ตรวจสต๊อกอสังหาฯ คอนโดฯ 4 หมื่นยูนิตเสี่ยงสูง

ตรวจสต๊อกอสังหาฯ คอนโดฯ 4 หมื่นยูนิตเสี่ยงสูง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4076

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลสำรวจภาคสนามภาคสนามโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล 3 ไตรมาสแรกปี 2551 ว่า มีโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายรวมทั้งหมด 1,126 โครงการ คิดเป็นจำนวนยูนิต 244,816 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 6.125 แสนล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 2.5 ล้านบาท/ยูนิต

เป็นโครงการแนวราบ 913 โครงการ จำนวนยูนิต 155,819 ยูนิต แบ่งเป็น ในจำนวนนี้เป็นบ้านเดี่ยว 42% ทาวน์เฮาส์ 41% บ้านแฝด 9% อาคารพาณิชย์ 5% และที่ดินเปล่าราว 3% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 90,911 ยูนิต ขายได้ 79,000 ยูนิต คิดเป็น 87% เหลือขาย 11,911 ยูนิต คิดเป็น 13%, อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29,424 ยูนิต ขายได้ 10,095 ยูนิต คิดเป็น 34% เหลือขาย 19,329 ยูนิต คิดเป็น 66% และที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง 35,484 ยูนิต ขายได้ 4,230 ยูนิต คิดเป็น 12% เหลือขาย 88%

คอนโดมิเนียม 213 โครงการ รวม 88,997 ยูนิต ในจำนวนนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 36,395 ยูนิต ขายได้ 32,850 ยูนิต คิดเป็น 90% เหลือขาย 3,545 ยูนิต คิดเป็น 10%, ระหว่างก่อสร้าง 41,154 ยูนิต ขายได้ 29,028 ยูนิต คิดเป็น 71% เหลือขาย 12,125 ยูนิต คิดเป็น 29% และยังไม่ได้ก่อสร้าง 11,449 ยูนิต ขายได้ 11,449 ยูนิต คิดเป็น 62% เหลือขาย 4,392 ยูนิต คิดเป็น 38%

สำหรับราคาขายเฉลี่ยคอนโดฯ แบ่งได้ดังนี้ ระดับราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาท สัดส่วน 27%, ราคา 1-2.99 ล้านบาท, สัดส่วน 46%, ราคา 3 -4.99 ล้านบาท สัดส่วน 13%, ราคา 5 -7.49 ล้านบาท สัดส่วน 5% และราคาสูงกว่า 7.5 ล้านบาท สัดส่วน 8%

สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ กล่าวว่า คอนโดฯ กลุ่มที่ขายดีที่สุด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีคือกลุ่มระดับราคา 1-2.99 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการ ดูดซับที่ 33% หรือใช้เวลาในการขายประมาณ 3 ไตรมาส ส่วนโครงการแนวราบอัตราดูดซับอยู่ที่ 14% ใช้เวลาในการขาย 7 ไตรมาส อย่างไรก็ตามคาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 4/51 ถึงปัจจุบันการดูดซับมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี

คอนโดฯ สร้างใหม่จดทะเบียนใน ปี 2551 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตัวเลขอยู่ที่ 30,000 ยูนิต คิดเป็น 40% ของที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนรวม 75,000 ยูนิต คาดว่าในปี 2552 หน่วยสร้างเสร็จจดทะเบียนจะยังอยู่ในระดับสูงประมาณ 30,000 ยูนิต เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นฯ ของภาครัฐ

ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตลาดอสังหาฯ โดยรวมในปีนี้คือ โครงการคอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 41,000 ยูนิต หรือเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนที่เปิดขายทั้งหมด ถือว่าเป็นโครงการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเผชิญกับปัญหากำลังซื้อชะลอตัว อาจทำให้โครงการขาดสภาพคล่อง ต่างจากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และที่ยังไม่ได้ก่อสร้างที่สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า

ผมเป็นห่วงสินค้าที่จับตลาดไฮเอนด์ จับกลุ่มลูกค้าต่างชาติในเมืองพัทยา ภูเก็ต หัวหิน ที่ต้องเผชิญกับปัญหากำลังซื้อ ไม่มี ถ้าเป็นอย่างนั้นไตรมาส 2 และ 3 ปีนี้ น่าจะได้เห็นหลายๆ โครงการขาดสภาพคล่องจนบางแห่งต้องตัดสินใจขายทิ้ง

ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ มองว่า ไตรมาส 1/52 ภาวะตลาดยังไม่ค่อยดีนัก แต่น่าจะคึกคักตั้งแต่ไตรมาส 2/52 เป็นต้นไป เพราะจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ตัวเลขที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 61,000 ยูนิต เป็น 71,000 ยูนิต โดยกลุ่มบ้านราคาที่ขายดีที่สุดน่าจะเป็นระดับราคา 1.5-3 ล้านบาท หน้า 9

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook