เปิดหมด!! โอ วรุฒ ชีวิตติดกรรม ขอบวชเพื่อเริ่มต้นใหม่

เปิดหมด!! โอ วรุฒ ชีวิตติดกรรม ขอบวชเพื่อเริ่มต้นใหม่

เปิดหมด!! โอ วรุฒ ชีวิตติดกรรม ขอบวชเพื่อเริ่มต้นใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่จัดสินใจบวชเมื่อไม่นานมานี้ จนหลายคนก็สงสัยว่าเป็นการบวชเพื่อหนีปัญหาชีวิตหรือเปล่า สำหรับดาราแสดงรุ่นใหญ่ "โอ วรุฒ วรธรรม" ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวออกมาชี้แจงผ่านสื่อว่า สาเหตุที่ตนบวชก็เป็นเพราะอยากทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และที่สำคัญก่อนหน้าก็ยังมีเหตุให้เจ็บตัวอยู่บ่อยๆ โดยบางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุ...

หลังจากบวชแล้วชีวิตเป็นยังไงบ้าง ?
"ทำให้ชีวิตดีขึ้นเยอะครับ พอคนเรามีสติมีสมาธิเวลาเราคิดเราทำอะไรมันก็เกิดการไตร่ตรองไม่ว่าจะเป็นการคิดก่อนที่จะพูด"

สาเหตุที่ตัดสินใจบวชคืออะไร ?
"ประเด็นใหญ่เลยก็คือบวชให้คุณพ่อคุณแม่ ประมาณ 14 วัน ส่วนสำหรับตัวผมเองก็เพราะรู้สึกว่าช่วงหลังดวงไม่ดีมากๆ อยู่ดีๆ ก็เป็นแผลรายวัน จนบางครั้งแผลก็เริ่มใหญ่ขึ้น จริงๆ แล้วมันเริ่มตั้งแต่ช่วงที่ผมประสบอุบัติเหตุรถชนและโดนซี่โครงทิ่มปอดตอนนั้นก็คือหนักมากแล้ว แต่จากนั้นมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้ตัดสินใจลองบวชดูดีกว่าเผื่อเราจะมีเคราะห์มีกรรมหรือมีเจ้ากรรมนายเวรตามเราอยู่"

หลังจากบวชแล้วชีวิตดีขึ้นไหม ?
"ดีขึ้นครับ ตั้งแต่รู้จักการทำสมาธิ รู้จักสติ รู้จักการคิด มันก็ทำให้เราเดินไปในทางที่มีความคิดไม่เดินไปในทิศทางที่เลอะเทอะเรื่อยเปื่อย"

แต่พอมีข่าวบวชหลายคนก็มองว่าเราบวชเพื่อหนีปัญหาชีวิต ?
"ผมไม่มีปัญหาชีวิตนะครับ แต่ผมบวชให้พ่อแม่เพราะกลัวว่าเดี๋ยวปล่อยเวลามากๆ แล้วมันจะไม่ทัน"

ชีวิตปกติตอนนี้ของเราทำอะไรอยู่ ?
"กลับมาอยู่กรุงเทพและก็เริ่มรับงานปกติแล้วครับ"

พอเราไปบวชทำสิ่งดีๆ แต่กลับโดนกระแสข่าวด้านลบรู้สึกยังไงบ้าง ?
"ก็ไม่อะไรนะครับ คือถ้าเราหลบหายไป ไปอยู่ในป่าในเขาก็ว่าอย่าง แต่นี่เราไม่ได้หลบเพราะผมแค่ไปบวช ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายอยู่แล้วที่ต้องทำแบบนี้เพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่"

ยังติดต่อกับอดีตภรรยาและลูกอยู่ไหม ?
"ไม่บ้างครับนานๆ จะโทรคุยกันสักที แต่ว่าตอนนี้เขามีความสุขอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นกับแฟนใหม่เขาที่สามารถดูแลเขาและลูกได้อย่างดี ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็อยากให้ลูกได้สนิทกับคุณพ่อใหม่เขานะเขายังเด็กอยู่อายุแค่ 7 ขวบ ผมอยากให้จำคุณพ่อใหม่เขามากกว่า"

สาเหตุที่เราต้องการเฟดตัวออกมาจากลูกเป็นเพราะน้อยใจอะไรหรือเปล่า ?
"ไม่ได้น้อยใจอะไรนะครับ คือว่าผมเองก็ไม่ได้มีเวลาไม่ได้มีกำลังที่จะดูแลเขาอยู่แล้ว ถ้าเราเห็นว่าทางนู้นเขาดีกว่า เพราะถ้าให้พูดกันตามตรงสามีใหม่เขาเป็นคนมีฐานะเราก็อยากให้เขาอยู่สบายๆ เรื่องค่าเลี้ยงดูอะไรตอนนี้เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบแล้วด้วย"

กลัวไหมว่าถ้าเราทำแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่ควรมีมันจะหายไป ?
"อันนี้ผมก็คงต้องทำใจครับ พยายามบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรแม้ลึกๆ เราจะมีน้อยใจบ้างแต่เราก็ต้องยอมเสียสละเพื่อให้คนอื่นเขามีความสุขในอนาคต"

ลูกเราทราบไหมว่าเราต้องการเฟดตัวเองออกมาเพื่อให้เขามีชีวิตครอบครัวที่ดี ?
"ลูกเขาไม่ทราบหรอกค่ะเขายังไม่โตพอที่จะรู้ว่าอะไร และยังไม่โตพอที่จะสับสนว่าคนไหนพ่อคนไหนแม่ ในส่วนของอดีตภรรยาผมเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะในวันที่เราคุยกันเขาก็โอเค ลูกเรายังคงมีความสุขดีเนื่องจากสามีใหม่ของเขาก็ทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดีของลูกผมครับ"

ถ้าสมมุติเราเกิดคิดถึงลูกขึ้นมา เราจะใจอ่อนเข้าไปหาเขาไหม ?
"เอ่อ...ผมอาจจะต้องทิ้งระยะให้นานกว่านี้อีกหน่อยอยากให้เขาได้สนิทกับพ่อใหม่เขา เพราะถ้าเราไปเยี่ยมเราจะได้ไปในฐานะคุณอาดีกว่า ถ้าหากในอนาคตมีโอกาสได้เจอกันและเขาเรียกผมว่าอาผมก็ยอมรับได้ครับ แต่ก็ไม่แน่ในอนาคตเขาอาจจะรู้จากทางโซเชียลอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งผมเชื่อว่ามันคงหักลบกันได้ ส่วนอดีตภรรยาเขาก็ไม่ได้ปิดกั้นผมนะจะให้เข้าไปเจอเมื่อไหรก็ได้ อีกอย่างตอนนี้ลูกก็ยังเรียกผมว่าพ่ออยู่นะ"

ถ้าหากในอนาคตลูกไม่รับพ่อใหม่และยืนยันที่จะเรียกเราว่าพ่อเราจะโอเคไหม ?
"ยอมรับได้ครับถ้าหากเขารู้แน่ชัดว่าผมคือพ่อ ผมอาจจะไปหาหรือไปเยี่ยมเขาบ่อยกว่าเดิมจากที่ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเลย"

หลังจากนี้เราวางแพลนชีวิตตัวเองไว้ยังไงบ้าง ?
"ก็หลักๆ คงจะต้องทำงานในวงการต่อไป รับงานให้มากขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้ท่านมีความสุขที่สุด ส่วนเรื่องความรักถ้าจะให้ไปจีบใครตอนนี้ก็คงไม่มีใครเอา"

หลายคนอาจสงสัยว่าเรายังดื่มเหล้าอยู่หรือเปล่า ?
"อันนี้ผมจะไม่โกหกนะ ผมยังดื่มอยู่ครับแต่ว่าดื่มเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเข้าสังคมไม่ได้กินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนกินเพราะผมมีปัญหาอยากประชดชีวิตจะได้หลับๆ ไปซะ ตอนนี้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากขึ้นแล้ว ถามว่าจะเลิกขาดเลยไหมก็คงทำไม่ได้หรอกครับเพราะผมยังมีเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่กินสังสรรค์กันอยู่ทุกเดือน"

นอกจากงานในวงการแล้วตอนนี้เรามีงานอื่นที่รับผิดชอบไหม ?
"มีอยู่ 2 อย่างครับ ก็คือธุรกิจสปาที่ทำกับหุ้นส่วนใช้ชื่อว่า เรือนวารี กับธุรกิจอาหารเสริมเกี่ยวกับการรักษาเซลล์ในร่างกาย แต่ตัวอาหารเสริมไม่มีหน้าร้านนะครับผมใช้วิธีขายออนไลน์ ซึ่งทั้งสองตัวก็ถือว่าไปได้ดีและก็น่าจะประสบความสำเร็จ"

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ เปิดหมด!! โอ วรุฒ ชีวิตติดกรรม ขอบวชเพื่อเริ่มต้นใหม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook