บัญญัติเชื่อม็อบเสื้อแดงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาล

บัญญัติเชื่อม็อบเสื้อแดงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(31ม.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในเย็นวันที่ 31 ม.ค.ว่า การรวมตัวกันของคนเสื้อแดงคงทำให้คนหวั่นไหวบ้าง แต่เชื่อว่าคนในรัฐบาลไม่หวั่นไหว เพราะทราบกันอยู่แล้วว่าการชุมนุมโดยกลุ่มคนเสื้อแดงคงมีอีก ซึ่งได้มีการประเมินสถานการณ์กันไว้ตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาลแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ามีผู้มาร่วมชุมนุมมากน้อยแค่ไหน และทำได้ต่อเนื่องยาวนานหรือไม่ โดยเท่าที่ฟังดูเชื่อว่าการชุมนุมไม่ยืดเยื้อยาวนาน แต่ต้องรอดูว่าจะรุนแรงไปไกลถึงขั้นเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ แต่เท่าที่สังเกตดูช่วงหลังเริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้น ดังนั้นตนจึงยังไม่กังวลเท่าไหร่ว่าจะมีอะไรน่าวิตก อีกทั้งในช่วงหลังความขัดแย้งกันเองบ้างก็มีอยู่ รวมถึงเสียงสะท้อนจากสังคม จึงยังไม่คิดว่าจะมีอะไรถึงขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลเพราะฟังดูข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมทั้งเรื่องให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งเรื่องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ยังไม่คิดว่าจะนำไปสู่วิกฤติอะไร และต้องมองว่าเป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีทางออกอยู่แล้วทั้งสิ้น

เรื่องที่จะให้ยุบสภาในวันนี้ ผมคิดว่า ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่ถ้าเราสดับตรับฟังประชาชน โดยทั่วๆ ไปก็บอกว่า จะไปยุบกันทำไม ลองให้เขาแก้ปัญหาไปอีกระยะหนึ่งก่อนไม่ได้หรือ แต่ถ้าดูแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ มีวิกฤติมากขึ้นก็ค่อยว่ากันอีกที วันนี้คนมีความหวังนะผมว่า แม้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่มาตรการโดยรวม ผมคิดว่าคนรู้สึกว่ารัฐบาลก็พยายามทำงานอยู่ น่าจะได้ผลนะ ฉะนั้นวันนี้การเรียกร้องให้ยุบสภา ผมคิดว่าอยู่ในเงื่อนไขที่กล่าวได้ว่าไม่น่าจะสมเหตุสมผล วันนี้ควรใช้เวลาแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ และต้องถือว่ารัฐบาลนี้ทำงานเร็วด้วยซ้ำไปนายบัญญัติ กล่าว

ส่วนจะให้เวลารัฐบาลแค่ไหนจึงจะประเมินการทำงานได้นั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า น่าจะช่วงไตรมาสหนึ่งหรือ 3 เดือน ก็พอจะมองเห็น แต่ยอมรับว่าภายใต้วิกฤติเช่นนี้ 3 เดือนคงยังไม่ดีขึ้นทันที แต่คิดว่าน่าจะพอเห็นแสงสว่าง หรืออย่างน้อยก็พอประคับประคองอยู่ได้แล้ว

สำหรับข้อเรียกร้องที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 นั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า แม้รัฐธรรมนูญปี 50 จะมีปัญหา แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนภายในวันนี้ เพราะไม่ถึงขั้นจะเป็นอุปสรรคข้อขัดข้องในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยอมรับว่าหลายบทหลายมาตราค่อนข้างเคร่งครัด แต่ถ้ามองกันจริงๆ ก็ถือเป็นการอุดช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญปี 2540 และเมื่อเขียนมาแล้วก็ควรลองใช้ไประยะหนึ่ง ซึ่งวันนี้สภาผู้แทนราษฎรก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้รัฐธรรมนูญ และนโยบายของรัฐบาลนี้ก็ประกาศชัดเจนว่าต้องมีการแต่งตั้งคณะบุคคล อาจจะเป็นคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองขึ้นมาทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ฝากภาระไว้กับสถาบันพระปกเกล้าในการศึกษาเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันข้างหน้ามีแน่ แต่คงไม่ใช่เรื่องด่วนที่จะยกเลิกในวันนี้

นายบัญญัติ กล่าวว่า สิ่งที่ดีสำหรับการเมืองไทยในวันนี้คือภาคเอกชนกล้าที่จะแสดงความเห็น ซึ่งตนยังเชื่อว่าการที่เปลี่ยนขั้วจากรัฐบาลเดิมมาหนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นเพราะการแสดงความคิดเห็นของ 3 สถาบันหลักในภาคธุรกิจ ทั้งสมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และคนคล้อยตาม โดยดูสถานการณ์ในวันนี้เห็นว่าเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดว่า 29 ที่นั่ง 26 เขตเลือกตั้ง 22 จังหวัดครั้งที่แล้วจะได้ถึง 7 ที่นั่ง แต่ผลจากการที่คนเริ่มมีความรู้สึกว่าปัญหาบ้านเมืองวิกฤติ อยากเติมเสียงให้รัฐบาลให้มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากขึ้น เพื่อเสถียรภาพของการเมืองในสภา จะช่วยทำให้รัฐบาลมีเวลาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ชัดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ตนคิดว่าคนเริ่มตามทันมากขึ้น จึงอยากให้คนทั่วไปได้แสดงออกเพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศว่าการเคลื่อนไหวอะไร ต้องอยู่ในกรอบมากขึ้นหรือไม่ เพราะประชาชนวันนี้เริ่มอยากเห็นการเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น การชุมนุมการเรียกร้อง ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อย่าให้มีเหตุการณ์อะไรที่ดูน่าหวั่นไหวว่าจะไปปิดที่นั่น ไปล้อมที่นี่ กดดันที่นั่น ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหาและมีแนวโน้มว่าจะกระทบมาถึงประเทศไทย จึงเชื่อว่าประชาชนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สถานการณ์ในบ้านเมืองนิ่ง

ตะลุยข่าว - เฟ้นสาวๆ ฝึกปราบจลาจล...รับม็อบเด็ก สตรี คนชรา

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในแวดวงสีกากีอีกครั้ง ...หลังจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเปิดรับนักเรียนนายร้อยหญิงเข้ารับการศึกษาและฝึกอบรม เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนนายร้อยที่เป็นชายอกสามศอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook