ปฏิทิน กับ การเมืองปี 2559

ปฏิทิน กับ การเมืองปี 2559

ปฏิทิน กับ การเมืองปี 2559
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นประเด็นขึ้นมาทันทีสำหรับ การเมืองไทย ในช่วงเปิดศักราชใหม่ 2559 เมื่อการแจกปฏิทิน 2 อดีตนายกรัฐมนตรีถูกห้ามแจก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มีคำสั่งให้หน่วยงานทางปกครองระดับท้องถิ่นดูแลเรื่องการแจกปฏิทิน 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และทางโฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ออกมาบอกว่าสามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องทางปกครอง แต่ไม่ใช่คำสั่งของ คสช.

เรื่องดังกล่าวถูกหยิบขึ้นมากระพือข่าวทันทีจากทีมของพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทย และพยายามโจมตีรัฐบาลคสช.ว่าเป็นการกระทำในทำนองที่ ละเมิดสิทธิเสรีภาพ เป็นการกระทำที่ไม่สอดคลองกับกระแสประชาธิปไตย

จากกรณีดังกล่าว ดูธรรมดาๆ แล้ว ไม่น่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองขึ้นมาได้ เพราะ เป็นเพียงการแจกปฏิทินประจำปีตามธรรมเนียม ที่โดยทั่วไปใครๆ ก็ทำแจกกัน ไม่ว่าภาคเอกชน ห้างร้าน ดารา นักร้อง นักการเมือง ฯลฯ ที่ผ่านมา ก็ทำกันเป็นปรกติ

แต่จริงๆ แล้ว การทำปฏิทิน ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ทำกันเล่นๆ เพราะการทำปฏิทินแจก เป็นการกระทำที่มีเป้าประสงค์ของกิจกรรมนี้อย่างชัดเจน การทำปฏิทินที่เป็นรูปภาพเพื่อไปติดไว้ข้างฝาบ้าน หรือ จะแบบตั้งโต๊ะทำงาน ถือเป็นเครื่องมือสื่อสารที่คลาสสิกที่สุด เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ต้องการส่งเสริม และสร้างภาพจำให้กับผู้ใช้ที่มีต้นทุนต่อหน่วยต่ำมาก

การใช้ปฏิทินเป็นเครื่องบอกวันเดือนปี ที่มีคนใช้บ่อยมาก ทั้งที่ทำงาน ที่บ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป การนำภาพที่ต้องการให้ผู้ใช้จดจำ ระลึกถึง จึงเป็นเครื่องมือที่ดีทีสุดประเภทหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่า การพัฒนาเครื่องมือสื่อสาร เทคโนโลยีการสื่อสารจะล้ำหน้าไปมากน้อยเพียงใดก็ตาม ภาพปฏิทินก็ยังคงมีความสำคัญ ที่ใครๆ ก็ยังคงใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพจำ เพื่อส่งเสริมการขาย บริการ เพื่อสร้างความระลึกถึงต่อบุคคล หรือ สื่อที่ต้องการนำเสนออยู่ต่อไป

การทำปฏิทินของ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ในปีนี้ ก็เช่นกัน เป็นความจงใจที่ต้องการสื่อไปยังผู้รับให้นึกถึง โดยเฉพาะในช่วงนี้ ปีที่ผ่านมา และ ปีที่กำลังเดินข้างหน้า ภาคเกษตรกรเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบจากเรื่อง ราคาผลผลิตตกต่ำ จากภาวะเศรษฐกิจโลก แตกต่างกับยุคสมัย ที่ราคาสินค้าเกษตรถูกยก ดันราคาจากมาตรการที่เป็นนโยบายทางการเมือง เพื่อเอาอกเอาใจภาคเกษตรกร ความรู้สึกถึงความต่างที่กระทบโดยตรงกับเกษตรกร ไม่ว่า ข้าว ยางพารา ฯ ย่อมเห็นได้ชัดเจน

ประกอบกับความพยายามทางการเมืองที่สอดคล้องกัน ที่คนของพรรคการเมืองเริ่มออกมาพูด ถึงเรื่องเศรษฐกิจเรื่องมากท้องของประชาชน มากขึ้น มีความพยายามนำไปเปรียบเทียบ ในมุมที่ชาวบ้านได้ประโยชน์ โดยไม่ลงลึกถึงผลกระทบหรือปัญหา ตามวิถีแบบนักการเมือง ที่หวังผลทางการเมือง สิ่งเหล่านี้จึงถือว่าไม่ธรรมดา

เพียงเปิดศักราชของปี 2559 มา กระแสของการเมืองดูแล้วมีความร้อนแรงไม่น้อย จะด้วยเพราะปีนี้คดีต่างๆของนักการเมือง ของกลุ่มการเมือง โดยเฉพาะของ อดีตนายกยิ่งลักษณ์ อย่างกรณีคำสั่งทางปกครองฯเรื่องการชดใช้ความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท จะเริ่มทยอยเข้ามา

การเริ่มต้นเพื่อทำลายเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือของอีกฝ่ายจึงจำเป็นต้องเริ่มเร็ว และต่อเนื่อง เรียกว่าเปิดฉากลงมือก่อนสร้างกระแสไปเรื่อยๆ ทำลายฐานความแข็งแกร่งไปเรื่อยๆ และ

จากท่าทีของนักการเมืองปีนี้ดูแล้ว เริ่มมีความกล้ามากขึ้น กล้าออกมาวิจารณ์แรงๆ แบบไม่ยั้งเหมือนเมื่อครั้งการยึดอำนาจใหม่ๆ จะด้วยเหตุที่ คสช.ผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยตามกระแสโลก หรือ ฝ่ายการเมืองอาจจะมีความมั่นใจในฐานสนับสนุนมากขึ้นหรือไม่..? ปี 2559 ในทางการเมือง น่าจะเห็นระดับความร้อนแรงมากขึ้นจากปี 2558 ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน... 

เปลวไฟน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook