Exclusive "ตวง สาวิกา" 8 ปีที่หายไปจากพระธิดาสู่นางฟ้าแสนสวย

Exclusive "ตวง สาวิกา" 8 ปีที่หายไปจากพระธิดาสู่นางฟ้าแสนสวย

Exclusive  "ตวง สาวิกา"  8 ปีที่หายไปจากพระธิดาสู่นางฟ้าแสนสวย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงนานกว่า 8 ปี กลับมาอีกครั้งชื่อของอดีตนักแสดงสาว "ตวง สาวิกา กาจนมาศ" ก็ได้ถูกนำมาพูดถึงในโลกโซเชียลในช่วงสัปดาห์ก่อนถึงประเด็นเรื่องราวชีวิตของเธอจากที่เคยเป็นนักแสดงแต่ปัจจุบันเธอได้ทิ้งวงการก้าวไปสู่อาชีพ "แอร์โอสเตส" อาชีพที่ใครๆ ก็เรียกว่า "นางฟ้า" และปัจจุบันสาว "ตวง สาวิกา" ก็ได้เป็นพนักงานตอนรับบนเครื่องบิน (Cabin Crew) ประจำอยู่ที่สายการบินนกแอร์ในตำแหน่ง Cabin Leader 

และแน่นอนว่าจากชีวิตที่เคยโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมีผลงานมากมายโดยเฉพาะกับบทบาท "พระธิดา" ในละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ นั้นคือบทบาทที่ทำให้แฟนๆ ละครรู้จักและที่จดจำได้สาวตวงได้เป็นอย่างดี แต่แล้วเมื่อวันนึงเธอก็เลือกที่จะหายออกไปจากวงการบันเทิงแบบเงียบๆ งานนี้เธอจึงเป็นบุคคลที่น่าสนใจที่หลายๆ คนคงอยากรู้คำตอบว่าเพราะเหตุผลอะไรทำไมถึงหายไป ทำไมไม่เล่นละคร สัปดาห์นี้ทีมข่าว Sanook! News พร้อมแล้วที่จะมาเสิร์ฟคำตอบแบบเนื้อๆ เน้นๆ จากปากของเธอให้กระจ่างและหายคิดถึงอย่างกันแน่นอน

จากอาชีพ 'นักแสดง' สู่อาชีพ 'แอร์โฮสเตส' สายตะวันออกกลาง

บ่ายแก่ๆ ในวันที่สาวตวงไม่มีตารางบินเธอจึงได้เปิดโอกาสให้ทีมข่าว Sanook! News ได้สัมภาษณ์พูดคุยถึงชีวิตของตัวเองที่หายไปจากวงการเธอเล่าว่า จุดเปลี่ยนชีวิตของเธอที่ไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตสนั้นเกิดจากอยู่ในช่วงที่รอละครเปิดกล้องจึงได้ลองไปสมัครเพราะอยากลองและมีคำถามในใจที่อยากรู้ว่าทำไมผู้หญิงหลายๆ คนถึงอยากทำอาชีพนี้บวกกับเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวและนั้นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้เธอค่อยๆ หายหน้าไปจากวงการและไปใช้ชีวิตต่างแดน

"จริงๆ ตวงว่าชีวิตตวงมันมาแบบเหมือนพรหมลิขิต Destiny Go With The Flow อาชีพลูกเรือไม่ได้เป็นอาชีพในฝันเลยไม่ได้รู้สึกอยากเป็นจริงๆ แต่ลองไปสมัครขำๆ ช่วงรอละครเปิดกล้องและตวงได้สายการบินในประเทศก่อนคือสายการบินโอเรียน ตวงต้องขอบคุณโอเรียนนะคะที่สร้างแรงบันดาลใจให้ตวงเยอะมาก พอได้ลองไปทำ ตวงรู้ตัวเลยว่าเราเป็นคนชอบเทคแคร์ ชอบดูแล ต่อให้ไฟล์ทที่แย่เลวร้ายแค่ไหนมันรู้สึกเหมือนเป็นความท้าทายเมื่อมันจบไฟล์ทเราสามารถผ่านไปได้ก็รู้สึกดี แต่ตอนนั้นวงการบันเทิงก็ยังสนุกอยู่นะ ตวงสนุกกับทุกอย่างที่ทำค่ะ แต่พอเริ่มบินเยอะงานในวงการก็เลยเริ่มน้อยลง และตอนหลังตวงได้สายการบินที่ต่างประเทศด้วยก็เลยบ๊ายบายเลย และงานลูกเรือ พอเราเริ่มบินมากขึ้นมันก็อยากเติบโตขึ้น กับสายการบินต่างประเทศอยากได้ประสบการณ์ และอย่างสายการบินตะวันออกกลางสายกาต้าร์ที่ตวงได้จริงๆ มันก็ไม่ได้ง่ายก็เป็นแบบชาเลนจ์เราอีกอย่าง" เธอเริ่มเล่า

"ก่อนหน้าจะไปอยู่โดฮาตวงไปอยู่แอร์เอเชียแต่ Base ที่มาเลเซียก็ยังใกล้บ้านจุดเปลี่ยนจริงๆ ตอนนั้นคือคุณพ่อตวงเสียกะทันหันตวงก็เลยกลับมาทำเรื่องหลายๆ อย่างช่วงนั้นก็เลยขอ Unpaid Leave และตวงก็กลับไปอเมริกาทำเรื่องและมันยุ่งมากจนตวงบอกบริษัทว่าตวงลาออกดีกว่าเพราะรู้สึกมันนานสองสามเดือนแล้วเรื่องไม่จบซักที และระหว่างช่วงเวลานั้นเพื่อนก็ชวนสมัครสายการบินกาต้าร์ แต่ว่าใจตอนนั้นก็อยากกลับมาเมืองไทยนะ แต่เหมือนว่าคงยังไม่ได้กลับจริงๆ เพราะได้สายการบินกาต้าร์ก็เลยไปอยู่ที่โดฮาส่วนงานในวงการก็ไม่ได้เห็นกันตั้งแต่ตวงไปอยู่มาเลเซียค่ะ หายจากวงการไป 7-8 ปี ไปแบบเงียบๆ ค่ะ"

การใช้ชีวิตเมื่อต้องไกลบ้านให้มีความสุข เธอบอกว่า 'เธอโชคดีที่ได้เพื่อนร่วมงานดี'

"ชีวิตที่โน่นเหงามั้ยต้องยอมรับว่าที่ตวงอยู่ได้ก็เพราะมีเพื่อนคนไทยด้วยกันแต่ Roommate ตวงเป็นคนเปรูกับเกาหลีอยู่กันมาสามปีก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยเป็นคนที่คล้ายๆ กันพูดง่ายแม้จะต่างชาติต่างภาษาน่ารักมากๆ ค่ะและก็จะมีกลุ่มเพื่อนคนไทยถ้าวันไหนไม่ได้บินหยุดก็จะชวนกันไปกินข้าว แต่ต้องยอมรับว่าโดฮาไม่ค่อยมีอะไรไม่มีที่แฮงค์เอ้าท์ ถ้าจะมีก็เป็นที่โรงแรม คือชีวิตดูเวอร์ คือเช็คอินโรงแรมตลอดไปกิน Brunch ไปกิน Dinner จริงๆ เปล่าไม่มีอะไรจะกิน คือมันไม่มีร้านแบบบ้านเราจะกิน Brunch ก็ต้องไปกินโรงแรม จะ Drink ก็ต้องไปโรงแรมเลยดูชีวิตดัดจริตมากค่ะ"

เป็น 'ลูกเรือไทย' เจอคนไทยอาจจะดูเหมือน 'หยิ่ง' แต่ความจริงไม่ใช่

"เมื่อก่อนคนไทยจะไม่ค่อยเยอะ ทำไมก็ไม่รู้ทั้งที่ไฟล์ทกรุงเทพก็มากมาย แต่เจอตอนทำไฟล์ทกาต้าร์จะมีไฟล์ท โดฮา-กรุงเทพ นอนพัก แล้วก็ กรุงเทพ-ฮานอย-กรุงเทพ นอนพัก แล้วกลับโดฮา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกรุ๊ปทัวร์ไปเวียดนามก็จะเป็นคนไทย ตอนนั้นก็ยังอยู่ Economy ก็ทำตัวเงียบๆ แต่คนยังก็จำเราได้นะ แต่ว่าพอดีไฟล์ทมันสั้น แค่ชั่วโมงกว่าแล้วของกาต้าร์จะมี Service ที่ต้องทำเยอะเราก็จะยุ่งๆ บางทีคนอยากทักอยากคุยกับเรา เราก็ต้องแบบเดี๋ยวซักครู่นะคะ ดูหยิ่งเราแต่ไม่ใช่ และมีเคยตอนปีที่แล้วตวงบินกลับจากเวียนนา มีครอบครัวนึงเป็นคนไทยค่ะ แล้วคุณป้าแขนหักไปเที่ยวแล้วคุณป้าล้ม เราก็คุยเจ๊าะแจ๊ะๆ เพราะแบบว่าผู้โดยสารคนไทย ไม่ค่อยได้เจอลูกเรือคนไทย พอเจอก็อยากคุยอะไรแบบนี้ค่ะ แต่พอมาที่นกแอร์ ผู้โดยสารอาจจะคุ้นหน้าตวงด้วย ก็จะมี เอ๊ะ! อ๊ะ! แล้วนกแอร์เขาจะมีการแนะนำตัว เขาจำได้บ้างก็ขอถ่ายรูป เราก็จะขอบคุณค่ะ ที่จำได้เพราะตวงเองหายไปนานอย่างที่ตวงบอกว่าตวงไม่ได้คิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงขนาดนั้น ตั้งแต่ไหนแต่ไร ตวงคิดว่าถ้าเราคิดว่าเรามีชื่อเสียง ความคิดบุคลิกเรามันจะไปคนละแบบ อีโก้มันจะมา เราจะมีความเป็นอัตตาตัวตนสูงตวงเลยไม่เคยคิดเลยว่าเป็นคนมีชื่อเสียง ตวงเลยตกใจ เซอร์ไพรส์ มากกว่าเพราะตวงหายไปนานมาก แต่ก็ขอบคุณมากนะคะที่จำได้"

จากอาชีพนักแสดงที่ 'ถูกเอาใจ' เป็นอาชีพที่ 'ต้องเอาใจ'

"สำหรับตวงมันอาจเป็นจังหวะด้วยค่ะ แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องมองว่าคนในวงการบันเทิง หลายๆ คนก็อยากเป็นแอร์โฮสเตส เพราะแบบภายนอกทุกคนมองมาแล้วมันดูสง่า มันดูสวย มันดูดี ได้เที่ยว มันมีแต่ด้านดีเวลาคนมองแอร์ก็รู้แค่แบบมันสวย ได้เที่ยว คือตวงสนุก แต่งานจริงๆ เนื้องานจริงๆ ของลูกเรือมันไม่ใช่แค่นั้น อย่างที่หลายๆ คนบอกตลอดว่าลูกเรืองจริงๆ คืออยู่เพื่อ Safety เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร อันนั้นคือมันเป็น extra ที่เราทำ บางคนรับไม่ได้ว่ามันเป็นงานบริการนี้คือเราให้ service คนอย่างไรตวงไม่รู้ แต่ตวงรู้สึกมีความสุข ตวงรู้สึกดีใจ ตวงอยู่ที่นี่ตวงเป็น Purser ตวงจะบอกน้องทุกคนเสมอและบอกตัวเองเสมอเหมือนกันว่าลองดูตัวเอง ถ้าทุกครั้งที่ผู้โดยสารมีปัญหา แล้วเรามองปัญหาผู้โดยสารเหมือนเป็นปัญหาของเรา ลองสังเกตนะ เราจะพยายามทำทุกอย่างให้ปัญหาของผู้โดยสารมันสามารถแก้ได้ ตวงก็สอนตัวเองแบบนี้ ก็ไม่รู้จะคิดไม่ดีไปทำไมเพราะเราเจอคนเยอะ ถ้าเราเอาเข้ามาเยอะๆ ตัวเราเองนั่นแหละ บางคนเขาพูดอะไรออกมาเขายังไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาทำร้ายความรู้สึกใครหรือเปล่า ถ้าเราเก็บทุกอย่าเอามาคิดเอง มันก็จะกลายเป็นตัวเราเสียสุขภาพจิตตัวเองค่ะ"

จุดเปลี่ยนชีวิตทิ้งรายได้ 'หลักแสน' กลับสู่กลับสู่เมืองไทย

แม้ว่าอาชีพแอร์โฮสเตสจะเป็นอาชีพที่ได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ และรายได้ที่ค่อนข้างสูง แต่นั้นก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ความสุขทางใจที่แท้จริง สาวตวงเล่าว่า ชีวิตของเธอช่วงที่ทำงานเป็นลูกเรือนั้นเธอใช้ชีวิต ค่อนข้าง extreme ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย แต่เมื่อชีวิตโตมาถึงจุดนึงที่อยากจะใช้เวลากับคุณแม่มากขึ้นเธอจึงเลือกทิ้งรายได้หลักแสนกลับประเทศไทย

"ตอนอยู่ที่โดฮาตวงยอมรับว่ารายได้มันเยอะแต่ก็มาคิดว่าเราต้องได้เงินเท่านี้ไหมถ้ายอมรายได้ลดลงกว่านี้นิดหน่อย แต่ Happiness ที่เราไม่ได้นับมันมากกว่าหรือเปล่า แล้วมานั่งคิดดูเราไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรที่ต้องรับผิดชอบขนาดนั้น ตวงโชคดีที่พ่อกับแม่สอนดีไม่ได้มีหนี ไม่มีอะไรที่มากวนใจ สองคืออายุมันก็ตามวัยเราสนุกเกินไปหรือเปล่าขณะที่เราใช้ชีวิตเพลิดเพลิน ซึ่งจริงๆ ตวงไม่ได้อยู่กับครอบครัวมาเป็นสิบปีแล้วคิดดูมันจะอีกแค่ไหนไม่ได้แช่ง ตวงอาจจะไปก่อนก็ได้เราไม่รู้หรอกอาจจะเป็นอะไรไปก็ได้ไม่รู้หรอกก็เลยแบบกลับแล้วเป็นจังหวะที่ NokAir ประกาศรับ Cabin Leader ด้วยประสบการณ์เราก็สามารถสมัครได้เลยตวงพึ่งกลับมาช่วงมิถุนายนเอง พอกลับมามีแต่คนบอกว่าตวงติดแม่ แต่ตวงจะบอกว่าตวงไม่ได้ติด แค่แบบช่วงที่ผ่านมาตวงไม่ได้ดูแลเขา เพราะฉะนั้นพอตวงมีเวลา ตวงก็จะขออยู่กับแม่ก่อนคุณแม่มาก่อนนิดหนึ่ง ตวงบินเช้าแล้วตวงกลับมาบ่าย ตวงก็ยังพาเขาไปหาหมอตรวจสุขภาพไปกินข้าว หรือถ้าตวงบินเย็นตวงก็พาเขาไปซื้อของเข้าบ้านที่สำคัญได้ใส่บาตรตอนเช้ากับแม่ตวงมีความสุขดี"

'เป้าหมายชีวิต' ในงานอาชีพแอร์โฮสเตส

"ตวงคงไม่บินจนตายนะ แต่ก็จะบินเท่าที่บินได้เพราะมันเป็นงานที่เราชอบ เพราะแอร์ก็มีอายุของงานตวงกลับมาที่นี่คือเป็น Cabin Leader มันก็มีการโตในอาชีพ มันก็ต้องดูในอนาคตว่าตวงมีศักยภาพแค่ไหน ถ้ามีโอกาสก็คงเป็น Supervisor เป็น Trainer ด้วยประสบการณ์เราความรู้เรา ตวงคิดว่าตวงสามารถที่จะถ่ายทอดให้กับน้องๆ ได้ คือไม่ได้เก่ง แต่ด้วยประสบการณ์ สิ่งที่เราเจอ ความรู้ที่เราสั่งสมมาน่าจะพอที่จะให้น้องๆ เป็น CREW ที่ดีได้ค่ะ"

ย้อนวันวาน 'ตวง สาวิกา' กับชีวิตใน 'วงการบันเทิง'

แม้จะห่างหายวงการไปนานพักใหญ่ แต่เมื่อย้อนความหลังผลงานในวงการบันเทิงแล้วนั้น สาวตวงเล่าว่า คงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ในวันวานที่เธอเคยทำงานร่วมกับ พี่ๆ น้องๆ ในวงการแม้กระทั่งปัจจุบันนักแสดงบางคนที่เจอกันบนเครื่องก็จะเข้ามาพูดคุยทักทายพร้อมกระแสข่าวที่เราหายไปถูกเสนอออกไปนั้นก็ทำเอาเธอตกใจไม่น้อยที่รู้ว่ายังมีคนคิดถึงและจดจำได้

"วงการบันเทิงให้อะไรกับตวงเยอะอย่างเห็นได้ชัดก็คือให้โอกาสอย่างช่วงนั้นสารภาพจริงๆ ตวงไม่รู้หรอกว่าตวงมีชื่อเสียงแค่ไหน แต่เราก็สนุกกับงานก็ทำไป แต่ช่วงนั้นเราเล่นละครเราก็มีโอกาสได้ทำอะไรบางทีเราก็คิดว่าไม่เคยแบบที่จะทำ พอเรามีโอกาสได้ทำเรารู้สึกว่ามันคือความสุข ครั้งนึงตอนนั้นตวงยังเล่นละครอยู่แล้วตวงไปทำบุญที่บ้านเด็กพิการไปกับเพื่อน พอเข้าไปก็เจอน้องๆ ที่พิการก็มีน้องคนนึงแขนซ้ายไม่มี ขาไม่มี มีแขนขวาข้างเดียว แต่น้องว่ายน้ำเก่งมากตวงก็ไปยืนดูแล้วพอเขาเห็นเราเขาแฮปปี้มากเขาดีใจเขาจำได้มันเป็นโมเม้นท์ที่ไม่เคยคิดว่าคนๆ นึงจะทำให้อีกคนนึงเขามีความสุขได้ขนาดนี้ในความที่เป็นเราโดยที่เราก็ไม่ได้ไปบริจาคไปทำอะไรให้เขา แค่เขาเห็นเราก็มีความสุข ก็ขอบคุณกับงานในวงการกับโอกาสที่ได้รับทำให้เราเป็นคนที่เป็นที่รู้จักและเขาชื่นชมเราก็ขอบคุณทุกอย่างที่สั่งสมมาตั้งแต่เล่นละครมาค่ะ"

สุดเซอร์ไพร์สและ 'ตกใจ' เมื่อมีข่าวตัวเองถูกแชร์ในโลกโซเชียล

"ไม่ต้องใครเลยน้องๆ ลูกเรือที่นกแอร์ตัวดี น้องๆ ก็ถามเจ้มันเกิดไรขึ้นตวงก็บอกฉันไม่รู้ ก็ขอบคุณค่ะมากๆ ไม่รู้จะพูดยังไงเลยทั้งตกใจและเซอร์ไพร์ส ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรไม่รู้ หรือทุกอย่างที่ทำให้เราเป็นเราทำให้คนไม่ลืม อย่างทุกวันนี้ตวงกลับมาอยู่เมืองไทยหลายคนก็จำได้จริงๆ นะ อย่างไม่กี่วันที่มีข่าวลงตวงไปแลกเงินจะไปเฉิงตู คนที่เคาท์เตอร์ก็บอกเพิ่งอ่านข่าวตวงเมื่อวานเลย น้องๆ Ground Staff ก็เหมือนกันจำได้ ฉะนั้นอย่าเกรี้ยวกราดกับพี่ (หัวเราะ) และจะมีหลายๆ คนก็บอกว่าเคยเจอไฟล์ทนั้นไฟล์ทนี้ น้องตวงดูแลคุณแม่เขาด้วย ดูแลลูกเขาด้วย ตวงขอบคุณนะสิ่งที่เราปรารถนาดีกับผู้โดยสาร อยากให้เขามีความสุขรู้สึกดีกับสิ่งที่เราทำให้เพราะบางทีเราทำไปเราก็ไม่รู้หรอกว่าเขารู้สึกยังไงพอใจไม่พอใจกับความปรารถนาดีของเราอยากให้เขามีความสุขกับการเดินทางบนไฟล์ทของเราแล้วพอวันหนึ่งเรามารู้ว่าเขามีความสุขจริงๆ กับสิ่งที่เราทำให้มันยิ่งทำให้เรารักอาชีพของเรานะมันเป็นกำลังใจให้เรา"

'ตวง สาวิกา' ฝาแฝด 'พิ้งค์กี้'

"ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเอาจริงๆ นะตวงกับน้องเหมือนเป็นพรหมลิขิต เล่นละครเรื่องแรกด้วยกัน มณีนพเก้า ละครจักรๆ วงศ์ๆ น้องกับตวงชื่อสาวิกาเหมือนกัน เกิดวันเดียวเดือนเดียวกัน เพื่อนในวงการที่สนิทๆ ก็ไม่เยอะแต่พิ้งค์กี้ยี่สิบแล้วนะ ด้วยความที่ชื่อเหมือนกันด้วยไง สาวิกา บางทีเราก็ ไชยเดช ก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้น้องไปได้ดีกว่าพี่เยอะแล้ว ตอนที่น้องแต่งงาน ตอนนั้นตวงอยู่กาต้าร์ จริงๆ สามารถขอ Day Off ได้ แต่น้องมาบอกตอนที่เขาปิด Request แล้ว ก็เลยบอกน้องว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวลองพยายามดูใหม่ แล้วแบบคือโชคดีมากตวงต้องทำไฟล์ทมากรุงเทพฯ พอดีมาถึงเช้า แล้วไปงานแต่งน้องเลยตอนบ่าย ก็มาแบบมาถึงไม่ได้นอนก็ไปเลยโชคดีมาก คือแบบมันผูกพันมันมีอะไรเหมือนเป็นจังหวะ ตอนนั้นเล่นเรื่อง กษัตริยา ก็เล่นเป็นพี่น้องกันตอนนี้ก็ยังคุยกันคุณแม่น้องกับคุณแม่ตวงก็คุยกัน ก็เป็น Relationship ที่ดีค่ะ"

ฝากถึงแฟนๆ ละครและผู้โดยสาร

"ยินดีจริงๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ยังจำได้เพราะตวงว่าตวงหายไปนาน อย่างตอนนี้ตวงกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรอยู่นกแอร์ ก็ขอบคุณที่ยังจำตวงได้ มันก็เป็นกำลังใจให้ตวง ก็ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความสุขกับสิ่งที่ตวงทำไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนที่ตวงแสดงละคร แล้วตอนนี้ตวงก็ยังอยากให้เขามีความสุขกับสิ่งที่ตวงทำคนอาจจะมองอาชีพนี้ดูสวยด้วยกริยา ด้วยบุคลิก แต่เนื้องานจริงๆ มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะทำให้เรารู้สึกว่า Life dead ชีวิตเรามันไม่ได้ยาวเนื้องานไม่ใช่นางฟ้าทำงานกับคนเพื่อความพอใจและความปลอดภัย ทำงานหนักบางคนก็ยังคิดว่าอาชีพนี้ไม่มีอะไรเสิร์ฟเช็ดห้องน้ำ แต่เราเช็ดเพื่อใครล่ะก็เพื่อผู้โดยสารจะได้ความสะดวกสบายอย่างที่เราบอกสิ่งที่ปรารถนาที่สุดแน่นอนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย คุณมีความสุขในการเดินทางสะดวกสบายในการเดินทางเราถึงต้องบริการคุณ เสิร์ฟอาหารคุณทำห้องน้ำให้คุณดังนั้นการดูถูกว่าเราก็แค่กวาดห้องน้ำสุดท้ายคนที่ได้ผลประโยชน์คือคุณไม่ใช่เราค่ะ"

เครดิตภาพ : Sinsamoot

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ Exclusive "ตวง สาวิกา" 8 ปีที่หายไปจากพระธิดาสู่นางฟ้าแสนสวย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook