว่านายบุญจงกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 ในเรื่องที่นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ร้องเรียนว่า หลัง กกต.มีมติว่านายบุญจงมีความผิดตามมาตรา 53 สำนักเลขาธิการ กกต.ได้มอบหมายให้ฝ่ายกิจการสืบสวนส่งเรื่องให้สำนักวินิจฉัยคดีดำเนินการต่อ แต่เหตุที่ล่าช้าเพราะสำนักดังกล่าวเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ ขณะที่เรื่องร้องเรียนมีเข้ามามาก เฉพาะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ก็มีสำนวนกว่า 700 เรื่องแล้ว ซึ่ง กกต.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นหมดแล้ว

นายสุทธิพลกล่าวว่า ล่าสุดทราบว่าการยกร่างคำวินิจฉัยและสำนวนในคดีนายบุญจงเสร็จแล้ว และเสนอให้ กกต.ชุดใหญ่ลงนามแล้ว ดังนั้น จะเร่งดำเนินคดีอาญาต่อไปแน่ ซึ่งคดีอาญามีอายุความถึง 10 ปี

ขอยืนยันว่า กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยคิดช่วยเหลือคุณบุญจง เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งคุณบุญจงได้ลงสมัครในนามพลังประชาชน กกต.เองถูกวิจารณ์มากว่าจ้องแจกใบแดงเฉพาะผู้สมัครจากพลังประชาชน ดังนั้น จึงไม่มีมูลเหตุจูงใจให้ กกต.ต้องเข้าไปโอบอุ้มคุณบุญจงเลย กกต.ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณบุญจงเป็นใคร และจะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ดังนั้น อยากขอความเป็นธรรมให้ กกต.ด้วย เลขาธิการ กกต.กล่าว

อ้างเหตุไม่ส่งศาลเพิกถอนสิทธิฯ

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ไม่ยอมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญจง ตามมาตรา 111 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น นายสุทธิพลกล่าวว่า การมีความผิดตามมาตรา 53 ไม่ได้หมายความว่าต้องถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งตามมาตรา 111 ทุกกรณีไป แต่ขึ้นอยู่กับการใช้ดุลพินิจของ กกต. ถ้าเห็นว่ามีระดับความร้ายแรง ทำให้การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็จะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ที่ผ่านมามีตัวอย่างเทียบเคียงในหลายกรณีที่ กกต.มีมติว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ได้รับเลือก มีความผิดตามมาตรา 53 แต่ไม่ได้ยื่นคำร้องให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 111 อาทิ

1.การประชุม กกต. ครั้งที่ 61/2551 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2551 กกต. ให้ยกคำร้องคัดค้าน แต่ให้ดำเนินดคีอาญากับผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน

2.การประชุม กกต. ครั้งที่ 81/2551 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2551 กกต.ให้ยกคำร้องคัดค้านผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคประชาราช แต่ให้ดำเนินดคีอาญา

3.การประชุม กกต. ครั้งที่ 139/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 กกต.ให้ยกคำร้องคัดค้านผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาราช แต่ให้ดำเนินคดีอาญา

จงใจช่วยจริงคงไม่เอาผิดอาญา

เท่าที่ตรวจสอบมติ กกต. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551 พบว่า กกต. 4 คน มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับคุณบุญจงเพราะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 53 แต่มีเพียง 1 คน ที่เห็นควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 111 ด้วย ดังนั้น เมื่อไม่ใช้เสียงข้างมาก ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เวลาลงมติกรรมการแต่ละคนก็ต่างคนต่างติ๊ก ไม่มีการซูเอี๋ยกัน ดังนั้น ถ้า กกต.จงใจช่วยคุณบุญจงจริง คงไม่ดำเนินคดีอาญากับเขา เพราะความผิดตามมาตรา 53 จะได้รับโทษคือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุดถึง 10 ปี นายสุทธิพลกล่าว

พท.เล็งยกเป็นญัตติใน กมธ.ตรวจสอบกกต.

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะหยิบยกกรณี กกต.ดำเนินการกับนายบุญจงล่าช้าเป็นญัตติด่วนขึ้นมาหารือใน กมธ. ก่อนที่จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อให้ประชาชนคลายความสับสนในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ดูจากเอกสารแล้วเห็นว่ามีหลักฐานชัดเจน โดย กกต.จะต้องตอบคำถามในเรื่องดังกล่าวเพราะเป็นกระบวนการภายในของ กกต.ที่จะต้องจัดการกันเอง

บุญจง ปฏิเสธข่าวซื้อใบแดง

สำหรับนายบุญจงนั้น ได้ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานรวมใจอาสาพัฒนาชุมชน เนื่องในวาระครบรอบ 40 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ภายในศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชน เขต 11 ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ในโอกาสนี้นายบุญจงมอบประกาศเกียรติคุณให้อาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น และปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับมติ กกต.โดยกล่าวว่า เรื่องนี้ผมไม่ทราบและไม่ขอตอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวออกมาว่า เป็นการซื้อใบแดง นายบุญจงกล่าวว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายบุญจงตอบว่า ไม่มี ผมไม่ทราบ เรื่องนี้ผมไม่ตอบ แค่นี้พอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook