ปชป.ติ พท.เปิดให้องค์กรต่างชาติแทรกแซงการเมืองไทย

ปชป.ติ พท.เปิดให้องค์กรต่างชาติแทรกแซงการเมืองไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 10.30 น.น.พ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาตำหนิคำให้สัมภาษณ์ ของนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ สื่อต่างชาติที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นบุคคลที่ตระหนักถึงภาพลักษณ์ของประเทศ และระมัดระวังต่อการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศไทย ส่วนคำให้สัมภาษณ์ที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงการตอบคำถามต่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสื่อบางส่วนที่ตั้งประเด็นเรื่องความชอบธรรมของรัฐบาล

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทบทวนและยุติการเคลื่อนไหว เพราะหลังจากที่ได้ทำหนังสือถึงศาลโลก สหประชาชาติ สหพันธ์รัฐสภาระหว่างประเทศ รวมไปถึงกรณีที่นาย จักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ที่ทำหนังสือถึงเอกอัครราชทูตอาเซียน 9 ประเทศ ซึ่งเป็นคำถามที่สื่อต่างชาติมี และถือเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงต่อองค์กรนอกประเทศ ในการเปิดโอกาสให้องค์กรเหล่านั้นเข้ามาแทรกแซงการเมืองของไทย ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นผลสืบเนื่องโดยตรงจากการดำเนินการของพรรคเพื่อไทย และ นปช. เอง หากพรรคเพื่อไทยมีข้อสงสัยในเรื่องของความชอบธรรมในเรื่องรัฐสภา หรือรัฐบาล ช่องทางขององค์กรอิสระภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นศาลปกครอง หรือ ศาลรัฐธรรมนูญก็เปิดช่องให้อยู่แล้ว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยจะกอบกู้ความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก ส่วนหนึ่งคือสร้างความเชื่อมั่นจากต่างชาติ ซงการชุมนุมของ นปช. แม้ที่ผ่านมาจะชุมนุมอย่างสงบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการตั้งใจชุมนุมในวันที่นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมอยู่กับผู้นำในเวทีโลก ทำให้การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่างชาติ ต้องเสนอข่าวการชุมนุมในไทยไปด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในประเทศไทย อย่างไรก็ตามตนเห็นว่า บทบาทของพรรคเพื่อไทย ในการช่วยคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง เพราะเงื่อนไขของกลุ่ม นปช. ที่เสนอ 4 ข้อ เป็นการเสนอคำขาด แต่พรรคประชาธิปัตย์ ยึดมั่นแนวทางการหารือและเจรจา ซึ่งพรรคหวังว่า ช่วง 15 วัน ที่ นปช. ขีดเส้นตายให้รัฐบาลนั้น จะเป็นโอกาสที่การเจรจาหารือเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทราบมาว่า รัฐบาลได้พยายามที่จะร้องขอให้กลุ่มเสื้อแดงส่งแกนนำมาเจรจา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอด เช่นเดียวกับที่วิปฝ่ายค้านก็ปฏิเสธเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดงให้ช่วยเปิดทางให้มีการพูดคุยถึงข้อห่วงในต่างๆ กับรัฐบาล เพราะมิเช่นนั้นจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย หากมีการชุมนุมในช่วงประชุมสุดยอดอาเซียนปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวถึงข้อสงสัยที่ประชาชนมีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีหลายคน ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ตระหนักดีถึงความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ว่า จะสามารถขับเคลื่อนฟันฝ่าวิกฤตและทำให้ประเทศหลุดพ้นจากภาวะที่ท้าทายมาหลายปี ซึ่งความคาดหวังดังกล่าวพรรคยืนยันว่า ภายใน 2-3 วันนี้ สิ่งที่เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงที่พรรคได้รับจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคน พรรคพร้อมที่จะเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบอย่างโปร่งใส ปราศจากการปิดบังใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งข้อสงสัยจากประชาชนมี 2 ส่วนคือ ทำให้ผลประโยชน์ของส่วนรวมเสียไปหรือไม่ และคนบางคนได้รับประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะมีการหารือหลังจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลจะพูดคุยกัน

ผมได้คุยกับรัฐมนตรีวิฑูรย์ (นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ) ว่าเวลาที่ผ่านมานั้น ท่านได้สืบค้นข้อมูลทั้งหมด ซึ่งหลายส่วน ผมยังไม่ได้รับทราบโดยการประชุม ส.ส. พรรควันพรุ่งนี้ ( 3 ก.พ. 52) ผมคิดว่าความกระจ่างชัดในเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อมูลต่างๆ คงจะครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอให้ประชาชนรับทราบ โดยรัฐบาลจะได้ดำเนินการต่อไปโดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญทั้งนี้ท่านวิฑูรย์ ได้บอกกับผมว่า ที่ผ่านมาได้ให้คณะกรรมการทั้ง 7 ชุด ทำงานอย่างอิสระ และข้อมูลทั้งหมดจะรวบรวม นำเสนอโดยไม่แทรกแซงการทำงาน ดังนั้นในส่วนนี้ผมจึงอยากให้สังคมรอฟังข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสับสนต่างๆ เกิดขึ้นมาเป็นลำดับ น.พ.บุรณัชย์ กล่าว

คลี่เคล็ดจีบสาวในคุกตำรับเอ็ม แรมโบ้

ฮือฮา...!! อีกครั้ง เมื่อนักศึกษาสาวปริญญาโทของมหาวิทยาลัยดัง เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และ สตรี ให้ดำเนินคดีต่อนายสุรชัย หรือคณิตศร วิวัฒนชาต หรือ เอ็ม แรมโบ้ อายุ 33 ปี อดีตนักโทษต้องคดีใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม สน.พญาไท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook