ส.ว.เรืองไกร เข้ายื่นป.ป.ช. สอบ3รมต.ลงมติพ.ร.บ.งบฯ

ส.ว.เรืองไกร เข้ายื่นป.ป.ช. สอบ3รมต.ลงมติพ.ร.บ.งบฯ

ส.ว.เรืองไกร เข้ายื่นป.ป.ช. สอบ3รมต.ลงมติพ.ร.บ.งบฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส.ว.เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นป.ป.ช. สอบ 3 รมต.ที่ลงคะแนนร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552

(2ก.พ.) เช้าวันนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม จากกรณีการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 177 วรรค 2 ที่ระบุว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้ารัฐมนตรีผู้ใดเป็น ส.ส.ในขณะเดียวกันด้วย ห้ามมิให้รัฐมนตรีผู้นั้นออกเสียงลงคะแนนในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การปฏิบัติหน้าที่หรือการมีส่วนได้เสียในเรื่องนั้น รวมถึงเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และ 275 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายเรืองไกร กล่าวว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่นำมายื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในครั้งนี้ และรัฐมนตรีทั้ง 3 คนจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ เนื่องจากเป็นถึงรัฐมนตรี และหากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่ามีความผิด ก็จะต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วย และเรื่องดังกล่าวก็จะเป็นบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองต่อไป เพราะในการเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 พ.ศ.... ณ ตึกรัฐสภา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 177 วรรค 2 เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน ตามมาตรา 171 ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การปฏิบัติหน้าที่ หรือการมีส่วนได้เสียของคณะรัฐมนตรี การออกเสียงลงคะแนนของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน จึงเข้าข่ายลักษณะเป็นข้อห้ามมิให้รัฐมนตรีที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ไม่ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีส่วนใหญ่คนใดได้ออกเสียงลงคะแนนด้วย ทั้งที่มีสถานภาพเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยเช่นกัน


นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีนี้จึงมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่า การออกเสียงลงคะแนนของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 177 วรรค 2 หรือไม่ และการออกเสียงลงคะแนนของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนนั้น จะส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ตนจึงขอทำคำร้องโดยอาศัยสิทธิตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 62 เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook