กรธ.ยันจำเป็นต้องมีการยื่นซักฟอกใช้เสียง1ใน 5

กรธ. ยัน จำเป็นต้องมีการยื่นซักฟอก ใช้เสียง 1 ใน 5 ยังไม่คุยเพิ่มมาตรการตรวจสอบบัญชีหนี้สินญาตินักการเมือง ขณะ ให้สมาชิก 1ใน10 เสนอร่าง กม.ที่ขัดแย้ง รธน.ได้

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี นั้น กรธ. เห็นว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งในกรณีที่มีการกล่าวหาการทุจริต จะต้องให้องค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบทำการตรวจสอบด้วย แต่การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี จะใช้เสียง 1 ใน 5 และหากอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนที่จะมาแทนด้วย เช่นเดียวกับเปิดให้วุฒิสภาอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติได้ เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล

นอกจากนี้ โฆษก กรธ. ยังชี้แจงกรณีที่ กรธ. เพิ่มมาตรการตรวจสอบบัญชีหนี้สินญาติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอยืนยันว่า กรธ.ยังไม่ได้มีการปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้

กรธ.ให้สมาชิก1ใน10เสนอร่างกม.ที่ขัดแย้งรธน.ได้

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลักการควบคุมการตรากฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญโดยเปิดให้สมาชิกรัฐสภา 1 ใน 10 ของทั้งสองสภา สามารถเข้าชื่อการส่งร่างกฎหมายที่เห็นว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยเมื่อกฎหมายผ่านสภาและวุฒิสภาแล้วจะต้องเว้นระยะเวลาไว้ 5 วัน จึงจะสามารถทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยใน 20 วัน

สำหรับการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลนั้น กรธ. ยังให้สิทธิ์ในการตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีทั้งเป็นหนังสือและด้วยวาจา ให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมแห่งสภานั้น ๆ โดยไม่บังคับว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะต้องมาตอบทุกกระทู้