แบงก์ชาติผวาเศรษฐกิจหด-ดันหนี้เน่าพุ่ง มาร์คไม่หวั่นเงินรัฐร่อยหรอ-ยันทุนสำรองเหลือเพียบ
นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ปีนี้ จะได้รับแรงกดดันอย่างมากที่จะเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือนปรับลดลง และกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ จนอาจทำให้เอ็นพีแอลปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่จะเกิดเอ็นพีแอลในระบบมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจะกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศรุนแรงแค่ไหน รวมถึงการบริหารจัดการของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งว่าจะสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้หรือไม่
ถ้าดูข้อมูลจากประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาพบว่า หากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปรับลดลง 1% ก็มีความเป็นไปได้ที่เอ็นพีแอลในระบบจะเพิ่มขึ้น 1% แต่ขณะนี้การบริหารจัดการของธนาคารพาณิชย์ถือว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่น่าพอใจ สามารถรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาเอ็นพีแอลมากนัก นายบัณฑิต กล่าว
ทั้งนี้ ในปีนี้ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ปรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดปัญหาเอ็นพีแอลรายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในปีที่ผ่านมา ธปท. รู้สึกพอใจกับการแก้ปัญหาเอ็นพีแอลของธนาคารพาณิชย์ที่ลดลง 56,000 ล้านบาท โดยล่าสุด ณ เดือน ธ.ค. 51 เอ็นพีแอลที่ยังไม่หักสำรองหนี้สูญลดลงอยู่ที่ 5.3% เทียบกับปี 50 อยู่ที่ 7.3% ส่วนเอ็นพีแอลสุทธิลดลงอยู่ที่ 2.9% จากเดิมอยู่ที่ 3.9%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์ยังติดตามลูกค้ารายเก่า เพื่อให้รู้ปัญหาของลูกค้าและคอยให้คำแนะนำการบริหารความเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิดมากขึ้นอยู่แล้วเพื่อให้ลูกค้ามีการปรับตัว และการให้ความสำคัญต่อการปรับโครงสร้างของธนาคารพาณิชย์ให้มีความคล่องตัว และยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ โดยไม่เพิ่มแรงกดดันต่อลูกค้าจนทำให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอลในระยะยาว
ส่วนตัวเชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะแข่งขันกันมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องมีการบริหารงานที่มีความสมดุลทั้งส่งเสริมให้มีการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต สภาพคล่อง และภาวะเศรษฐกิจโลก เพื่อไม่ให้เกิดเอ็นพีแอลส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ นายบัณฑิตกล่าว