เชียงใหม่วิกฤตหนัก "ดอยสุเทพ" หายไปในหมอกควัน

(25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมืองเชียงใหม่หายไปท่ามกลางหมอกควัน จนไม่สามารถมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่จากดอยสุเทพได้ ส่วนคนบนพื้นราบมองไม่เห็นภูเขาทั้งลูกเช่นกัน ค่ามลพิษพุ่งพรวดทุบสถิติของปีเฉียด 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ประชาชนกระทบโดยตรงเริ่มมีอาการแสบตาแสบจมูกหนักขึ้นจนต้องหลีกเลี่ยงออกนอกอาคาร

โดยล่าสุดพบว่าในตัวเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่อำเภอรอบนอกต่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟหนาทึบ ยิ่งสภาพอากาศร้อยในช่วงกลางวัน และช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็ยิ่งกดทับสภาพหมอกควัน และฝุ่นละอองให้สะสมตัวในอากาศหนาวแน่นขึ้นจนล่าสุดค่ามลพิษในตัวเมืองเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทุบสถิติสูงสุดในรอบปีอีก

เมื่อเวลา 13.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราวิทยาลัยกลางเมืองเชียงใหม่วัดได้สูงถึง 186 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ในตัวเมืองเชียงใหม่ประชาชนต่างก็รู้สึกได้ถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายใครที่ออกมาอยู่นอกอาคารเพียงไม่กี่นาทีก็จะมีอาการแสบตา แสบจมูก หายใจลำบากบางคนมีอาการแสบคอจนไม่สามารถทนอยู่นอกอาคารได้เป็นเวลานาน ตามถนนหนทางก็หนาทึบไปด้วยหมอกควัน ชาวบ้านต้องหาวิธีป้องกันตนเองหากจำเป็นที่จะต้องออกมาทำกิจกรรมนอกอาคาร หรือต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องหาหมวก แว่นตา หน้ากากอนามัย เสื้อผ้าแขนยาวออกมาสวมใส่

ขณะเดียวกันภาพจากจุดชมวิวบนดอยสุเทพ ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ สภาพหมอกควันที่ปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่จนหนาทึบทำให้ทั้งตัวเมืองหายไปไม่สามารถมองเห็นวิวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ เหมือนกับเมืองทั้งเมืองหายไปท่ามกลางหมอกสีขาวที่ปกคลุม นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปท่องเที่ยวก็ไม่สามารถชมวิวความสวยงามของเมืองได้เช่นกัน

ขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit