กกต.แจงไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุญจงเหตุสอบตกรอคำสั่งศาล แจงไม่เรียกสุเทพสอบเพราะไม่เกี่ยวโดยตรง

กกต.แจงไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุญจงเหตุสอบตกรอคำสั่งศาล แจงไม่เรียกสุเทพสอบเพราะไม่เกี่ยวโดยตรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กกต.แจงไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุญจงเหตุสอบตก ไม่เรียกสุเทพสอบ เพราะไม่เกี่ยวโดยตรง สดศรีชี้คดีเทพเทือกเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ต้องขึ้นศาลอาญานักการเมือง รองนายกฯพร้อมรับผิดหากศาลฟันช่วยน้องหาเสียง มาร์คป้องสุเทพ ยังไม่ต้องออกจากรัฐมนตรี อ้างยังอยู่กระบวนการศาล แจงยิบ แค่ร่วมงานบุญ จากกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 กรณีช่วยนายธานี เทือกสุบรรรณ น้องชาย หาเสียงสนับสนุนแจกทุนการศึกษา ระหว่างที่นายธานี ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี

กกต.แจงไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุญจงเหตุสอบตก

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายสืบสอบสวน กล่าวเมื่อวันที่ 2 ก.พ. โดยชี้แจงกรณี กกต.ไม่สั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ให้ดำเนินคดีอาญา ว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกิดในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งขณะนั้นนายบุญจงไม่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่ผู้ชนะการเลือกตั้งคือ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี แต่นายพลพีร์ ทุจริตเลือกตั้ง จน กกต.ให้ใบเหลืองและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 2551 ซึ่งขณะนั้นก็มีเรื่องร้องเรียนนายบุญจงแล้ว แต่เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่จึงไม่พิจารณาสำนวนของนายบุญจงในช่วงนั้น และในการเลือกตั้งใหม่นายบุญจงก็ชนะการเลือกตั้ง ต่อมาวันที่ 3 เมษายน 2551 กกต.ได้พิจารณาสำนวนของนายบุญจงที่ค้างอยู่ จึงมติให้ดำเนินคดีอาญา

อย่างไรก็ตาม นายสมชัย ยอมรับว่า กระบวนการสอบสวนสำนวนของนายบุญจงล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่มีงานมาก แต่คงไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดไปตบทรัพย์เพื่อดึงเรื่องให้ช้า และล่าสุดยังได้เพิ่มในสำนวนคำร้องที่จะดำเนินคดีอาญาต่อนายบุญจง ว่า หากศาลอาญาเห็นว่ากระทำก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งด้วย

กกต.แจงไม่เรียกสุเทพสอบ เพราะไม่เกี่ยวโดยตรง

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีกกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่า กรณีดังกล่าวว่าทั้งกกต.กลางและกกต.จังหวัดไม่ได้เรียกนายสุเทพมาสอบจริง แต่เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นกรณีที่เห็นควรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนายสุริญญา ยืนนาน ผู้สมัคร ส.อบจ.อ.เกาะสมุย โดยนายสุเทพเป็นผู้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องและถูกพาดพิง จึงสั่งดำเนินคดี ถ้าศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับมติกกต. นายสุเทพก็ไม่ถือว่า มีความผิด แต่หากศาลเห็นตามกกต. ก็ต้องดำเนินคดีกับนายสุเทพต่อไป

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กรณีที่ดำเนินคดีอาญาเช่นนี้ ไม่ต้องเรียกสอบก็ได้ เพราะนายสุเทพไม่ได้เป็นผู้ ที่จะให้ใบเหลืองหรือใบแดง แต่งานนี้นายสุเทพเข้าไปมีส่วนพัวพัน กกต.ก็เลยเป่านกหวีดฟาล์ว ขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคประชาธิปัตย์ แม้นายสุเทพจะถูกตัดสินว่ามีความผิด ก็จะไม่ส่งผลให้ถูกยุบพรรค เพราะการยุบพรรคมีกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว.เท่านั้น แต่ในกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีกำหนดไว้

กกต.ชี้คดีสุเทพเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ขึ้นศาลนักการเมือง นายสดศรี สัตยธรรม กรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีการวินิจฉัยเฉพาะผู้ที่ถูกร้องเรียน คือนายธานี เทือกสุบรรณ และนายสุริยา จากการสอบสวน มีไปถึงนายสุเทพด้วยว่า นายสุเทพเกี่ยวข้องในส่วนผู้ที่ถูกร้องเรียน และกกต.ลงมติกันว่าให้ดำเนินคดีอาญานายสุเทพขั้นตอนต่อไป เมื่อกกต.วินิจฉัยเสร็จแล้ว จะทำเรื่องวินิจฉัยให้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ถ้ายืนตามกกต. ก็จะยืนตามผล กกต.วินิจฉัยทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่านายสุเทพเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกร้องเรียนทั้ง 2 หรือไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว ก็เป็นหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินคดีนายสุเทพต่อไป ตอนนี้ตนทราบว่ายังไม่มีการส่งเรื่องไปศาลอุทธรณ์ ซึ่งกำลังดูว่าทำไมเรื่องจึงช้า เพราะกกต.มีมติไปตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นายสดศรี กล่าวว่า การไปช่วยผู้สมัคร อาจไปในลักษณะแจกของหรือช่วยหาเสียงก็ได้ ในช่วงนั้นอาจมีลักษณะที่ว่า นายสุเทพยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ส่วนที่ไม่เรียกนายสุเทพมาสอบสวนนั้น ถือเป็นเรื่องของกระบวนการ ฝ่ายสอบสวนของจังหวัดต้องเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่าง และเรื่องนี้ถือเรื่องท้องถิ่น ซึ่งไม่ต้องขึ้นศาลคดีอาญานักการเมือง

นายสดศรี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงมหาดไทย เป็นคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เป็นข้อหาหลอกลวงใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กกต.เห็นว่าเป็นการใส่ร้ายด้วยถ้อยคำเป็นเท็จจริง กกต.ก็ให้ดำเนิคดีอาญา ตอนนี้เรื่องอยู่ฝ่ายธุรการที่จะยื่นต่อศาลต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเลือกตั้งใหญ่ จึงต้องขึ้นศาลคดีอาญานักการเมือง หากเรื่องไปถึงศาล นายบุญจงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่พ้นจากการเป็น ส.ส.

เทพเทือกพร้อมรับผิดหากศาลฟันช่วยน้องหาเสียง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ส่งศาลอาญาดำเนินคดีกับตน คดีช่วย นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย แจกทุนการศึกษา หาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. สุราษฎร์ธานี โดยระบุ ไม่จำเป็นต้องสอบถามเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ทำไปหากเห็นว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ไปช่วยหาเสียง แต่เป็นการไปร่วมเป็นงานสงกรานต์ตามประเพณี ซึ่งจะเป็นเรื่องถูกหรือผิด เข้าข่ายตามที่กฎหมายบัญญัติหรือไม่ คงต้องไปพิสูจน์ในชั้นศาล แต่เชื่อว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายหรือทำทุจริต แต่หากศาลมีมติว่า ผิดก็พร้อมรับ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้จะไม่เชื่อมโยงถึงการยุบพรรคเพราะไม่ใช่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนู/>

นายกฯแก้แทนสุเทพ-ศาลยังไม่ตัดสิน

ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.00 น. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พร้อมให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวว่า ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนายสุเทพ มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เป็นการไปร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ กระบวนการเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับศาลอุทธรณ์ เพราะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น หากศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยอย่างไรจะส่งเรื่องมาให้กกต. พิจารณาในเรื่องคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อยุติของศาลอุทธรณ์ และกกต.ในเรื่องกระบวนการทางคดีอาญาว่าจะดำเนินการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า มติกกต.จะเหมือนกับมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ผู้ถูกตัดสินจะต้องสร้างมาตรฐานทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มติของกกต.ขณะนี้เป็นเรื่องตัวผู้สมัคร แต่ศาลยังไม่ตัดสินให้ใบเหลือง หรือให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เรื่องยังไม่เกิดขึ้น ยังมีอีกหลายขั้นตอน เพราะศาลอุทธรณ์ต้องตัดสินก่อน จึงส่งเรื่องให้กกต.สอบสวนต่อ ซึ่งนายสุเทพยังไม่มีโอกาสได้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงเลย และคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการเพิกถอนสิทธินายกฯ อบจ. เมื่อถามว่า แสดงว่าขณะนี้นายสุเทพยังไม่ต้องออกจากตำแหน่งรองนายกฯใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ต้องรอให้กระบวนการทุกอย่างมีความชัดเจนมากกว่านี้

สุเทพโทร.เคลียร์นายกฯ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าได้โทรศัพท์ทางไกลถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการประชุมเวิลร์ด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ได้มีการชี้แจงกับนายกฯไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคม ขณะที่ได้รายงานสถานการณ์ของคนเสื้อแดงให้นายกฯทราบ โดยรายงานไปว่า ผมไปเพียงงานสงกรานต์ แต่กลับมีการบอกว่าไปทำอย่างนี้ผิด ก็อธิบายไปว่าต้องไปสู้คดีกัน ซึ่งนายกฯเองก็เข้าใจ แต่ยอมรับว่าต่อจากนี้ก็ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นนายสุเทพ กล่าว

แจงยิบแค่ร่วมบุญสงกรานต์

นายสุเทพ ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าก่อนที่จะจัดตั้งรัฐบาล แล้ว โดย กกต.มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ โดยตนเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงในฐานะที่เป็น ส.ส.สุราษฎร์ฯ มานานร่วม 30 ปี และสมัครลงในเขต 2 มาโดยตลอด แต่ครั้งที่ผ่านมาบังเอิญว่า เขต 1 มีตำแหน่งที่ว่าง ประชาชนอยากให้ไปลงในเขต 1 จึงไปลงสมัครและได้เป็น ส.ส.ใหม่ในเขต 2

ชาวบ้านก็เห่อผม ผมก็เห่อชาวบ้าน มีงานอะไรก็เชิญไป ครั้งที่เป็นเรื่องจนถูกร้องนี้ มีการจัดงานสงกรานต์ที่ อ.เกาะสมุย ผมก็ ไปพร้อมกับ ส.ส.อีก 2 คนคือ นายชุมพล กาญจนะ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี ช่วงเช้ามีการทำบุญตักบาตร ต่อมาก็มีการรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมงาน ผมได้ให้ผ้าขนหนูที่มีชื่อของ ส.ส.ทั้ง 3 คน กับผู้ใหญ่จำนวนร้อยกว่าคนและเดินทางกลับ ยืนยันว่าไม่มีการปราศรัยทางการเมืองใดๆ เพียงแต่อวยพรสงกรานต์ปีใหม่ไทยเท่านั้น โดยผมพูดเพียงคนเดียวว่า ขอให้มีความสุขในวันสงกรานต์ จากนั้นก็เดินทางกลับ ต่อมาก็มีคนไปร้องเรียนว่านายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายผม ซึ่งลงรับสมัครนายกฯ อบจ.สุราษฎร์ฯ และมีการกล่าวหามาถึงผมว่า การที่ไปร่วมงานทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ทำให้มีผลได้ ผลเสียต่อคะแนนของน้องชายผม นายสุเทพกล่าว และว่า เรื่องนี้เหตุเกิดที่ อ.เกาะสมุย ซึ่งนายธานีไม่ได้เดินทางไปร่วมงานนี้ด้วย และไม่มีใครขึ้นปราศรัยขอคะแนน

โบ้ยกกต.สับสน-ยันสู้3ศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างเรื่องการแจกทุนการศึกษาด้วย นายสุเทพกล่าวว่า คงจะฟังมาผิด เป็นข้อหาที่ผิด เพราะตนไม่เคยไปแจกทุนการศึกษาที่เกาะสมุยเลย ที่ไหนก็ไม่ได้แจก เพราะระวังอยู่ เนื่องจากตอนหลังมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นออกมา จากเมื่อก่อนที่เคยแจกทุนการศึกษาส่วนตัวส่งให้เด็กๆ เรียนปีละ 48 คน มาช่วงหลังไม่ได้ให้ใครเลย เพราะกฎหมายห้ามไว้ว่า ส.ส.ให้เงินใครเกิน 3 พันบาทไม่ได้ ต้องระวัง ส่วนนายธานีที่ให้ทุนการศึกษาเด็กในนามนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ เรื่องนี้อนุกรรมการสอบสวนของ กกต.ยกคำร้องแล้ว เข้าใจว่า กกต.ให้ข่าวสับสน ส่วนการให้ใบเหลืองนายธานี กกต.ต้องสรุปสำนวนไปยื่นคำร้องกับศาลอุทธรณ์ ถ้าศาลพิจารณาและมีคำพิพากษาออกมาให้ใบเหลืองนายธานี โดยต้องมีการเลือกตั้งใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ฯ ถึงตอนนั้น กกต.ค่อยมาตั้งเรื่องการดำเนินคดีอาญากับผม ในข้อหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ผมยืนยันว่า จะสู้คดีว่าการที่ไปทำบุญในงานประเพณีสงกรานต์จะผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างไร จะต้องสู้กัน 3 ศาลจนถึงฎีกา นายสุเทพกล่าว และว่า ก่อนที่จะมีมติ กตต.ไม่เคยเชิญตนไปชี้แจงข้อกล่าวหาเลย แต่ไม่คิดมาก และไม่สงสัย ที่กกต.มาเปิดเผยข้อมูลช่วงนี้ ทั้งที่กกต.มีมติไปตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 กกต.คงงานเยอะ จำไม่ได้ทั้งหมด

ปัดลาออก-กกต.ไม่เคยให้แจง

เมื่อถามว่า จะพิจารณาลาออกจากตำแหน่งใดๆ เพื่อสร้างมาตรฐานทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ไปสร้างมาตรฐานพิสดารอะไร ขนาดนั้น อันนี้เป็นเรื่องไปทำบุญตามประเพณี ไม่ได้ไปทำผิดกฎหมาย หรือไปฉ้อราษฎร์บังหลวง และยังเป็นปัญหาที่ต้องตีความกันอีกว่า การไปทำบุญตามประเพณีมันผิดหรือไม่ อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะมีคนเปรียบเทียบหรือไม่ว่า กกต.ชี้มูลมาแล้ว เหมือนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. จนนายอภิรักษ์ขอลาออก เหตุใดจึงไม่ใช้มาตรฐานเดียวกัน นายสุเทพกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องและคนละประเด็นกัน ถ้าเป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน อาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ป.ป.ช.ชี้มูล แต่นี่เป็นเรื่องการเลือกตั้งของ กกต.

ถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ยกเรื่องของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าทำผิดเช่นเดียวกับนายบุญจง และอาจมีผลถึงยุบพรรคภูมิใจไทย นายสุเทพกล่าวว่า เพิ่งทราบจากข่าวเมื่อเช้านี้เอง และไม่ทราบรายละเอียด จึงไม่อยากวิจารณ์อะไรไปก่อน เมื่อถามว่า มองว่าขณะนี้สังคมรอบข้างตัวนายกฯเริ่มเป็นพิษแล้วหรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี และยังดีอยู่อากาศสดใส สิ่งแวดล้อมก็ยังใช้ได้ เมื่อถามอีกว่า ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวนายกฯหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้อง

พูดเป็นนัยวิฑูรย์ฝันร้ายแล้ว

นายสุเทพกล่าวถึงกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า พวกตนตระหนักดีว่ากระทบกับความรู้สึกของประชาชน จริงๆ แล้ว ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่นายกฯจะเดินทางไปที่สวิตเซอร์แลนด์ จึงคิดว่าจะมาคุยเรื่องนี้ประมาณวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ โดยตนจะไม่ปกป้องคนผิด เพราะตั้งความหวังไว้ว่า จะต้องเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของประชาชนให้ได้ ดังนั้น อะไรที่ต้องเสียสละก็ต้องทำ แต่ยืนยันว่าไม่มีการเตรียมรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีไว้แต่อย่างใด อย่าไปคิดข้ามช็อต ไม่มีการเตรียมรายชื่ออะไรไว้จนกว่าจะได้ข้อสรุป มาพูดกันอย่างนี้ตอนนี้นายวิฑูรย์คงนอนฝันร้ายไปแล้ว

นายกฯให้สุเทพแจงสาธารณะ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า สิ่งที่นายสุเทพดำเนินการลงไป เป็นการดำเนินการในฐานะของ ส.ส.ที่ต้องออกไปเยี่ยมเยียนประชาชน และในช่วงสงกรานต์ ก็ต้องมีการแจกมอบของขวัญและออกเยี่ยมประชาชน แต่มีผู้ไปร้องเรียนและมีความเห็นในทำนองว่าเป็นการไปช่วยเหลือน้องชายตนเอง ซึ่ง กกต.ต้องดำเนินการตรวจสอบ แต่ขั้นตอนหลังจากนี้ กกต.ต้องส่งเรื่องไปศาล กรณีนายก อบจ. ก่อน ถ้าศาลตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่จึงจะดำเนินการดำเนินการนายสุเทพได้

เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานในฐานะรองนายกฯ โดยนายกรัฐมนตรีเองก็โทรศัพท์มาคุยกันเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก เพราะเป็นเรื่องที่ท่านรองนายกฯสุเทพต้องทำความเข้าใจต่อสาธารณะ และคงไม่มีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ได้ทำในฐานะกรรมการบริหารพรรคและไม่มีผลได้เสียกับพรรคโดยตรง นายสาทิตย์กล่าว

แจงกรณีสุเทพไม่ถึงขั้นยุบพรรค

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีของนายสุเทพ ว่าถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น ไม่ใช่การทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ที่จะเข้าตามมาตรา 237 แห่งรัฐธรรมนูญประกอบกับมาตรา 94 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่มีผลถึงขั้นยุบพรรคการเมืองได้ เพราะกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแตกต่างกัน ใช้กับส.ส.ไม่ได้ นายสุเทพ ถูกข้อหาตามมาตรา 57 ของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้เขียนให้เป็นผลเชื่อมโยงจนพรรคถูกยุบได้

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านและกลุ่มเสื้อแดงจะหยิบยกกรณีที่กกต.ดำเนินคดีอาญานายบุญจงล่าช้าขึ้นมาตรวจสอบ นายสุทธิพล กล่าวว่า ทุกยุคเมื่อเกิดปัญหาข้อโต้แย้งขึ้นมา กกต.ก็จะถูกลากเข้าไปให้ถูกตรวจสอบเสมอ เมื่อใดการเมืองยังไม่เกิดความสมานฉันท์ คนที่อยู่ตรงกลางมักจะถูกลากเข้ามาอยู่ในวงความขัดแย้งเสมอ

พท.จี้ติดกกต.ฟันบุญจง-สุเทพ

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังจับจ้องการทำงานขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. และ กกต. โดยเฉพาะ กกต.ในการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง จากการร้องเรียนของนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ซึ่งผ่านมากว่า 10 เดือนยังไม่มีการดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญจง ในเรื่องการแจกซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สิน ต่อ สภ.จักราช จ.นครราชสีมา แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้นายมีชัย จะไปยื่นร้องเรียนต่อ กกต.และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้ดำเนินการกับ กกต. หากไม่มีการจัดการใดๆ อีก และขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญาโดยเร็ว ไม่ใช่พอเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยก็รีบดำเนินการ แต่พอเป็นเรื่องของประชาธิปัตย์และพรรคร่วมก็ทิ้งค้างคาไว้เช่นนี้

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากมีความชัดเจนว่า กกต.ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ จะถือว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งจะต้องดำเนินคดีทางอาญาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook